📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี เซียนหมากข้ามมิติ – ตอนที่ 93

บทที่ 93 - แท้จริงแล้วเกิดหมากอย่างไร
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

แม้ระดับความยากของตำราบันทึกสวรรค์กลายเป็นสิ่งพิมพ์จะค่อนข้างสูง แต่อาจจะไม่ได้รับการยกย่องว่าล้ำค่ามาก แต่ที่ว่าหากยากนั้นกลับเป็นเรื่องจริง ถึงจี้หยวนจะไม่ค่อยหวังถึงคุณภาพ ทว่าหวังต่อผู้พิมพ์สูงมากทีเดียว ระดับความยากในการอ่านก็มากและลำบากอยู่บ้าง

เป็นไปไม่ได้อย่างยิ่งที่เทพเจ้าที่ผู้นี้จะมีรากฐานการฝึกตนที่ยอดเยี่ยมและชัดเจน ไม่น่าจะเพียงพอสำหรับผู้ที่เข้าใจความลึกลับ และอาจไม่เพียงพอสำหรับผู้ที่มีปัญญา

พอทางฝั่งจี้หยวนพูดว่าเป็นตำราบันทึกสวรรค์ เทพเจ้าที่ก็ตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย

“ท่านจี้ มันนับว่าเป็นของมีค่าใช่หรือไม่”

“ตำราบันทึกสวรรค์นี้เป็นวิธีบันทึกเนื้อหาแบบตัวอักษร ตัวมันเองอาจจะไม่ได้ล้ำค่า ยังต้องดูเนื้อหาข้างในด้วย เนื้อหาที่เขียนไว้บนตำรากระดาษเหลืองของเจ้ามีชื่อว่า ‘บันทึกรัชสมัยเจิ้งเต๋อ’”

จี้หยวนชี้ตำรากระดาษเหลืองพลางอธิบายให้เจ้าที่ฟัง จากนั้นกวาดสายตาอ่านบันทึกคร่าวๆ แล้วอธิบายเพิ่มอีก

“ดูเหมือนว่าจะเป็นเล่มบันทึกที่เกี่ยวข้องกับวิถีแห่งเทพและการเชื่อมโยงลักษณะพื้นภูมิ ประโยคกล่าวเปิดพูดถึงหลักฐานบางอย่างของมรรคเทพ แต่ข้ายังไม่ได้อ่านรายละเอียดหลังจากนั้น”

หนึ่งคือจี้หยวนไม่ค่อยเข้าใจมรรคเทพและไม่รู้สึกสนใจ สองคือถึงอย่างไรก็เป็นหนังสือของเทพเจ้าที่ หากยังไม่ได้ถามความเห็นของเขาก็ไม่ดีนักที่จะอ่านเนื้อหาต่อไป

“ท่าน!”

เทพเจ้าที่รีบลงมาจากหินโม่ น้อมคำนับจี้หยวน

“ท่านได้โปรดอ่านเนื้อหาในตำราแทนข้าต่อด้วย ตำราเล่มนี้อยู่กับข้ามาหนึ่งร้อยกว่าปีแล้ว ไม่ยอมเน่าเปื่อย ไม่เปียกน้ำ ไม่ติดไฟ ไม่ดูดซับปราณวิญญาณและกำยาน ข้าเชิญใต้เทพเท้าหลักเมืองของอำเภอมาดูแล้ว ไม่ได้ความอะไรเช่นเดียวกัน หวังว่าท่านจะชี้แนะข้าด้วย!”

“เอ๋? เทพหลักเมืองของอำเภอก็มองไม่เห็นหรือ”

จี้หยวนถามด้วยความประหลาดใจ

“ข้าไม่ได้พูดปด ความจริงแล้วตอนนั้นใต้เท้าเทพหลักเมืองพูดถึงบันทึกสวรรค์ด้วย และพูดชัดเจนว่าเล่มกระดาษเหลืองนี้ไม่ใช่ ในเมื่อท่านมองเห็นตัวหนังสือบนกระดาษเหลือง ข้าก็หวังว่าท่านจะชี้แนะข้าด้วย!”

“เทพเจ้าที่อย่าทำความเคารพข้า ให้ข้าคิดดูก่อน!”

จี้หยวนยื่นมือไปประคองเทพเจ้าที่ มุ่นคิ้วมองไปยังเล่มหนังสือที่ไม่มีผนึกและกระดาษสีเหลืองพับที่อยู่ข้างนอกแต่อย่างใด

แม้ตำราบันทึกสวรรค์จะอ่านยาก แต่ด้วยพลังของเทพหลักเมือง เมื่ออ่านท่ามกลางความมั่นคงไร้เรื่องฟุ้งซ่านจะต้องมองเห็นตัวหนังสืออย่างแน่นอน นี่ไม่ใช่การคาดเดา แต่เป็นคำพูดยืนยัน

ไม่ว่าเทพหลักเมือนจะมีพลังสูงหรือต่ำ ตำแหน่งเทพหลักเมืองก็ยังคงอยู่

นั่นหมายวามว่านี่อาจจะไม่ใช่บันทึกสวรรค์ทั่วไปจริงๆ และอาจจะต้องการเงื่อนไขอย่างอื่นสินะ

แน่นอนว่าเงื่อนไขนี้จี้หยวนทำการอุปมาเองไม่ได้ อย่างไรเสียดวงตาของเขาก็พิเศษจริงๆ ดังนั้นอาจจะหาเหตุผลที่เป็นไปได้ที่สุดจากตำรา

“เทพเจ้าที่ ข้าคนแซ่จี้ขอดูเนื้อหาบนกระดาษเหลืองก่อน”

“ได้ๆ ท่านเชิญดู ดูให้ละเอียดหน่อย!”

เทพเจ้าที่อยากให้จี้หยวนอ่านโดยละเอียดจนจบตอนนี้ใจจะขาด จากนั้นค่อยบรรยายให้เขาฟัง นำพู่กันมาเขียนส่วนหนึ่งให้เขายิ่งดีเข้าไปใหญ่

ฝ่ายจี้หยวนรวมความตั้งใจไว้บนกระดาษเหลือง กางกระดาษเหลืองทั้งแผ่นออก ขนาดของมันพอๆ กับหนังสือพิมพ์เมื่อชาติก่อน

จี้หยวนขมวดคิ้วเป็นปมแน่นขึ้นเรื่อยๆ เนื้อหาข้างในคล้ายกับตำราบันทึกสวรรค์อื่น ไม่มีความแตกต่างกันมากเท่าไหร่ แต่พอดูอย่างละเอียดแล้วพบว่าสำนวนบางจุดไม่ลื่นไหล หากนี่เกิดขึ้นกับปัญญาชนที่ระดับความรู้ไม่สูงก็เป็นไปได้ แต่ความเป็นไปได้ที่จะปรากฏบนตำราบันทึกสวรรค์ซึ่งลี้ลับยิ่งกว่าลี้ลับนั้นน้อยอย่างยิ่ง

‘เหมือนกับคำศัพท์ที่ไม่เชื่อมโยงกันเบียดอยู่ในบางท่อนอย่างนั้นหรือ’

เทพเจ้าที่ไม่กล้าส่งเสียง ยืนอยู่ข้างๆ อย่างระมัดระวัง เห็นผู้วิเศษผู้ลึกลับแต่เดิมหรี่ตาอยู่ตลอดค่อยๆ เบิกตากว้าง ทำให้เขามองเห็นดวงตาสีเทาที่เรียบสงบได้อย่างชัดเจน

ในดวงตาของจี้หยวน กระดาษเหลืองบนมือกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลง ตัวหนังสือบิดเบี้ยวที่แทรกอยู่ตามวรรคต่างๆ พลันมีพลังปราณไหลเวียน หมุนวนบนกระดาษเหลืองทั้งแผ่น ก่อนจะกลายเป็นภาพเลือนรางปกคลุมกระดาษไว้

ยิ่งมีสีสันเปลี่ยนผันไปมา ปรากฏสีทองคำขาว น้ำหมึก ไม้เขียว เพลิงชาด และดินเหลืองตามลำดับ สุดท้ายเปลี่ยนเป็นสีดำและขาวอันเรียบง่ายที่สุด กระดาษเหลืองในสายตาจี้หยวนถูกสีขาวบดบัง ส่วนสีดำเปลี่ยนเป็นตัวหนังสือขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง

“บัญชา…”

หลังจากอ่านตัวหนังสือนี้ออกมาตามจิตใต้สำนึก จี้หยวนพลันสะท้านใจ

โครม…ทันใดนั้นมีแสงเทพอ่อนๆ แวบผ่าน กระดาษเหลืองแผ่นใหญ่ทั้งแผ่นปรากฏสีดำเกรียมหลายที่ในวินาทีนี้ ตัวหนังสือที่เดิมทีน่าเกลียดพวกนั้นหายไปหมดแล้ว เหลือก็แต่ต้นฉบับเดิมของ ‘บันทึกรัชสมัยเจิ้งเต๋อ’

“อืม…”

ตอนนี้จี้หยวนทำตัวไม่ถูกเป็นอย่างยิ่ง รู้สึกว่าแผ่นหลังร้อนจนมีเหงื่อออก ตัวเองไม่ได้ทำกระดาษเหลืองนี้เสียหายใช่หรือไม่

เทพเจ้าที่ซึ่งอยู่ข้างๆ ก็ตกตะลึงอ้าปากค้างมองกระดาษเหลืองที่ตัวเองเก็บซ่อนไว้โดยตลอด ทว่ายังไม่ทันได้โกรธหรือมีปฏิกิริยาอื่นใด เขาพลันมองเห็นตัวหนังสือปรากฏขึ้นบนกระดาษเหลือง และรู้สึกว่าบทความมีพลังปราณที่เชื่อมต่อถึงกัน แค่มองปราดเดียวก็รู้ว่าเนื้อหาไม่ได้ถูกทำลายโดยสมบูรณ์

“บันทึกรัชสมัยเจิ้งเต๋อ! ข้ามองเห็นแล้วเช่นกัน! ข้ามองเห็นแล้ว! ขอบคุณท่านที่คลายมนตร์ให้ ขอบคุณท่านอย่างยิ่งที่ช่วยคลายมนตร์!”

เทพเจ้าที่ประสานมือคารวะไม่ยอมหยุด ตัวเองที่หลังค่อมอยู่แล้วยิ่งตัวงอเหมือนง้างคันศรจนน่ากลัว จี้หยวนเพียงทำตัวไม่ถูกพริบตาเดียว ก็ได้รับการโค้งคำนับจากเทพเจ้าที่ไม่รู้กี่ครั้งแล้ว รับรู้ได้ถึงความตื่นเต้นและตื้นตันของเขาเลยทีเดียวโนเวลกูดอทคoม

จี้หยวนที่ดึงสติกลับมาแล้วรีบยื่นมือไปประคองอีกฝ่าย พูดพลางส่งกระดาษเหลืองคืน

“เทพเจ้าที่อย่าขอบคุณข้าเลย มองเห็นได้ก็เป็นวาสนาของท่าน ทว่ากระดาษเหลืองตำราบันทึกสวรรค์ถูกข้าทำไหม้ไปบ้างแล้ว”

“ไม่เป็นไรๆ พลังของท่านยอดเยี่ยม ทำให้มนตร์คลายแล้วกลับไม่ทำลายข้อความดั้งเดิม ข้าซาบซึ้งมากจริงๆ!”

เทพเจ้าที่รับกระดาษด้วยทั้งสองมืออย่างตื่นเต้น กวาดสายตามองเนื้อหาตั้งแต่เริ่มจนจบนับครั้งไม่ถ้วน

จี้หยวนย่อมรู้เช่นกันว่าส่วนนั้นที่ไหม้ไปไม่เกี่ยวข้องอะไรกับข้อความหลัก แต่คล้ายกับดึงพลังปราณบางอย่าง ทำให้เทพเจ้าที่มองเห็นตำราบันทึกสวรรค์ได้เหมือนกัน น่าจะเป็นเพราะมีวาสนาต่อกระดาษเหลืองจริงๆ

‘แต่ว่า…เกรงว่าเมื่อกี้นี้ไม่ใช่แค่การจำกัดต่อกระดาษเหลืองกระมัง!’

เมื่อคิดได้เช่นนั้น จี้หยวนสะท้านใจอีกครั้ง คิดใคร่ครวญเล็กน้อยก็พบว่าท่วงทำนองในบทประพันธ์กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจ ขณะเดียวกันความรู้สึกของบัญชาสวรรค์ที่ลี้ลับเป็นอย่างยิ่งก็เพิ่มมากขึ้น ทำให้เขาเองได้รับสิ่งที่น่าอัศจรรย์

เทพเจ้าที่อ่านตัวหนังสือหลายร้อยตัวแล้ว แค่หลายร้อยตัวหนังสือสั้นๆ ก็ทำให้เขาตระหนักถึงความไม่ธรรมดาของเนื้อหาบทความนี้แล้ว ในฐานะที่เขาตายไปแล้ววิญญาณอาศัยการกราบไหว้ของชาวบ้านกลายเป็นเทพเจ้าที่ได้สำเร็จ ไม่สามารถฝึนปราณปลุกจิตวิญญาณด้วยตัวเองได้เหมือนวิญญาณเทพภูผาวารีที่ฝึกปราณในสถานที่อันยอดเยี่ยม บ้านตระกูลจ้าวใหญ่ขนาดนี้ กำยานของชาวบ้านที่มากราบไหว้ก็ฝืนรักษาตำแหน่งเทพไว้ให้ ผลสำเร็จของการฝึกปราณเดิมถูกจำกัดไว้อยู่แล้ว

‘บันทึกรัชสมัยเจิ้งเต๋อ’ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากเทพฝึกปราณด้วยวิญญาณกลายเป็นวิญญาณเทพภูผาวารีตัวจริง เป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง ทำให้เทพเจ้าที่ตัวเล็กๆ อย่างเขามองเห็นโอกาสค้นหาเส้นทางที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม

ถึงแม้เทพเจ้าที่ไม่เคยเห็นเรื่องทางโลกอะไรก็รู้ว่าไม่ได้ล้อเล่น และเข้าใจว่าตัวเองโชคดีมากเพียงใดที่ได้พบผู้วิเศษที่ยินยอมช่วยเหลือเขาอย่างแท้จริง หากเปลี่ยนเป็นคนจากจวนเซียนอื่นจะเป็นสถานการณ์อย่างไรก็พูดยากแล้ว

“เทพเจ้าที่ ข้าคนแซ่จี้ขอบังอาจถาม ตำราเล่มนี้ท่านได้มาได้อย่างไร”

ได้ยินผู้วิเศษที่กำลังเหม่อลอยอยู่บ้างถามความขึ้นอย่างกะทันหัน เทพเจ้าที่ควบคุมความฮึกเหิมที่อยากเรียนรู้เอาไว้ เก็บกระดาษเหลืองอย่างดี แล้วถึงตอบคำถามของจี้หยวนอย่างเอาจริงเอาจัง

“ตอบท่านจี้ ขอไม่ปิดบังว่าตำราเล่มนี้เป็นข้าขุดออกมาได้ตอนขุดดินขณะมีชีวิตอยู่ ตอนนั้นเห็นมันไม่ได้เปื้อนดินเท่าไหร่ บวกกับกระดาษเหลืองมีมูลค่ามากจึงนำกลับบ้านไป ต่อมาอาจจะเป็นเพราะลืมว่าวางไว้ตรงไหน หาไม่เจอและไม่ได้ใส่ใจ จนกระทั่งหลายปีให้หลังข้าตายแล้วกลายเป็นเทพเจ้าที่ กระดาษเหลืองนี้กลับปรากฏในหลุมศพใต้ดิน ข้าถึงได้ตระหนักว่าของสิ่งนี้ไม่ธรรมดา”

“ดูท่ามันจะมีวาสนากับท่านจริงๆ ความจริงข้อห้ามที่อยู่ด้านบนเมื่อครู่นี้น่าสนใจอยู่บ้างเหมือนกัน หากเทพเจ้าที่กำจัดได้เองก็ไม่ธรรมดาแล้ว ตอนนี้กลับเป็นข้าที่ได้เปรียบ…”

จี้หยวนไม่อาจพูดชัดเจนจนเกินไป แต่ก็พูดไปอย่างกำกวม

“ข้าพอรู้อยู่ รู้แล้วล่ะ หากไม่มีท่านช่วยเหลือ ต่อให้ผ่านไปอีกหลายปีข้าก็ยังคงทำได้เพียงเฝ้ากระดาษเหลืองนี้ด้วยความขมขื่น”

เทพเจ้าที่คิดตามที่เข้าใจว่าจี้หยวนพูดไปเพราะความถ่อมตัว ต่อให้มีประโยชน์กับเขาจริง สำหรับผู้วิเศษแบบนี้ก็เหมือนกับคำว่า ‘น่าสนุก’ เท่านั้น ใจความสำคัญยังคงเป็นเคล็ดวิชาบนกระดาษ

จี้หยวนไม่ได้พูดอะไรอีก สิ่งที่เจ้าที่ได้รับไม่ธรรมดามากๆ แล้วสำหรับผีที่ฝึกปราณเป็นเทพเจ้าที่ เมื่อเพิ่มวาสนาเข้าไปอีกส่วนหนึ่ง เกรงว่าแม้แต่เทพเจ้าที่ก็จะรับไม่ไหวเอา!

บอกไม่ถูกว่าเพราะอะไร แต่จี้หยวนมีความรู้สึกแบบนี้ คิดแล้วก็เตือนเทพเจ้าที่อย่างจริงจัง

“เทพเจ้าที่ ที่มาของตำราเล่มนี้ไม่ธรรมดาแน่ ต่อไปอย่านำมันออกมาให้คนอื่นเห็นง่ายๆ และได้วิชานี้แล้ว หลังจากนี้มีความสำเร็จอะไรก็อย่าได้ลืมปณิธานแรกของการเป็นเทพเจ้าที่ ข้าไม่อยากให้ท่านและข้าต้องแบกรับผลลัพธ์ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงบางอย่างเพราะการกระทำของข้าคนแซ่จี้ในวันนี้”

เทพเจ้าที่ฟังจากน้ำเสียงของจี้หยวนก็รู้ซึ้งถึงความจริงจัง ถึงขนาดรู้สึกถึงความกดดันได้ไม่น้อย แม้ท่านจี้ไม่ได้พูดออกมาตรงๆ แต่มีความหมายของ ‘วันนี้ข้าช่วยเจ้า หากเจ้ากล้าใช้วิชาทำชั่ว ข้าย่อมลงมือด้วยตัวเอง’ อยู่ด้วย…

“เทพเจ้าที่บ้านตระกูลจ้าวนามจ้าวเต๋อ ขอบคุณท่านจี้ที่ชี้แนะ”

เทพเจ้าที่คารวะอีกครั้งอย่างตั้งใจโดยไม่กล้าเฉยเมย ทว่าการกระทำในครั้งนี้เชื่องช้าและไม่ยอมยืดตัวเสียที จี้หยวนจึงทำได้เพียงคารวะกลับไปเช่นกัน

หมากลวงตัวใหม่เพิ่งแฉลบผ่านไปหลังจากทั้งสองคารวะกันแล้ว แต่กลับไม่ได้ปรากฏตัวตอนที่กระดาษเหลืองกลับคืนสู่เจ้าของเมื่อครู่ และทำให้จี้หยวนตกสู่ภวังค์ความคิด

Facebook Twitter Telegram Pinterest
เซียนหมากข้ามมิติ

เซียนหมากข้ามมิติ

ChronoGo, Lan Ke Qi Yuan, Lạn Kha Kỳ Duyên, Special Destiny Of Rotten Ke, The Board of Lanke, Kismet of the Lanke Piece, Lanke Chess Edge, The Board Of Lanke, 烂柯棋缘, 난가기연
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ต้นฉบับ: 1021 Chapters (จบแล้ว)
จี้หยวน พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งไปร่วมกิจกรรมค่ายพักกลางแจ้ง ระหว่างเดินชมต้นไม้ไปเรื่อยๆ เขาพบกระดานหมากบนตอไม้กลางป่า พอจะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปกลับปลดล็อกหน้าจอไม่ได้ คิดว่าแบตหมดแล้วจึงรีบกลับไปหาแบตสำรองที่ค่าย แต่พอกลับไปถึงที่ตั้งค่าย กลับไม่มีคนในบริษัทอยู่สักคน แม้แต่เต็นท์ก็หายไปหมด.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset