📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ตัวประกอบแรงค์ EX – ตอนที่ 136

บทที่ 136
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

MasterGU.noted = ชื่อบทจากเว็บนอก -> Tiger and Snow/เสือและหิมะ (5)

เมื่อราวสิบห้าปีก่อน ซองกุกอุนคือประธานนักเรียนของโรงเรียนแสงเงิน

เขาเปลี่ยนแปลงโรงเรียนพร้อมกับสร้างตำนานไว้มากมาย

วีรกรรมที่โด่งดังที่สุดคือการก่อตั้งสมาคมปีกธรณี—องค์กรจัดการดูแลหอพักที่ปกครองโดยนักเรียน

สมาคมปีกธรณีคอยปกป้องโรงเรียนในหลายด้าน

‘เช่นการแจกเควสต์ปราบหมูป่า หรือไม่ก็ออกไปจัดการด้วยตัวเอง จนแผนการตัดเส้นเลือดภูเขาของเผ่าหมูคลาดเคลื่อน’

มีตำนานสยองขวัญสองเรื่องที่ซองกุกอุนไหว้วานให้ตรวจสอบ

ตำนานเรื่องแรกคือสมาคมลับระหว่างสภานักเรียนและกรรมการรักษาระเบียบ

สมาคมลับคือเบาะแสที่อดีตประธานสมาคมเพลเยอร์สาขาเกาหลีทิ้งไว้ให้ ซึ่งเขาเคยทำพันธสัญญากับเผ่าแท้ที่สร้างรอยแยกแช่แข็งบนคาบสมุทรเกาหลี

ตำนานเรื่องที่สองคือประตูปรภพบนเขาปีกสวรรค์

ประตูปรภพเกี่ยวข้องโดยตรงกับเส้นเลือดภูเขาที่เผ่าหมูอยากทำลาย

‘จะใช่เรื่องบังเอิญแน่หรือ…’

ความเคลื่อนไหวของซองกุกอุนในเกม

ท่าทีแปลกๆ ของซองกุกอุนกับจอนมูยอง ในตอนที่พวกเขาไหว้วานให้สืบตำนานสยองขวัญ

แก่นของตำนานสยองขวัญ

ฉันไตร่ตรองทีละสิ่งในหัวจนได้ข้อสรุป

‘ค่อนข้างชัดเจนว่าซองกุกอุนล่วงรู้ความลับบางอย่าง’

แม้คืนนี้จะยังไม่เข้าเงื่อนไข ‘คืนไร้จันทร์’ แต่ฉันพอจะเข้าใจเจตนาของซองกุกอุน

‘คราวหน้าคงต้องสร้างคืนไร้จันทร์ขึ้นมาเอง… อาจรอให้เมฆหนาจนบดบังดวงจันทร์ หรือไม่ก็ใช้พลังวิเศษหรือไอเท็มสร้างเมฆขึ้นมา…’

ระหว่างการตรวจสอบตำแหน่งประตูปรภพบนแผนที่โฮโลแกรมด้วย ‘เลนส์ส่องประตูผี’ แสงบางจุดสว่างเป็นพิเศษจนแยงเข้ามาในดวงตาฉัน

‘จุดอื่นๆ สว่างแบบคงที่… มีแค่จุดนี้ที่แปลกกว่าใคร’

ปาซ!

ในเวลาเดียวกัน เลนส์ส่องประตูผีหมดอายุการใช้งาน ไอเท็มจึงสลายไปในอากาศ

ฉันจ้องแผนที่โฮโลแกรมท่ามกลางเอฟเฟกต์ไอเท็มหมดอายุสักพัก ก่อนจะตัดสินใจหนักแน่น

‘ไปดูให้เห็นกับตาดีกว่า’

ฉันกระโดดลงจากยอดหอชมวิวสูงสามชั้น แล้วเรียกใช้แสงประทานทันที

〈ท่านเรียกใช้แสงประทาน, เส้นทางเพลเยอร์〉

ปาซ!

ฉันใช้ตัวละครที่มีเลเวลค่าสถานะโดยรวมสูงกว่าตัวฉันในปัจจุบัน เพื่อให้ร่อนลงพื้นอย่างนุ่มนวล

เป็นคิมยูรีในร่างสุดท้าย

ด้วยร่างนี้ ฉันสามารถ ‘ตรวจจับอันตราย’ อัตโนมัติด้วยสกิล ช่วยให้รับมือกับเหตุฉุกเฉินบนภูเขาอันมืดมิดได้ทันท่วงที ขณะเดียวกันก็สามารถใช้ ‘สปรินเตอร์’ เพื่อเร่งความเร็วไปถึงจุดหมาย

‘แต่คงใช้แสงประทานของคิมยูรีกับที่นี่ไม่ได้’

ด้วยธรรมชาติของแสงประทานของเธอ มันไม่เหมาะกับการใช้งานบนภูเขา แถมยังเป็นแสงประทานที่แข็งแกร่งมากจนเผาผลาญระยะเวลาการใช้งาน ‘เส้นทางเพลเยอร์’ อย่างรวดเร็ว

〈ท่านใช้สกิล ‘สปรินเตอร์’ ของตัวละคร 〉

ฉันเปิดใช้สปรินเตอร์เพื่อส่งตัวเองไปยังปลายทางที่เห็นจากเลนส์

จนกระทั่ง…

〈สกิลของตัวละคร ‘ตรวจจับอันตราย’ ทำงาน〉

〈สกิลของตัวละคร ‘ตรวจจับอันตราย’ ทำงาน〉

ฮวิก! ควัง! พ่อก!

ก้อนหินเล็กๆ ที่ไม่ถึงกับทำให้ตาย กระหน่ำพุ่งเข้าหาฉันจากทุกทิศ

ปั๊มที่คอยพ่นแก๊สสลบและอัมพาต

หนามแหลมที่พุ่งเข้าใส่พร้อมกับการคำรามของเสียงสัญญาณเตือน

ปัจจัยข้างต้นทำให้เสียง ‘ข้อความแจ้งเตือนกับดัก’ ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

‘ทำไมถึงมีกับดักเยอะขนาดนี้! คำนึงจากประเภทกับดัก… คงไม่ใช่ฝีมือของเผ่าเสือแน่’

ดังนั้น คนที่บ้าพอจะวางกับดักบนเขาปีกสวรรค์ทั้งที่ตัวเองไม่ใช่เผ่าเสือ…

กลุ่มเดียวที่ฉันนึกถึงคือนักเรียนห้อง 3/0—อูกีฮวันและผองเพื่อน

ดูเหมือนปลายทางของฉันจะเกี่ยวข้องกับพลังจักรวาลที่พวกเขาตามหา

‘การที่เด็กปีสามยังไม่ปรากฏตัว สื่อได้ว่าปัจจุบันพวกเขาไม่ได้อยู่แถวนี้’

ไม่ว่าจะมืดแค่ไหน แต่ถ้าพบว่ากับดักทำงาน ก็คงรีบแจ้นวิ่งขึ้นเขาปีกสวรรค์มาทันที

แปลว่าคืนนี้ออกไปเล่นซนกันนอกโรงเรียนสินะ

‘…ถ้าจำไม่ผิดคงเป็นแถวนี้’

ฉันมาถึงด้านหน้า ‘ต้นอารามสวรรค์’

ต้นอารามสวรรค์ถูกบรรยายว่าเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งเขาปีกสวรรค์ และเป็นต้นไม้ที่เหี่ยวเฉาช้าที่สุดในเกม

‘ภายในเกม เรามองมันเป็นแค่หนึ่งในองค์ประกอบของเทพนิยายทันกุน’

แต่ในเมื่อที่นี่คือโลกความจริง ต้นอารามสวรรค์อาจมีความนัยบางอย่างแฝงอยู่

ขณะฉันเข้าใกล้ต้นอารามสวรรค์ ไม่มีเสียงแจ้งเตือนอันตรายดังขึ้น

รอบต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ปราศจากร่องรอยของมนุษย์ ดูเหมือนแม้แต่เด็กแสบห้อง 3/0 ก็ยังไม่กล้าแตะต้อง

เมื่อเข้าใกล้ต้นไม้ในระยะที่เอื้อมมือจับถึง

ฟาาา…

ต้นอารามสวรรค์เริ่มเปล่งแสงสีขาว

เกิดเป็นกลุ่มแสงสลัวลอยวนเวียนอยู่รอบต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่มีใบหนาแน่น

ไม่นานกลุ่มแสงก็รวมตัวเป็นร่างมนุษย์ แล้วลอยมาทางฉัน

‘ดูเหมือนมันอยากจะบอกอะไรกับเรา’

กลุ่มแสงพยายามโบกมือและใช้ภาษากาย แต่แน่นอนว่าฉันไม่เข้าใจ

กลุ่มแสงดูเหมือนหยุดครุ่นคิดสักพัก ก่อนจะลอยเข้ามาใกล้ฉันแล้วชี้มือไปทางต้นอารามสวรรค์

‘บอกใบ้ให้ฉันใช้มือจับต้นไม้?’

ในเมื่อสกิลตรวจจับไม่ส่งเสียงเตือน ฉันจึงลองยื่นแขนไปจับ

ทันทีที่ฝ่ามือสัมผัสกับเปลือกไม้อารามสวรรค์ ฉันรับรู้ถึงความอบอุ่นจากผิวหนังในจุดที่สัมผัส

‘ปกติแล้วเปลือกไม้ไม่ควรร้อนแบบนี้!’

วาบ!

แม้จะเป็นปรากฏการณ์ที่แปลก แต่ก็เกิดขึ้นแค่ชั่วครู่

ต้นอารามสวรรค์ซึ่งมีกลุ่มแสงลอยวนเวียนอย่างอ่อนโยน เริ่มแผ่แสงจ้าราวกับใกล้จะระเบิด

‘เป็นคลื่นพลังวิเศษที่ยิ่งใหญ่มาก…!’

หลังจากเปล่งแสงจ้าพร้อมกับแผ่คลื่นพลังวิเศษอันท่วมท้นประหนึ่งส่งข้อความขึ้นไปยังฟากฟ้า ต้นอารามสวรรค์เริ่มมีท่าทีสงบลง

ท่ามกลางคลื่นพลังวิเศษอันเข้มข้น ฉันได้ยินเสียงข้อความระบบดัง

〈เลเวลของสกิล ‘สื่อสารกับจักรวาลเหนือรูป’ เพิ่มจาก 1 เป็น 2〉

ข้อความที่ไม่ได้ยินมานานแล้ว

‘…ตรงนี้คือจักรวาลเหนือรูป? หรือว่าพลังจักรวาลที่นักเรียนห้อง 3/0 ไล่ตามจะหมายถึง…’

ข้อความระบบยังไม่จบลง

〈สกิล ‘พลังโชคชะตา’ ทำงาน〉

วาบ!

สิ้นเสียงข้อความแจ้งเตือน หน้าต่างสกิลของฉันแสดงขึ้น

ก่อนหน้านี้พลังโชคชะตาเคยชี้นำให้ทำอะไรแปลกๆ มามากก็จริง แต่ก็ไม่เคยแสดงหน้าต่างสกิลมาก่อน

ฟาาา…

ในเวลาเดียวกัน กลุ่มแสงข้างๆ ต้นอารามสวรรค์ชี้มายังสกิลหนึ่งบนหน้าต่างสกิล

‘…เอายังไงดีล่ะ’

สกิลที่กลุ่มแสงชี้มาก็คือ ‘สื่อสารกับจักรวาลเหนือรูป’

ดูเหมือนพลังโชคชะตาจะอยากให้ฉันสื่อสารกับจักรวาลเหนือรูปตอนนี้เลย

‘ครั้งแรกที่สื่อสารกับเจ้านั่น เราสลบไปสามวันสามคืน’

ตอนนี้เลเวลค่าสถานะโดยรวมของฉันสูงขึ้นมากแล้ว อีกทั้งเลเวลของสกิลสื่อสารก็ยังเพิ่มขึ้น ดังนั้นน่าจะสลบไม่ถึงสามวัน

แต่การสลบบนภูเขาไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน

จริงอยู่ ฉันสามารถเรียกให้ใครสักคนมารับด้วยการบอกว่า ‘เดี๋ยวฉันจะสลบนะ ช่วยมารับหน่อย’ แต่หลังจากนั้นก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไรให้ฟังขึ้น

ช่างเถอะ ถึงเราจะไม่ได้บอกใคร แต่คงมีใครสักคนแวะมาดูอยู่แล้ว

‘โดยเฉพาะนักเรียนห้อง 3/0… ในกรณีนี้เรายังพอรับได้’

ถ้าพวกเขาเห็นรุ่นน้องสลบอยู่ สิ่งแรกที่ทำคงเป็นการนำตัวไปส่งห้องพยาบาล

และเมื่อฉันได้สติ อย่างมากก็คงโดนตามก่อกวนอยู่พักหนึ่ง

ฉันตัดสินใจหนักแน่นพร้อมกับเรียกใช้งานสกิล

〈ท่านเรียกใช้สกิล ‘สื่อสารกับจักรวาลเหนือรูป’ 〉

อูงงง—

ราวกับสมองของฉันถูกโยนขึ้นไปในอากาศ

ภาวะคล้ายร่างกายพุ่งขึ้นอย่างฉับพลัน ทำเอาศีรษะของฉันวิงเวียนหนักหน่วงราวกับสมองแตกเป็นเสี่ยงๆ

…ครั้งแรกที่สื่อสารเจ้านั้น เราแก้ปัญหานี้ยังไง?

ใช่แล้ว

พั่ก!

ฉันซัดกำปั้นใส่แก้มตัวเอง

ประสาทสัมผัสเริ่มกลับคืนมาพร้อมกับอาการชาที่แก้มและมือ

“ถ้าจะให้ทำอะไรก็รีบบอกมาเร็วเข้า”

อูงงง—!

คลื่นพลังวิเศษในร่างกายฉันเริ่มสั่น ส่งผลให้สมองสั่นตามไปด้วย

เป็นความรู้สึกราวกับจักรวาลเหนือรูปกำลังแทรกซึมเข้ามาในตัว

คลื่นพลังวิเศษที่เคลื่อนไหวตามใจชอบ เริ่มหลั่งไหลไปรวมกันรอบดวงตา

…ยังกับที่ตอนใช้เปิดใช้งาน ‘เนตรส่อง’ !

“สกิลเนตรส่องมันทำไม?”

แม้จะหายใจได้ลำบาก แต่ในหัวฉันเต็มไปด้วยคำถาม

ตอนแรกเคยคิดว่าสกิลเนตรส่องแค่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็นเล็กน้อย กับช่วยในการตรึงศัตรู แต่ดูเหมือนจะมีมากกว่านั้นโนiวลกูดอทคอม

เห็นทีต้องวิจัยการใช้งานให้มากขึ้น

“ไม่มีคำใบ้เพิ่มแล้วหรือ”

ฉันถามด้วยลมหายใจที่ใกล้ขาดห้วง

ทันใดนั้น ทัศนวิสัยซีกหนึ่งของฉันกลายเป็นสีฟ้าอมเขียว

ฝั่งท้องฟ้ากับโรงเรียนแสงเงินดูปกติ ฝั่งที่เป็นสีฟ้าอมเขียวคือแถบภูเขาปีกสวรรค์

“จะสื่อว่าฉันควรจับตาดูภูเขาปีกสวรรค์เอาไว้ใช่ไหม หมดหรือยัง?”

ไม่มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น

ข้อความจากจักรวาลเหนือรูปสิ้นสุดลงที่ตรงนี้

ฉันควรจะตัดการเชื่อมต่อทันที แต่พอดีว่ามีบางสิ่งอยากถามมานานแล้ว

〈คำเตือน: การสื่อสารกับจักรวาลเหนือรูปมากเกินไป อาจทำให้ร่างที่เหมาะสำหรับเปลี่ยนอนาคตมิติได้รับความเสียหาย〉

ฉันรีบถามโดยไม่สนใจคำเตือน

“รุ่นน้องของฉันจากโลกก่อนหน้า… ชอนซองฮอนน่ะ… เขายังสบายดีไหม”

จักรวาลเหนือรูปไม่ตอบ

ฉันเตรียมถามซ้ำ แต่ระบบส่งเสียงเตือนอีกครั้งก่อนจะได้ลงมือ

〈คำเตือน: ร่างที่เหมาะสำหรับเปลี่ยนอนาคตมิติถึงขีดจำกัดแล้ว〉

〈จำกัดการเข้าถึงร่างที่เหมาะสำหรับเปลี่ยนอนาคตมิติ〉

น่าจะถามให้เร็วกว่านี้หน่อย

ขณะฉันนึกเสียดาย ประสาทสัมผัสแปลกๆ ทั้งหมดในตัวพลันอันตรธานหาย พร้อมกับการมองเห็นที่กลายเป็นสีดำ

* * *

คฤหาสน์วังมยองโฮ

หลังจากไล่อ๊กโทยอนที่ยืนกรานว่าจะค้างคืนกลับไป

ลูกหลานเสือเงินแยกย้ายเข้านอนหลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการต่อบล็อกรถไฟเหาะและชิงช้าสวรรค์

เผ่าเสือทั้งสามย้ายมาอยู่ในห้องนั่งเล่นพลางจิบน้ำชา

“สงบได้สักที”

“ถ้าซอโฮกับอีโฮไม่ห้ามไว้ ข้าคงตะเพิดนังกระต่ายจันทร์กลับไปนานแล้ว”

เสือเหลืองกล่าวขณะกินขนมต็อกกระต่ายจันทร์รสอบเชยและถั่วแดงน้ำผึ้งซึ่งเป็นสินค้าเฉพาะฤดูร้อน

แม้จะเกลียดอ๊กโทยอนเข้ากระดูก แต่เสือเหลืองมักกินขนมต็อกกระต่ายจันทร์ที่เธอนำมาให้จนเกลี้ยงเสมอ

“เจอท่านกี่ครั้งก็เห็นสวมเครื่องแบบนักเรียนตลอดเลย ไม่อึดอัดบ้างหรือ”

“ไม่เลย สบายจะตาย”

แม้เครื่องแบบโรงเรียนแสงเงินจะขึ้นชื่อว่าสวมใส่สบาย แต่ก็ไม่มีทางสบายขนาดนั้นแน่

เสือแดงกล่าวต่อไปโดยไม่โต้แย้งคำตอบเสือเหลือง

“ชีวิตในรั้วโรงเรียนดูน่าสนุกดีนะ”

“คอยจับตาดูเผ่าหมูเอาไว้ ถ้าตือหงอเหนงกลับมาเมื่อไรก็รีบถอนตัว”

“ตกลง”

ทันใดนั้น เสือขาวผู้กำลังอุ้มสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ในอ้อมแขน พลางดื่มน้ำต้มขิงอบเชยอย่างไม่พูดไม่จา พลันลุกพรวดจากเก้าอี้

“เสือขาว… มีอะไร?”

ถัดจากเสือขาว เสือเหลืองเริ่มสัมผัสถึงความผิดปกติ

แม้จะเลือนราง แต่ก็รู้สึกถึงกระแสพลังประหลาดบนเขาปีกสวรรค์

บ๊อก! บ๊อกบ๊อก!

สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ในอ้อมแขนเสือขาวเริ่มเห่าไปทางเขาปีกสวรรค์

“พวกเราไปดูกันเถอะ เสือแดง เจ้าเฝ้าอยู่ที่นี่”

“ตกลง”

โดยไม่รีรอ เสือขาว เสือเหลือง และสัตว์ศักดิ์สิทธิ์รีบกระโจนไปทางเขาปีกสวรรค์ทันที

แม้พลังงานประหลาดจะหายไประหว่างทาง แต่เพื่อทำการตรวจสอบ ทั้งสามยังคงมุ่งหน้าไปยังจุดที่สัมผัสถึงความผิดปกติ

จนกระทั่งได้พบนักเรียนคนหนึ่งนอนหมดสติอยู่หน้าต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์—ต้นไม้อารามสวรรค์

* * *

เมื่อลืมตาขึ้นมา โลกของฉันก็มีแค่…

สิ่งมีชีวิตคล้ายก้อนสำลี กำลังนอนอยู่ระหว่างร่างกายฉันกับผ้าห่มสีขาว

เจ้าบ่วงนอนขดอยู่บนอกฉัน

แม้สมองจะยังเบลอๆ หลังจากเพิ่งได้สติ แต่ฉันมั่นใจมาก

“ที่นี่ต้องเป็นสวรรค์แน่นอน…!”

ขณะเอื้อมมือไปลูบหัวเจ้าบ่วงอย่างมีความสุข น้ำเสียงเจือความหงุดหงิดของใครบางคนดังขึ้น

“…พอตื่นขึ้นมาก็โง่ลงทันทีเลยหรือ”

เป็นเสียงของวังจีโฮ

ขณะเริ่มสงสัยว่าทำไมหมอนี่ถึงอยู่บนสวรรค์กับเจ้าบ่วงได้ ฉันค่อยๆ ได้สติกลับมา

มองไปรอบตัว ที่นี่คงเป็นห้องผู้ป่วย ณ ตึกพยาบาลหมายเลขหนึ่งในเขตส่วนกลาง

มองไปยังนาฬิกาโฮโลแกรม ตอนนี้เป็นช่วงบ่ายวันศุกร์

ผ่านมาแล้วสิบห้าชั่วโมงหลังจากฉันใช้สกิลสื่อสาร

‘ป่านนี้คงจบคาบเรียนแล้วสินะ…’

คาบบ่ายวันนี้ดันตรงกับวิชา ‘แนะนำเอนามี’ ของครูกงชองวอนอีกแล้ว

กลายเป็นว่าฉันโดดเรียนโดยไม่ได้ตั้งใจ

“ผลการตรวจระบุว่า นายประสบภาวะหมดสติชั่วคราว สันนิษฐานว่าเกิดจากการทำงานหนักเกินไป”

เสือเหลืองกล่าวพลางมองชาร์ตโฮโลแกรมด้วยสีหน้าไม่พอใจ

“ยังมีอีกหนึ่งข้อสันนิษฐาน”

“มันคือ?”

แทนการตอบ วังจีโฮชี้ไปด้านหลังฉัน

เมื่อหันไปมอง ฉันได้เจอกับแบคโฮกุน

อีกฝ่ายกำลังจับบางสิ่งสีขาวๆ ไว้ในมือ

‘คงเป็นตัวที่ฉันเห็นใกล้กับต้นอารามสวรรค์’

ถึงจะไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร แต่ดูแล้วคงถูกลากตัวมาจากเขาปีกสวรรค์

“เจ้านี่คือ ‘วิญญาณภูเขา’ แห่งเขาปีกสวรรค์”

“วิญญาณภูเขา? หมายถึงเทพภูเขา?”

“ก็ใช่ แต่วิญญาณภูเขาน่ะ… ส่วนใหญ่ยังขาดบารมีที่จะเลื่อนไปเป็นเบื้องบนอย่างเทพภูเขา”

ในเทพนิยายสร้างชาติ ภูเขามักเป็นสถานที่สำหรับเสด็จเยือนของเทพสวรรค์ในวันฟ้าเปิด

หลายวัฒนธรรมบนคาบสมุทรเกาหลีก็กราบไหว้ภูเขา บางราชวงศ์ถึงกับยอมฟังคำสั่งจากวิญญาณภูเขา

…มีของแบบนั้นอยู่บนเขาปีกสวรรค์ด้วยสินะ

“ในเมื่อเทพสวรรค์ไปจากภูเขาปีกสวรรค์นานแล้ว เป็นธรรมดาที่บนเขาจะมีวิญญาณภูเขามาปักหลักแทน ซึ่งนั่นถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี… แต่เจ้ากล้าดียังไงมาทำร้ายผู้มีพระคุณของเรา”

คำพูดของวังจีโฮทำเอาสิ่งที่ขาวโพลนนั่นเริ่มสั่นไหว

…เราไม่ได้หมดสติเพราะวิญญาณภูเขาสักหน่อย

“นายพูดเรื่องอะไร ฉันจำไม่ได้เลยว่าเคยถูกวิญญาณภูเขาทำร้าย”

“…นายคิดว่าตัวเองจดจำเหตุการณ์ทั้งหมดได้? วิญญาณภูเขาไม่ได้ดีไปเสียทุกตน จำเอาไว้ บางตนก็ชอบล่อลวงมนุษย์เพื่อช่วงชิงวิญญาณ เช่นเจ้านี่เป็นต้น”

ดูเหมือนวังจีโฮจะปักใจเชื่อไปแล้วว่าฉันถูกวิญญาณภูเขาล่อลวงกลางดึก

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ตัวประกอบแรงค์ EX

ตัวประกอบแรงค์ EX

EX Rank, Ex Rank Supporting Role’s Replay in a Prestigious School, EX Rank Side Character's School Replay, 명급리, 명문고 EX급 조연의 리플레이
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
หลังจากเคลียร์บทสุดท้ายของเกมกากแห่งชาติสำเร็จ เขากลายเป็นตัวประกอบไร้นามในเกมที่ตัวเองเคยเล่น ตัวประกอบแรงค์ EX ที่เหนือธรรมดาและยากจะหยั่งถึง ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังทุกสิ่ง!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset