📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ตัวประกอบแรงค์ EX – ตอนที่ 117

บทที่ 117
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

MasterGU.noted = ชื่อบทจากเว็บนอก -> The Voice of Weapons/เสียงของอาวุธ (5)

‘อยากเล่นหมากรุกกับเรา?’

เป็นข้อเสนอที่ไม่มีปี่มีขลุ่ย

ผิดคาดจริงๆ ที่แบคโฮกุนเล่นหมากรุกเป็น แถมยังขอท้าแข่ง

‘อยากแข่งเพราะได้ยินว่าเราเพิ่งคว้าแชมป์หมากรุก?’

ทำตัวไม่เหมือนแบคโฮกุนตามปกติ

‘เรายังอ่อนหัดนัก!’

กล้าเรียกตัวเองว่าสวะเดนตายของเพลเมโกได้ยังไง ในเมื่อไม่เข้าใจพฤติกรรมของตัวละครคู่กายที่บังคับมาตลอดสิบปี!

ฉันสาบานกับตัวเองว่าจะพยายามให้หนักขึ้น พลางส่งข้อความตอบกลับไปว่า ‘ตกลง’

ปิ๊งป่อง!

แบคโฮกุนตอบกลับมาทันที

เนื้อหาข้อความคือพิกัดของสถานที่

‘ไปกันเลย’

* * *

เขตชมวิวของโรงเรียนแสงเงิน

เกือบทั้งหมดของถนนริมทะเลสาบสีคราม เชื่อมต่อเข้ากับเขตส่วนกลาง แต่ก็มีบางเส้นเชื่อมกับเขตชมวิว

เขตชมวิว—สถานที่ซึ่งส่วนใหญ่จะปลอดคน อีกทั้งยังห่างไกลจากสิ่งอำนวยความสะดวก

ไม่มีใครอยู่เลย ในทิวทัศน์ที่ฉันเห็นจากบนแอร์บอร์ด

สวบ!

เมื่อแอร์บอร์ดร่อนลงจอด ใครบางคนปรากฏตัวราวกับรออยู่แล้ว

แบคโฮกุน เจ้าของเรือนผมสีดำขลับ แต่งกายในเสื้อเชิ้ตผ้าออกซฟอร์ด (Oxford)

มองผิวเผินดูเหมือนมนุษย์ตามปกติ

“ตามมา”

กล่าวจบ แบคโฮกุนก็เดินนำหน้าไป

ถนนเลียบทะเลสาบอันเงียบสงบ

เสียงฝีเท้าของแบคโฮกุนกับฉัน ซึ่งย่างกรายผ่านหมอกริมทะเลสาบ คอยดังสะท้อนเป็นระยะ

‘นี่สินะ หมอกทะเลสาบที่มักปรากฏในตำนานผีของทะเลสาบสีคราม’

ทะเลสาบสีครามจะมีหมอกปกคลุมตลอดเวลาในบางจุด ไม่ว่าฤดูกาล สภาพอากาศ หรืออุณหภูมิจะเป็นเช่นไร

มันคือสารเร่งที่ทำให้ตำนานผีโด่งดังไปทั่วโรงเรียน

แต่ความจริงแล้ว หมอกทะเลสาบคือ ‘บาเรียปัดเป่า’ ที่แบคโฮกุนสร้างขึ้น

‘จากบรรดาบาเรียมากมาย ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเลือกใช้บาเรียปัดเป่า’

ปัดเป่า—หมายถึงการผนึกและกำจัดความชั่วร้าย

นับตั้งแต่อดีตกาล เสือขาวถือเป็นสัตว์วิเศษแห่งการปัดเป่า ร่วมกันกับมังกรคราม

ถ้าจะอ้างอิงจากตำนานนั้น

‘หรือทะเลสาบสีครามจะเกี่ยวกับภูตผีจริงๆ …’

ระหว่างเดินคิดอะไรเรื่อยเปื่อย หมอกรอบตัวเริ่มหนาขึ้น

ขณะแผ่นหลังของแบคโฮกุนค่อยๆ พร่ามัว

พาาซ!

‘เขี้ยวขาว’ แห่งตัดสายฟ้าผ่าเมฆาถูกอัญเชิญออกมาบนมือแบคโฮกุน

เรือนผมของเขาเปลี่ยนเป็นสีขาวโพลน บ่งบอกว่ากำลังใช้พลังผ่านแสงประทาน

ซ่อก!

เมื่อแบคโฮกุนเหวี่ยงเขี้ยวขาวแห่งตัดสายฟ้าผ่าเมฆาไปข้างหน้า ประตูบานหนึ่งเผยตัวขึ้นท่ามกลางสายหมอก

หากไม่นับบานประตู มิติรอบข้างจมอยู่ในสายหมอกจนแทบมองไม่เห็น

ปรากฏเพียงป้ายแผ่นหนึ่ง ซึ่งถูกแปะไว้เหนือประตู

— หอฝึกสีเงิน —

เป็นมิติส่วนตัวของแบคโฮกุน ซึ่งตั้งอยู่ภายในโรงเรียนแสงเงิน

‘ไม่อยากเชื่อว่าจะได้มาหอฝึกสีเงิน…’

แม้กระทั่งในเกม ฉันคิดว่าแบคโฮกุนคงมาไม่บ่อยนัก เพราะมันคือสถานที่สำหรับฝึกตนตามลำพัง

แอ๊ด!

เดินผ่านโถงไม้สีขาวของหอฝึกสีเงิน เปิดประตูบานในสุดถูกเปิดออก

บนหลังคาทรงโดม ท้องฟ้าอันพร่างพราวยามรัตติกาล กำลังท่วมท้นไปด้วยคลื่นพลังวิเศษ

‘กลุ่มดาวเจ็ดประจิม’

กลุ่มดาวของชาวเอเชียตะวันออก เส้นขนานที่ยี่สิบแปด

ในหมู่ดาวเหล่านั้น มีดาวจำนวนเจ็ดดวงถูกจัดอยู่ในกลุ่มเจ็ดประจิมแห่งเสือขาว

ประกอบด้วย กยูซู, รูซู, วีซู, มโยซู, พีลซู, ชาซู และ ซัมซู

ดาวเจ็ดดวงเรียงตัวกันเป็นภาพของเสือขาวติดปีก ซึ่งแตกต่างจากเสือขาวบนพื้นพิภพ

‘ภายในเกม เขาเคยอยู่ในร่างนั้นแค่ครั้งเดียว’

วินาทีก่อนที่จะถึงจุดจบ

ภาพของดาวเจ็ดดวงและกลุ่มดาวตก ปรากฏขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ

ร่างจริงของแบคโฮกุนที่โบยบินบนท้องฟ้า ยังคงสลักอยู่ในใจฉันไม่รู้ลืม

“โชอึยชิน ชักอาวุธออกมา”

ชิ้ง—!

ระหว่างที่ฉันแหงนหน้ามองเพดาน แบคโฮกุนตั้งท่าดาบอยู่ฝั่งตรงข้าม

‘หมอนี่เอาจริง!’

ดูเหมือนความโศกของแบคโฮกุน จะช่วยเพิ่มแสงสว่างให้เขี้ยวขาว

ดาบในมืออีกฝ่ายฉาบไปด้วยพลังงานอันคมกริบ ยิ่งกว่าในตอนที่ทำลายบาเรียปัดเป่าหน้าหอฝึกสีเงิน

ปลายเขี้ยวขาวเล็งมาทางฉัน

“ห้ามใช้พลังของคนอื่น”

แบคโฮกุนพูดราวกับล่วงรู้ตัวจริงของ ‘เส้นทางเพลเยอร์’

ฉันทำตามคำพูดเขา ด้วยการล้วงคราดซ่างเป่าซินจินออกจากหน้าต่างไอเท็มโดยไม่ใช้แสงประทาน

〈สกิล ‘สรรพภัณฑ์’ ถูกกระตุ้น〉

วาบ!

เวลาเดียวกับที่ฉันจับคราด กระดูกสันหลังพลันเย็นยะเยือก

ฉันขยับมือไปเองโดยไม่รู้ตัว เพื่อป้องกันมิให้ร่างกายได้รับอุบัติเหตุ

คั้ง!

คมเขี้ยวขาวและคราดซ่างเป่าซินจินกระทบกัน

สองมือที่กำลังจับคราด เกิดอาการชาทันที

แบคโฮกุนถือเขี้ยวขาวด้วยมือข้างเดียว

‘ดาบใหญ่ขนาดนี้… ถือมือเดียวไปได้ยังไง’

ค่าสถานะโดยรวมของฉันพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนตอนนี้มีเลเวล 20 แล้ว

ส่วนเลเวลของสกิลสรรพภัณฑ์คือ 4

ในทางกลับกัน ค่าสถานะโดยรวมของแบคโฮกุนอยู่ที่เลเวล 55

วิชาดาบอยู่ที่เลเวล 10

แบคโฮกุนถือดาบใหญ่ด้วยมือข้างเดียวเพราะต้องการต่อให้ฉัน แต่นั่นมิได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นมากนัก

“มีสมาธิหน่อย”

เขามองเหยียดด้วยสายตาเย็นชา

“เจ้ามีหลายสิ่งที่อยากทำไม่ใช่รึไง… หลายต่อหลายสิ่ง”

คั้ง!

แบคโฮกุนเหวี่ยงแขนแผ่วเบา แต่ฉันกลับกระเด็นถอยหลังไปพร้อมกับอาวุธ

เกือบจะทำคราดหลุดมือแล้วกลิ้งหลุนหลุนไปกับพื้น

‘ต่างชั้นกันเกินไป เราไม่ใช้คู่ต่อสู้ของหมอนั่น!’

ฉันลองไตร่ตรองหาสิ่งที่พอจะทำได้ แต่บนมือมีไพ่ให้เลือกใช้น้อยเกินไป เพราะอีกฝ่ายไม่อนุญาตให้ใช้แสงประทาน

อย่างดีที่สุดคงเป็นไอเท็ม ‘โชคชะตาไร้ชื่อ’ ซึ่งไม่เคยลองใช้งาน แต่ดูแล้วคงไม่มีประโยชน์ในสถานการณ์ปัจจุบัน

‘จะต้องมีวันที่แสงประทานของเราถูกผนึกแน่… หากเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าโดยมิอาจเรียกใช้แสงประทาน เมื่อนั้นคงถึงคราวจบเห่’

ตัวละครของฉันแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เชียว

ฉันรู้สึกภาคภูมิใจ แต่ที่รู้สึกมากกว่านั้นคือความหงุดหงิด

แบคโฮกุนคอยยั่วยุฉันเพื่อเพิ่มความฮึกเหิม

“…ด้วยพลังอ่อนแอแบบนี้ เจ้าคงไขว่คว้าทั้งหมดนั่นมาไม่ได้”

แบคโฮกุนเหวี่ยงเขี้ยวขาวอีกหน

ทัศนวิสัยของฉันกลายเป็นสีขาวโพลน พร้อมกับเสียงเหล็กระเบิดที่ดังจากคราดซ่างเป่าซินจิน

คั้ง!

สองมือของฉันกำลังร้อนรุ่ม

โดยไม่ปล่อยให้มีเวลาสงบใจ เขี้ยวขาวของแบคโฮกุนวกกลับมาจู่โจมอีกครั้ง

หนึ่งดาบ สองดาบ

ทัศนียภาพบิดเบี้ยวเนื่องจากกระแสลมของเขี้ยวขาว

‘การดวลในครั้งนี้ จะช่วยให้เราได้ยินเสียงของอาวุธแน่หรือ…’

ยังไม่ทันจะพบคำตอบ คมดาบโหมกระหน่ำเข้าใส่อีกครั้ง

ถ้าไม่ใช่เพราะมั่นใจว่าแบคโฮกุนจะไม่ทำอันตราย ป่านนี้ฉันคงเรียกใช้แสงประทาน หรือไม่ก็เผ่นหนีไปแล้ว

คั้ง! คั้ง—!

แม้รูปแบบการโจมตีของแบคโฮกุนจะถูกอ่านออกจนโต้กลับได้บ้าง แต่สถานการณ์ก็ยังตกเป็นรองเหมือนเดิม

‘ขอคำใบ้ดีไหมนะ’

แต่สุดท้ายก็มิได้เปล่งออกไป

น่าแปลกมาก ปากของฉันไม่ขยับเขยื้อนเลยสักนิด

ฉันเป็นฝ่ายขอให้ช่วยหาทางฟังเสียงของอาวุธก็จริง แต่กลับรู้สึกพ่ายแพ้ถ้าต้องเอ่ยปากถามถึงคำใบ้ระหว่างการต่อสู้

‘ถ้าไม่ใช่หมากรุก เราไม่เคยหมกมุ่นอยู่กับชัยชนะ’

ระหว่างกำลังหยุดเขี้ยวขาวของแบคโฮกุน

‘หือ…?’

ใบหน้าอันเย็นชาของอีกฝ่าย ดูอบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย

ฉึบ! novelgu.com

แบคโฮกุนเป็นฝ่ายชักเขี้ยวขาวกลับแล้วก้าวถอยหลัง

เขาเปิดปากขณะยังคงเล็งปลายดาบมาหาฉัน

“ลองนึกดูให้ดี ถึงเหตุผลที่เจ้าได้รับ ‘ฉายา’ ในปัจจุบัน”

ฉายาของฉัน?

คงไม่ใช่ ‘ชื่อนั้น’ แน่ แต่น่าจะหมายถึงซูเปอร์โนว่าไร้นาม

‘เรากลายเป็นซูเปอร์โนว่าไร้นามได้ยังไง…’

ทีมสอบเข้าที่สิบสาม

โรงยิมอันมืดมิด

เอนามีที่เป็นบริวารเผ่าหมี

การจับทีมกับนางนัมอุกและอูซังฮุน

ความหวาดหวั่นขณะเผชิญหน้ากับเอนามีในระยะประชิด

อาวุธเกรดห่วยที่ช่วยจบสถานการณ์

คิดถึงตรงนี้ ฉันผุดไอเดีย

‘ความชำนาญ!’

ในโลกนี้ ไอเท็มที่อยู่ในรูปแบบอาวุธจะมีแนวคิดของ ‘ความชำนาญ’

เมื่อความชำนาญเพิ่มถึง 100% เกรดของไอเท็มจะเพิ่มขึ้น พร้อมกับช่วยเสริมคุณสมบัติลับ

‘ถ้าเจ้าของอาวุธเปลี่ยน ค่าความชำนาญจะถูกรีเซต… ตือหงอเหนงอาจสั่งสมไว้มาก แต่กับเรายังเป็นศูนย์!’

และวิธีเพิ่มค่าความชำนาญให้เร็วที่สุด คือการสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าตัวเองหลายเลเวล

ยิ่งความเสี่ยงมาก ก็ยิ่งได้รับผลตอบแทนคุ้มค่า

“ดูเหมือนจะรู้คำตอบแล้วสินะ”

ขณะฉันครุ่นคิด แบคโฮกุนเริ่มเหวี่ยงเขี้ยวขาวอย่างเกรี้ยวกราด

ถ้าลองสติให้ดี นี่คือโอกาสเพิ่มค่าความชำนาญอย่างก้าวกระโดด

‘ดันลืมไปเสียได้… สกิลสรรพภัณฑ์เป็นคนละส่วนกับค่าความชำนาญอาวุธ’

หากปัญหาเกี่ยวกับค่าความชำนาญ สามารถแก้ได้ด้วยสกิลสรรพภัณฑ์ ฉันคงไม่ต้องเผชิญวิกฤติในวันสอบเข้า

‘ถ้ามันสะดวกสบายขนาดนั้น เราคงไม่ต้องกระโจนเข้าใส่เอนามี ด้วยการเตรียมใจตายหรือยอมเจ็บตัว’

ตอนนั้นแสงประทานของฉันถูกผนึกอยู่ก็จริง แต่สกิลสรรพภัณฑ์ยังทำงานตามปกติ

ขณะค้นพบคำตอบ ฉันรู้สึกว่าคราดซ่างเป่าซินจินในมือเริ่มเบาลง

รวบรวมความฮึกเหิมเสร็จ ฉันเหวี่ยงมันกลับไปหาแบคโฮกุน

คั้ง!

แบคโฮกุนตั้งท่าป้องกันเป็นครั้งแรก

“ขอบใจมาก”

เอาแต่บีบคั้นฉันโดยไม่พูดไม่จา แล้วก็มอบคำใบ้ในตอนสุดท้าย

บางที นี่อาจเป็นสไตล์การเล่นหมากรุกของเขาด้วยเช่นกัน

สู้กับแบคโฮกุนเสร็จ ฉันเดินทางกลับหอพัก

ข้อมูลของคราดซ่างเป่าซินจินเปลี่ยนไปแล้ว สื่อได้ว่าค่าความชำนาญเพิ่มขึ้นจากเดิมมาก

เป็นเพราะแบคโฮกุนใช้เขี้ยวขาวไล่กดดันฉันจนร่างกายถึงขีดจำกัด

‘หงุดหงิดนิดหน่อยแฮะ’

เมื่อฝึกเสร็จ ฉันชวนเล่นหมากรุกทันที

แต่แบคโฮกุนยืนกรานปฏิเสธ

– เล่นกับนายตอนนี้ไปก็ไม่ได้อะไร

‘ถึงจะไม่มีแรง แต่ฉันก็ยังเก่งกว่าเซียนหมากรุกเกือบทุกคน’

อีกหนึ่งปัจจัยที่ชวนให้หงุดหงิด คือการถูกอัดอยู่ฝ่ายเดียวระหว่างดวล

ไม่ชอบใจเลยจริงๆ

ฉันรู้สึกขอบคุณที่ช่วยเพิ่มค่าความชำนาญ และมอบคำแนะนำสำหรับการฟังเสียงของอาวุธ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังน่าหงุดหงิด

‘เห็นทีต้องซ้อมหมากรุกหนักๆ จนกว่าจะได้แข่งกับแบคโฮกุน’

ฉันผล็อยหลับไปขณะนึกถึงชื่อของบุคคลที่ท้าแข่งหมากรุก

* * *

เช้าวันถัดมา

วันแรกของการแต่งกายด้วยเครื่องแบบฤดูร้อน

‘เป็นเพราะเมื่อวานจูซูย็อกอันดับดาอินใส่ชุดฤดูร้อน? วันนี้มีเด็กๆ ใส่กันมาเยอะมาก’

ทิวทัศน์ระหว่างทางไปโรงเรียนเปลี่ยนไปมากโข

คำนึงจากเรื่องที่มีคนจำนวนไม่น้อยที่นึกชื่นชม หรือไม่ก็ริษยาจูซูย็อกกับอันดาอิน สมมติฐานของฉันคงไม่คลาดเคลื่อนมากนัก

ขณะเดินไปห้องเรียน ดีไวซ์ถูกเปิดขึ้นมาอ่านพาดหัวข่าว

เมื่อเข้าใกล้อาคารเรียนหลักในเขตปีหนึ่ง เสียงเอะอะมะเทิ่งยิ่งดังชัดเจน

‘หือ…’

หน้าประตูห้อง 1/0

ผู้คนพลุกพล่านกว่าปกติ

‘เกิดอะไรขึ้น’

เมื่อเข้าไปใกล้ ฉันได้ยินเสียงดังผ่านฝูงชนออกมา

“นั่นคือเหตุผลที่พลังงานของศิษย์ทั้งชัดเจนและสะอาด… คลื่นพลังวิเศษที่บริสุทธิ์กำลังไหลเวียน…”

เป็นเสียงที่ค่อนข้างคุ้นหู

อีกฝ่ายคือ ‘ผู้บำเพ็ญตบะ’ นามว่าทัก ซึ่งเป็นเพื่อนของอาจารย์กวัก—อาจารย์ดาบของจูซูย็อก

ผู้ฝึกตนทักกำลังพูดถึงทฤษฎีการใช้คลื่นพลังวิเศษ ซึ่งฉันเคยได้ยินหลายครั้งจากในคาบเรียน

แต่ปัญหาอยู่ตรงที่ คำพูดคำจาของเขาฟังดูเหมือนพวกนักต้มตุ๋นข้างถนน

“รองหัวหน้าห้องสอนไว้ว่ายังไงแล้วนะ…”

นี่ก็เป็นเสียงที่ฉันรู้จัก

สมองหิน—เม็งเฮียวทง

คงเจอเรื่องน่าปวดหัวตั้งแต่เช้าเลย

“นึกออกแล้ว!”

เม็งเฮียวทงที่ยืนฟังคำพูดของผู้ฝึกตนทักด้วยสีหน้าราวกับวิญญาณหลุดออกจากร่าง ในที่สุดก็กล่าวออกมา

“ผมไม่เชื่อ!”

ว่านอนสอนง่ายดีนี่

* * *

บึ้ม!

บุคคลที่ได้ฟังรายงานจากนาบีรยอง ระเบิดคลื่นพลังวิเศษออกมารอบตัว

“ไอ้สุกรนั่นทำอะไรลงไป!”

ลอบสังหารล้มเหลวโดยไม่ทราบเหตุผล

ตือหงอเหนงหายตัวไปก่อนที่จะได้สานสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับพวกตน

โทสะและความสับสนของมันกำลังปะทุถึงขีดสุด

“้ล้มเหลวในภารกิจที่ท่านผู้นั้นมอบหมาย… แถมยังหนีไปซ่อนตัว!”

ในทางกลับกัน นาบีรยองได้เปลี่ยนให้ร่างกายอยู่นอกมิติโลกความจริง เพื่อหลบการอาละวาดของคลื่นพลังวิเศษกับเครื่องเรือนภายในห้อง

จนกระทั่งความวุ่นวายจบลง เธอเปลี่ยนกลับเป็นร่างจริง พลางปลอบประโลมอีกฝ่ายด้วยเสียงอ่อนหวาน

“ก่อนจะหายตัวไป มีร่องรอยว่าเจ้านั่นติดต่อกับลูกน้อง ซึ่งมันดูแปลก…”

“ฮึ่ง! ไอ้สุกรนั่นตัดหางตัวเองทิ้งยังไงล่ะ… มันคงรู้ว่ามีคนของตัวเองตกอยู่ในเงื้อมมือเจ้าแล้ว”

ได้เห็นอีกฝ่ายหัวเสีย นาบีรยองเลื่อนชายเสื้อขึ้นมาปิดปาก

สีหน้าของเธอเผยความกังวล แต่ริมฝีปากด้านหลังชายแขนเสื้อกำลังยกโค้ง

“ข้าจะตรวจสอบให้แน่ใจอีกครั้ง ขออภัยที่ช่วยอะไรท่านไม่ได้”

คำพูดคำจาแสนอ่อนโยนของนาบีรยอง ทำให้มันสงบใจลงได้เล็กน้อย

“แล้วสิ่งที่ท่านผู้นั้นสั่งให้เจ้าทำล่ะ ราบรื่นดีไหม”

นาบีรยองยิ้มอย่างงดงาม พร้อมกับตอบด้วยน้ำเสียงปีติ

“ราบรื่นดี ขอบใจที่เป็นห่วง ข้าจะทำอย่างสุดฝีมือทีเดียว… แล้วทางฝั่ง ‘เครื่องเซ่น’ เป็นอย่างไรบ้าง มีอะไรให้ข้าช่วยไหม”

“ไม่มีปัญหาเช่นกัน เจ้าแค่ไปตามหาไอ้สุกรนั่นให้เจอก็พอ”

กล่าวจบ มันลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้อง

นาบีรยองผู้จ้องมองแผ่นหลัง หรี่ตาลงพลางลบยิ้มรอบปาก

“ฮุฮุ… เครื่องเซ่น…”

พึมพำเสร็จ เธอนั่งจมอยู่กับความคิด ท่ามกลางบรรยากาศอันมืดมิดเป็นเวลานาน

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ตัวประกอบแรงค์ EX

ตัวประกอบแรงค์ EX

EX Rank, Ex Rank Supporting Role’s Replay in a Prestigious School, EX Rank Side Character's School Replay, 명급리, 명문고 EX급 조연의 리플레이
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
หลังจากเคลียร์บทสุดท้ายของเกมกากแห่งชาติสำเร็จ เขากลายเป็นตัวประกอบไร้นามในเกมที่ตัวเองเคยเล่น ตัวประกอบแรงค์ EX ที่เหนือธรรมดาและยากจะหยั่งถึง ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังทุกสิ่ง!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset