📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี เซียนหมากข้ามมิติ – ตอนที่ 89

บทที่ 89 - ผู้มากับเมฆหมอก
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

ตอนที่ได้ยินเสียงรถม้าผ่านมา รวมถึงเสียงสนทนาจากทางนั้น จี้หยวนตื่นเต็มตาจากสภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้ว

เหตุผลก็คือเขารู้สึกว่าการฝึกปราณนี้ได้ที่และควรจะจบลงแล้ว ถึงอยู่ในสภาวะฝึกปราณแล้วจะไม่กินแรงมาก แต่ร่างกายก็หิวอยู่บ้างจนยากจะทนได้ และอีกเหตุผลหนึ่งคือเป็นเพราะจี้หยวนได้ยินเสียงที่คุ้นเคย

เป็นข้ารับใช้เว่ยถงผู้นั้น ตอนนั้นมีคุณชายเมาสุราตกน้ำจากบนเรือขนาดใหญ่ ข้ารับใช้ที่โมโหต่อว่าคนบังคับเรือก็คือเขานี่แหละ

จี้หยวนมีโอกาสพบคุณชายผู้นั้นแค่ครั้งเดียว ตัวเขาเองย่อมไม่มีความคิดว่าจำเป็นต้องพบอีกฝ่าย แต่จี้หยวนรู้สึกว่ายังต้องพบคุณชายจากตระกูลร่ำรวยผู้นี้สักหน่อย

ไม่ใช่เพื่อตัวเอง เพียงนึกถึงปลาชิงฮื้อตัวหนึ่ง ปลาชิงฮื้อตัวนั้นช่วยคุณชายผู้นี้เอาไว้ ก่อนหน้านี้อาจจะไม่เคยช่วยใครมาก่อน ภูตที่มีเมตตาเช่นนี้อย่างไรก็ควรได้รับการตอบแทนบ้าง และคุณชายผู้นี้ก็ความสามารถตอบแทนน้ำใจนั้นได้อย่างแน่นอน

ดังนั้นถือโอกาสตอนที่รถม้ายังไม่มาถึง จี้หยวนลุกขึ้นยืน สะบัดหยดน้ำบนร่างกาย แล้วกระโดดลงจากต้นไม้อย่างแผ่วเบา

แม้จะเป็นตอนกลางวัน แต่ตรงนี้เป็นจุดที่หมอกลงหนามากที่สุด มองเห็นได้ไม่ถึงสองจั้ง จี้หยวนคิดดูแล้วว่าคงจะไม่เหมาะสมหากไปขวางทาง จึงอาศัยการเดินช้าๆ ที่ข้างทางเอา

ผ่านไปไม่นานเท่าไหร่ รถม้าสามคันที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วไม่มากตามจี้หยวนทันแล้ว ดูแล้วเหมือนกำลังจะแซงคนเดินถนนเพียงลำพังคนหนึ่ง

พลขับรถม้าและเว่ยถง ข้ารับใช้ที่ยื่นหน้าออกมองข้างนอกตลอดสังเกตเห็นคนเดินถนนตัวคนเดียว สวมเสื้อผ้าสีอ่อนโดยทันที แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก

กลับเป็นพลขับรถม้าที่มีประสบการณ์มากกว่า มองออกว่าเสื้อผ้าของคนเดินถนนเปียกปอนอยู่รางๆ

จี้หยวนได้ยินเสียงหายใจของทุกคนในรถม้าแล้ว ตอนที่รถม้าคันแรกกำลังจะแซงเขาไป เขาคล้ายกับหันไปมองทางรถม้าโดยไม่ได้ตั้งใจครั้งหนึ่ง

เสียงกังวานใสดังขึ้น

“คุณชายบนรถม้าท่านนี้ จำเรื่องตกแม่น้ำวสันต์ได้หรือไม่”

เสียงของจี้หยวนฟังแล้วไม่ดังมาก แต่กลับกระทบโสตประสาตของทุกคน พวกพลขับอึดอัดใจไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง ส่วนคนเหล่านั้นบนรถกลับตกอกตกใจกันหมดแล้ว

ข้ารับใช้นามว่าเว่ยถงมองไปทางจี้หยวนและเอ่ยปาก

“เจ้าก็คือแขกบนเรือประดับหอหรือ”

ข้ารับใช้คิดว่าจี้หยวนจำตัวเองได้ จึงรู้ว่าบนรถม้าจะต้องเป็นคุณชายของตนแน่ แต่กลับไม่คาดคิดว่าจี้หยวนไม่ได้มองเขาเลย

เพียงแต่มุมมองของปัญหานี้ทำให้จี้หยวนชะงักไปเล็กน้อย ทว่าคล้ายกับคิดดูให้ดีแล้วไม่มีอะไรผิดแปลก จึงแค่ส่ายหน้าปฏิเสธไป

“ฮ่าๆ…ข้าย่อมไม่ใช่แขกบนเรือประดับหออะไร แต่เจอกันโดยบังเอิญเท่านั้นเอง…”

ตอนนี้คุณชายบนรถวางหนังสือลงแล้ว แต่กลับไม่ได้ลุกขึ้นยื่นหน้าออกมามองคนข้างนอก เขาเป็นคนที่เป็นวรยุทธ์คนหนึ่ง การดื่มสุราเมาหนักจนตกน้ำแล้วยังต้องให้คนอื่นช่วยถือเป็นเรื่องขายหน้าอยู่บ้าง แม้เขาจะว่ายน้ำไม่เป็นก็ตาม

คุณชายไม่ส่งเสียง ข้ารับใช้กลับไม่รบกวน และไม่เชื่อคำพูดของจี้หยวนเช่นกัน

“ทำไม เจ้าเห็นคุณชายของพวกข้าตกน้ำแล้วชอบใจมากหรือ ตอนนั้นเจ้าต้องแอบหัวเราะอยู่ตรงมุมใดของเรือประดับหอแน่ เจ้าดูยากจนแท้ๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าขึ้นเรือไปได้อย่างไร!”

ความจริงแล้วถึงการแต่งกายของจี้หยวนจะไม่ได้หรูหรา แต่กลับไม่นับว่ายากจนเช่นกัน ข้ารับใช้จงใจพูดจาถากถางอย่างแน่นอน

ถูกข้ารับใช้ชักจูงความคิดแบบนี้เดิมทีไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่คนบนรถในตอนนี้รู้สึกอึดอัดใจแล้วเช่นกัน

“เอาล่ะเว่ยถง ไม่ต้องพูดแล้ว ให้พลขับเร่งความเร็วหน่อย”

คุณชายในรถแค่นหัวเราะเสียงหนึ่ง ท่าทางเยือกเย็นอย่างสุดขีดบ่งบอกความไม่พอใจของตนเองแล้ว

พลขับเองเร่งฝีเท้าขึ้นแล้ว จูงม้าเดินไปข้างหน้า

เสียงทางนั้นยังไม่ขาดช่วง คุณหนูและสาวใช้ในรถม้าคันกลางกำลังคุยเล่น

“ชุนฟาง เมื่อครู่เจ้าได้ใช่เสียงคนผู้นั้นใช่หรือไม่”

“อืม ข้าก็ได้ยินเหมือนกันเจ้าค่ะ เหมือนกับคนเดินถนนมีธุระบางอย่าง แต่เว่ยถงผู้นั้นกลับมีปากเสียงกับเขาเฉยเลย”

“คนผู้นั้นเป็นใคร”

“ไม่รู้เจ้าค่ะ เหมือนจะบอกว่าวันนั้นก็อยู่บนเรือประดับหอและมองเห็นคุณชายตกน้ำ…”

คนที่นั่งอยู่ในรถม้าคันที่สามเป็นหญิงชราและข้ารับใช้อีกสองคน พวกเขาเปิดม่านรถม้ามองมาข้างหน้าเช่นกัน เพียงแต่เป็นเพราะหมอกลงหนายากจะมองเห็นชัดเจน ทว่าสีหน้าดูไม่พอใจไม่ต่างกัน

เห็นรถม้าเร่งความเร็วแล้ว จี้หยวนมุ่นคิ้วขึ้นมา คิดไว้แล้วว่าพูดเรื่องนี้แล้วจะถูกเกลียด แต่ไม่ยอมฟังคำอธิบาย หนำซ้ำต่อว่าจบแล้วก็จากไป นั่นออกจะเกินจริงเกินไปหน่อย

เขาเบิกตากว้างขึ้นเพื่อมองข้ารับใช้คนนั้น หลังจากสายตากวาดสมองรถม้าสามคันแล้ว จี้หยวนเอ่ยปากเสียงใสอีกครั้ง

“หยุดรถสักครู่เถอะ!”

ครั้งนี้เขาเพิ่มเสียงขึ้นหลายส่วน หางเสียงสั่นเครืออยู่บ้าง มันเป็นการผสมผสานระหว่างทักษะวิชายุทธ์และพลัง เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ส่งเสียงดังมาก แต่ทำให้คนได้ยินอดไม่ได้ที่จะรู้สึกคันหู

ทว่าสิ่งที่เหนือความคาดหมายของจี้หยวนอยู่บ้างคือยังไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบสนองจากอีกฝ่าย ม้าแก่สี่ตัวลากรถม้าสามคันกลับค่อยๆ หยุดฝีเท้า ทำเอาพลขับหลายคนที่ลากพวกมันโซเซ ดึงอย่างไรก็ไม่ยอมขยับ ราวกับให้ตายอย่างไรสัตว์สี่ตัวนี้ก็ไม่อยากเดินแล้ว

รถพลันหยุดเคลื่อนไหว คนไม่น้อยในรถม้าสามคันล้วนโคลงเคลงไปข้างหน้า เว่ยถงที่ยื่นหน้าออกมายิ่งส่งเสียงว่า ‘ไอ้หยา’ เพราะเกือบจะกลิ้งตกจากรถม้า

คุณชายบนรถก็ตกใจอยู่บางเหมือนกัน หยิบกระบี่ที่อยู่ข้างตัวรถขึ้นมาทันที จากนั้นกระโดดลงจากรถอย่างแข็งขัน

เมื่อเห็นคุณหนูและสาวใช้บนรถข้างหลังอยากลงมาเหมือนกัน จึงรีบส่งเสียงห้ามไว้

“พวกเจ้ารออยู่บนรถ ชุนฟาง ดูแลคุณหนูให้ดี!”

ทันทีที่พูดจบ คุณชายที่ยังคงสวมเสื้อสีขาวมองพลขับที่กำลังจูงม้า แล้วจึงมองจี้หยวนที่ยืนอยู่ข้างๆ รถม้าไม่ไกลโดยไม่วางตา รู้สึกว่าคนผู้นี้คุ้นหน้าคุ้นตา

“ท่านเป็นใครกัน ต้องการพบข้าแซ่เว่ยมีธุระอะไร”

เสียงเมื่อครู่นี้แปลกมาก ที่รถคันนี้หยุดยิ่งผิดปกติ และไม่รู้ว่าเป็นเพราะระยะห่างหรือไม่ อีกฝ่ายให้ความรู้สึกว่าเป็นหนึ่งเดียวกับหมอกอย่างชัดเจน

ดูจากม้าพวกนี้ที่ไม่ยอมเดิน ไม่ว่าคนอื่นหรือคุณชายเสื้อขาวเอง ตอนนี้รู้สึกหวาดผวาเช่นเดียวกับการเจอภูตผีปีศาจกันถ้วนหน้า

จนกระทั่งตอนนี้ จี้หยวนถึงค่อยหยุดฝีเท้าเชื่องช้าของตัวเอง แล้วกลับหลังหันไปมองคุณชายผู้นั้น ยังคงสวมเสื้อผ้าสีขาวทั้งตัว ลักษณะของเข้าในตอนนี้เหมือนกับที่เห็นในเช้าตรู่ตอนนั้นทีเดียวโนlวลกูดอทคoม

“อืม คุณชายท่านนี้เป็นจอมยุทธ์ที่มีฝีมือไม่ธรรมดาเชียว!”

เมื่อพูดประโยคนี้จบ จี้หยวนประสานมือขอโทษพลขับก่อน

“ขอรบกวนสักครู่ ข้าพูจบแล้วก็จะไป”

หลังจากสิ้นเสียง จี้หยวนมองไปรอบๆ น้ำเสียงเปลี่ยนไปแล้วเช่นกัน

“คุณชายท่านนี้ตอนนั้นเมาสุราตกเรือ ไม่ทราบว่าจำภาพใต้น้ำได้หรือไม่”

“ใต้น้ำ?”

เห็นคุณชายผู้นั้นขมวดคิ้ว บวกกับตอนนี้เป็นเวลากลางคืน เขาควรจะไม่มีความประทับใจอะไร จี้หยวนก็ไม่ได้วุ่นวายอยู่กับคำถามนี้ น้ำเสียงจริงจังที่แสดงความผ่อนคลายและซ่อนความรู้สึกดังขึ้นอีกครั้ง

“เหนือแม่น้ำวสันต์ในคืนนั้น บนเรือประดับหอมีแต่ความสนุกสนาน ร่ำสุราหาความสุข ตอนคุณชายเมามายตกลงสู่แม่น้ำ เดิมควรจะตายตกอยู่ในแม่น้ำวสันต์แล้ว ทว่าปลาชิงฮื้อตัวหนึ่งประคองเจ้าขึ้นสู่ผิวแม่น้ำ อีกทั้งรอคนบังคับเรือหลายคนมาช่วยเจ้าอีก ไม่ทราบว่าคุณชายจำอะไรได้บ้างหรือไม่”

ตอนนี้เพราะจี้หยวนไม่ได้ฝึกปราณแล้ว หมอกจางลงไปมาก ทว่าเพราะการปรากฏตัวของเขาและคำพูดที่ทำให้คนฟังตื่นตกใจ คนที่อยู่ในเหตุการณ์จึงไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของหมอกเลย

ปลาชิงฮื้อช่วยคน?

คุณชายผู้นั้นมีสีหน้าประหลาดใจ เพราะในความฝันของเขาคืนนั้นปรากฏสีขาวเขียววาดผ่านตรงหน้าอยู่ตลอด จนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้นก็ยังสับสนไม่แน่ใจ หรือว่าจะเป็นปลาชิงฮื้อตัวหนึ่งจริงๆ

จากนั้นคุณชายเสื้อขาวก็พลันนึกอะไรขึ้นได้ มองจี้หยวนพลางกล่าว

“เจ้าคือคนที่กินโจ๊กอยู่บนเรือลำเล็กหรือ”

“ฮ่าๆ อาจจะใช่ อาจจะไม่ใช่ คุณชายเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้ หากมีใจอยากตอบแทนบุญคุณ เวลานี้ในทุกๆ ปีส่งคนหรือไปเทสุราข้าวหนึ่งไหที่ส่วนนั้นของแม่น้ำวสันต์ด้วยตัวเอง สลักรูปปั้นปลาชิงฮื้อและวางไว้ที่บ้านด้วย หากมีเวลาว่างก็อธิษฐานสักครั้ง นับว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณช่วยชีวิตแล้ว”

แม้จะบอกว่าเรื่องบางเรื่องบังคับขอกันไม่ได้ แต่จี้หยวนก็ไม่อยากให้ความอุตสาหะของตัวเองสูญเปล่าไปง่ายๆ ‘ปรากฏตัวให้เห็น’ เล็กน้อยสักครั้งไม่เป็นไรหรอก

คร้านจะรออีกฝ่ายมีปฏิกิริยาอะไร จี้หยวนมองข้ารับใช้คนนั้นครั้งหนึ่ง แล้วค่อยประสานมือให้คุณชายเล็กน้อยแม้จะรู้สึกไม่แยแสแค่ไหนก็ตาม

“พบคนมองเสื้อผ้าก่อน พบข้ารับใช้เหมือนได้พบเจ้านาย ไปทำสิ่งดีๆ ให้ตนเองเถอะ!”

เมื่อพูดจบแล้ว จี้หยวนกลับหลังหันเดินหน้าไป ไอน้ำบนเสื้อที่เปียกชุ่มระเหยไประหว่างเดิน ราวกับว่ารอบกายมีหมอกมหัศจรรย์วนเวียนอยู่ หมอกโดยรอบก็กระจายหายไปอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน

เพียงเวลาแค่ไม่กี่ลมหายใจ ตอนที่หมอกยังจางลงไม่หมด จี้หยวนเดินเข้าสู่หมอกและหายไปไม่เห็นเงา ทว่าผ่านไปไม่เท่าไหร่หมอกก็จางลงโดยสิ้นเชิง ตรงหน้าและตรงที่ไกลออกไปไร้แววของ ‘ผู้สวมเสื้อสีเทา’ เมื่อครู่แล้ว

“หมอกจางแล้วหรือ คนผู้นั้นเล่า เหตุใดไม่เห็นแล้ว”

“พวกเจ้าเห็นหรือไม่ นั่นไม่ใช่มนุษย์แน่ๆ!”

“ข้าก็ไม่รู้สึกว่าเหมือนสิ่งชั่วร้าย…พวกเราพบเทพเซียนจริงๆ หรือนี่!?”

พลขับหลายคนทั้งตกใจทั้งตื่นเต้น ส่งเสียงดังไม่ยอมหยุด ยิ่งพูดก็ยิ่งแน่ใจว่าที่เห็นคือเซียน โดยเฉพาะหมอกที่ทำให้รู้สึกสบายตัวหายจากไปตามคนผู้นั้น นั่นยิ่งอธิบายคำถามนี้ชัดเจน

บนรถม้าคันข้างหลัง สาวใช้ คุณหนู ไปจนถึงหญิงชราและข้ารับใช้ล้วนลงจากรถแล้ว ในสถานการณ์เช่นนี้จะยังรออยู่บนรถได้อย่างไร

เห็นโลกสดใสที่หมอกจางหายไปในทันที ได้ยินพวกพลขับยิ่งพูดยิ่งตื่นเต้น ทุกคนก็มีความรู้สึกมหัศจรรย์ใจอย่างยิ่งยวด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตัวคุณชายเสื้อขาวเลย

“ท่านพี่ ท่านพี่!!”

“หืม?”

คุณชายมองไปทางน้องหญิงของตนเองราวกับตื่นจากฝัน

“ไอ้หยา! เหตุใดพี่ชายไม่ตามไปเล่า ท่านเป็นวิชายุทธ์ไม่ใช่หรือ!”

คุณชายเสื้อขาวหันไปมองข้างหน้า แล้วเงยหน้ามองเมฆดำกลางท้องฟ้า…น้องหญิงพูดง่ายเสียเหลือเกิน ตาม? จะตามไปอย่างไร

ว่ากันว่าเซียนเหยียบเมฆขี่หมอกได้ เมื่อหมอกจางไปแล้ว เกรงว่าอีกฝ่ายคงเหยียบเมฆหมอกบินไปแล้วกระมัง…

Facebook Twitter Telegram Pinterest
เซียนหมากข้ามมิติ

เซียนหมากข้ามมิติ

ChronoGo, Lan Ke Qi Yuan, Lạn Kha Kỳ Duyên, Special Destiny Of Rotten Ke, The Board of Lanke, Kismet of the Lanke Piece, Lanke Chess Edge, The Board Of Lanke, 烂柯棋缘, 난가기연
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ต้นฉบับ: 1021 Chapters (จบแล้ว)
จี้หยวน พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งไปร่วมกิจกรรมค่ายพักกลางแจ้ง ระหว่างเดินชมต้นไม้ไปเรื่อยๆ เขาพบกระดานหมากบนตอไม้กลางป่า พอจะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปกลับปลดล็อกหน้าจอไม่ได้ คิดว่าแบตหมดแล้วจึงรีบกลับไปหาแบตสำรองที่ค่าย แต่พอกลับไปถึงที่ตั้งค่าย กลับไม่มีคนในบริษัทอยู่สักคน แม้แต่เต็นท์ก็หายไปหมด.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset