📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี เซียนหมากข้ามมิติ – ตอนที่ 178

บทที่ 178 - พูดเบาๆ ก็เจ็บ
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

รสชาติบะหมี่พะโล้และเครื่องในของร้านบะหมี่ตระกูลซุนยังอร่อยเหมือนเดิม อาจเรียกได้ว่านี่เป็นรสชาติของบ้านเกิด หลังจากมาที่โลกนี้แล้ว อำเภอหนิงอันก็คือบ้านเกิดของจี้หยวนอย่างไม่ต้องสงสัย

ร้านบะหมี่ตระกูลซุนอยู่ที่เดิมไม่เปลี่ยนแปลงมาหลายปี รสชาติคงเดิม ปริมาณคงที่ ราคาก็ไม่เปลี่ยนเช่นกัน นอกจากเจ้าของร้านแก่ขึ้นแล้ว ทุกอย่างล้วนเหมือนเดิม

จี้หยวนกินอาหารมื้อนี้เสร็จแล้ว จ่ายเงินและพูดคุยกับเถ้าแก่ซุนอีกหลายคำถึงลุกขึ้น มุ่งหน้าไปยังตรอกศาลเจ้า

พนักงานของหอนอกศาลเปลี่ยนไปสองคน แต่เจ้าของกิจการอย่างหลงจู๊มองดูชัดๆ หลายรอบแล้วก็จำจี้หยวนได้ ถึงขนาดยังจำได้ว่าตอนนั้นจี้หยวนชอบซื้อขนมและสุราสลักบุปผาที่สุด

นี่ทำให้จี้หยวนประหลาดใจอยู่บ้างเหมือนกัน อย่างไรเสียก็แตกต่างกับสถานะลูกค้าประจำของเถ้าแก่ซุน เพราะมีลูกค้าเข้าออกหอนอกศาลมากมายในทุกวัน ตอนที่เขาถือขนมสองกล่องและสุราสลักบุปผาออกจากหอนอกศาล แม้ไม่ค่อยเข้าใจเหตุผล แต่เขากลับยังคงรู้สึกสบายใจ มีคนจำได้ย่อมดีเสมอ

คนที่ทำกิจการเช่นนี้มักจะใส่ใจลูกค้าพิเศษจำนวนหนึ่ง สถานที่เล็กๆ อย่างอำเภอหนิงอัน จี้หยวนถือเป็นคนที่ต้องให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่งในสายตาของหลงจู๊ หากไม่พูดถึงความสามารถของจี้หยวน ทว่าถอยก้าวหนึ่งไปดูก็เป็นสหายของจ้วงหยวนอยู่ดี

เมื่อจี้หยวนออกจากหอนอกศาลและมุ่งหน้าไปทางศาลเทพหลักเมือง ถึงค่อยมีพนักงานหนุ่มหน้าใหม่ในหอถามหลงจู๊ด้วยความสงสัย

“หลงจู๊ ท่านจี้เป็นใครกัน ไยท่านกระตือรือร้นเช่นนี้”

หลงจู๊หันไปมองพนักงานในร้าน ยังไม่ได้พูดอะไรก็มีลูกค้าข้างๆ พูดขึ้นก่อน เมื่อครู่นี้เขาก็ทักทายจี้หยวนเช่นกัน

“เขาก็คือท่านจี้หยวนที่อาศัยอยู่ในเรือนสันติก่อนหน้านี้ เด็กอย่างเจ้าคงไม่เคยได้ยินเรื่องนั้นกระมัง เรื่องที่ต้นพุทราออกผลในคืนเดียวเพื่อส่งท่านจี้ออกเดินทาง”

“เอ๋? เป็นคนผู้นั้นจริงหรือ!”

“ฮ่าๆๆ…”

หลงจู๊ที่อยู่ด้านหลังโต๊ะหัวเราะพลางส่ายหน้า ส่วนลูกค้าผู้นั้นเบิกบานใจมาก

“นี่ เจ้าคงไม่เชื่อเรื่องนั้นสินะ หากข้าบอกว่าตอนนั้นได้กินพุทราเดือนสี่นั่นเหมือนกัน เจ้าก็จะไม่เชื่อใช่หรือไม่”

“นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร ฮ่าๆ…”

คนเฝ้าร้านพูดพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะรีบหยิบผ้าขี้ริ้วไปเก็บกวาดโต๊ะ

ฝ่ายหลงจู๊ทอดถอนใจ

“วันนี้มีผู้เซ่นไหว้ที่มาจุดธูปตอนเช้าบอกข้าว่ามีกลิ่นหอมตลบอบอวลตรอกเทียนหนิว กลิ่นดอกพุทรากระจายไปถึงตรอกข้างเคียงและถนนใกลๆ ที่แท้เป็นท่านจี้กลับมาแล้วนี่เอง!”

ลูกค้าที่หยอกเย้าคนเฝ้าร้านเมื่อครู่ได้ยินแล้วตกใจมาก

“จริงหรือ”

“อืม…เห็นทีจะจริง!”

ในหอนอกศาลยังคงพูดถึงเรื่องของจี้หยวน ส่วนเขาเองในตอนนี้ถือขนมและสุรามุ่งหน้าไปเยี่ยมเยียนเทพหลักเมืองซ่งแห่งศาลหลักเมือง

กลับมาถึงอำเภอหนิงอันแล้วควรต้องมีมารยาท มอบขนมหนึ่งกล่อง สุราหนึ่งกาให้ เมื่อออกจากศาลหลักเมืองและเดินเล่น คุยเล่นกับเทพหลักเมืองชราอยู่ครู่หนึ่งแล้ว คราวนี้ถึงค่อยประสานมือบอกลา

พอทำสิ่งที่จำเป็นเหล่านี้เสร็จสิ้นแล้ว จี้หยวนถึงค่อยกลับไปที่เรือนสันติ

เย็นย่ำ สำนักศึกษาเลิกเรียนแล้ว หลังจากอิ๋นชิงนำเคารพอาจารย์เสร็จสิ้น พวกนักเรียนก็พากันแยกย้ายไป อิ๋นชิงและจิ้งจ้องน้อยก็เดินกลับบ้านด้วยฝีเท้าว่องไวเช่นกัน

ตอนนี้อิ๋นชิงอายุสิบแปดปีตามอายุทั่วไปของโลกนี้แล้ว จากเด็กชายกลายเป็นเด็กหนุ่ม และจากเด็กหนุ่มกลายเป็นชายหนุ่มแล้ว ด้วยความรู้และความฉลาดของอิ๋นชิง ไปเข้าเรียนเพิ่มเติมที่สำนักศึกษาขนาดใหญ่ได้ทุกเมื่อ

อิ๋นชิงมักมีท่าทีสุขุมและขยันหมั่นเพียรต่อหน้าปัญญาชน แต่ขอเพียงไปถึงตรอกที่มีคนอยู่น้อยก็จะวิ่งเร็วมาก วิ่งกลับตรอกเทียนหนิวรวดเดียวโดยไม่หอบหายใจเลยสักนิด

เมื่อถึงตรอกเทียนหนิว เขาได้กลิ่นดอกไม้ในทันที

“อ๊ะ กลิ่นหอมยังอยู่ เป็นของจริง จิ้งจอกน้อย พวกเราไปดูต้นพุทราใหญ่กันเถอะ”

“เรียกข้าว่าหูอวิ๋น!”

“ได้ๆ หูอวิ๋น!”

จิ้งจอกแยกเขี้ยวยิงฟัน

จนถึงครึ่งหลังของตรอกเทียนหนิว จิ้งจอกแดงกระโดดขึ้นหลังของอิ๋นชิง หนึ่งคนหนึ่งจิ้งจอกเดินไปทางเรือนสันติแบบนี้ ตอนเลี้ยวเข้าไปในปากซอยนั้น พวกเขาพลันพบว่าประตูเรือนสันติคล้ายกับเปิดอยู่

“เอ๊ะ! ประตูเปิดอยู่”

อิ๋นชิงร้องด้วยความประหลาดใจ ฝ่ายจิ้งจอกกระโดดขึ้นไหล่อิ๋นชิงไปมองดูอยู่ครู่หนึ่งค่อยกล่าวด้วยความสงสัย

“คงไม่ใช่มีโจรเข้าไปกระมัง”

“โง่นัก โจรปีนกำแพงเข้าไปก็พอแล้ว จะเปิดประตูไปทำไมกัน อีกอย่างนั้นในนั้นมีต้นพุทราใหญ่อยู่นะ”

พวกเขาพูดพลางเร่งฝีเท้าเดิน ในใจเกิดความรู้สึกคาดหวังขึ้นอย่างน่าประหลาด

เมื่อถึงด้านนอกประตูเรือนสันติ มองเข้าไปแล้วเห็นจี้หยวนกำลังอ่านหนังสืออยู่ที่หน้าโต๊ะ บนโต๊ะยังวางไว้ด้วยขนมจากหอนอกศาลจำนวนหนึ่งด้วย

“ท่านจี้!”

“เอ๋ง…”

อิ๋นชิงและหูอวิ๋นส่งเสียงร้องเพราะแปลกใจพร้อมกัน ฝ่ายหลังยิ่งส่งเสียงจิ้งจอกออกมาเพราะวุ่นวายใจอยู่ชั่วขณะ

จี้หยวนวางหนังสือลงและยิ้มให้อิ๋นชิง ชี้ขนมบนโต๊ะ อีกทั้งยิ้มจางๆ พลางพยักหน้าให้จิ้งจอกแดงที่กำลังกระวนกระวายเล็กน้อยด้วย

“พวกเจ้าสองคนเข้ามาเถอะ ขนมจากหอนอกศาลนี่ข้ากินคนเดียวไม่หมดหรอก”

อิ๋นชิงส่งเสียงร้องด้วยความยินดี จากนั้นเข้าไปในลานบ้านพร้อมกับจิ้งจอกแดง เมื่อนั่งที่หน้าโต๊ะหินแล้วก็ไม่หยุดปาก กินไปพลาง คุยเจื้อยแจ้วกับจี้หยวนไปพลาง

ทีแรกจิ้งจอกแดงระแวงอยู่บ้าง อีกทั้งไม่กล้าพูดภาษาคน จนกระทั่งจี้หยวนพูดกับมันก่อน มันถึงเริ่มพูดภาษาคนออกมา ผลัดกันพูดคนละคำกับอิ๋นชิงไม่ยอมหยุด

คืนนั้นหลังจากอิ๋นชิงหลับแล้ว จิ้งจอกแดงมาที่เรือนสันติเพียงลำพัง กระโจนตัวขึ้นขอบกำแพงอย่างแผ่วเบาแล้วกระโดดเข้าไปในลานบ้าน

จี้หยวนยังไม่นอน แต่นั่งอยู่ที่โต๊ะหิน ในมือถือแท่งหยกและใช้มือวาดอะไรบางอย่าง ซึ่งเขากำลังปรับแก้คำบรรยายวิชาฟ้าดินและสรรพสิ่งของมังกรเฒ่า

“ท่านจี้!”

“อืม”

จี้หยวนไม่ได้หันไปมองหูอวิ๋น ยังคงวาดแท่งหยกต่อไป

“ท่านจี้ ข้าเตรียมกลับเขาโคเทพเพื่อบอกเจ้าภูเขาว่าท่านกลับมาแล้ว”

“อ้อ”

จิ้งจอกแดงเงยหน้ามองใบหน้าที่ไม่เปลี่ยนแปลงของจี้หยวนอย่างระมัดระมัง

“ท่านยินยอมหรือ”

จี้หยวนกันไปมองและยิ้มให้มัน

“ไปเถอะๆ”

จิ้งจอกแดงประสานอุ้งเท้าคำนับให้จี้หยวนเลียนแบบคน จากนั้นกระโดดออกจากกำแพงเรือนในทันที ห้อตะบึงออกจากตรอกเทียนหนิวไป

ภายใต้ดวงดาวยามราตรี บนถนนนอกอำเภอหนิงอันมีจิ้งจอกแดงตัวหนึ่งลากหางใหญ่ปุกปุยวิ่งปรี่ไปข้างหน้า มุ่งตรงไปทางเขาโคเทพ ใช้เวลาแค่หนึ่งเค่อกว่าๆ ก็ถึงตีนเขาแล้ว จากนั้นก็มุดเข้าไปในป่าด้วยความร่าเริงโuเวลกูดoทคอม

หลังจากนั้นประมาณสองชั่วยาม ในถ้ำลึกของป่าบนเขาโคเทพมีเสียงเสอคำรามดุร้ายดังออกมา

“โฮก…”

ใบไม้ร่วงและกิ่งไม้ข้างนอกถ้ำปลิวกระจายเพราะลมที่เป่าออกมาจากข้างใน

จิ้งจอกแดงหมอบอยู่ในถ้ำตัวสั่นกลัวไม่กล้าขยับ ขนบนตัวตั้งชันเพราะเสียงเสือคำรามเมื่อครู่ราวกับเผชิญหน้ากับลมกรรโชก

ดวงตาเสือสีเขียวมันวาวคู่หนึ่งทอประกายน่าประหวั่นท่ามกลางความมืด

“เจ้าบอกว่าท่านจี้กลับมาแล้วหรือ!”

“ใช่ๆๆ!”

จิ้งจอกแดงรีบพยักหน้าและตอบรับ

ตึง…ตึง…ตึง…ตึง…

ร่างกายยักษ์ใหญ่ของเจ้าภูเขาลู่เดินไปมาอยู่ในถ้ำ หญ้าแห้งนุ่มใต้ฝ่าเท้าถูกเหยียบย่ำ แสดงถึงความตื่นเต้นและความรู้สึกอดรนทนไม่ได้อย่างชัดเจน

“ท่านจี้กลับมาแล้ว ท่านจี้กลับมาแล้ว! เขาจะมาพบข้าหรือไม่ ข้าควรไปพบท่านหรือไม่!”

ตึง…ตึง…ตึง…ตึง…

ร่างหนาหนักของเสื้อร้ายเหยียบบนพื้นถ้ำราวกับย่ำลงบนหัวใจของหูอวิ๋น เจ้าภูเขาลู่ไม่ถามมันก็ทำได้แต่หมอบอยู่ข้างๆ อย่างสงบนิ่ง

ความจริงแล้วตอนนี้ในใจหูอวิ๋นรู้สึกแปลกๆ ด้วยไม่เคยเห็นท่าทางในตอนนี้ของเจ้าภูเขาลู่ที่น่ากลัวที่สุดบนเขาโคเทพมาก่อน

เสือร้ายส่ายศีรษะสะบัดหาง ปากพร่ำพูดไม่หยุด

“ไม่ได้ๆ ข้าเป็นภูตเสือร้าย ศีรษะใหญ่โตขนาดนี้ลงเขาไปต้องทำให้คนตกใจกลัวเป็นแน่ เทพหลักเมืองและเทพเจ้าที่ก็ไม่มีทางปล่อยให้ข้าเข้าเมืองอย่างแน่อน…”

ทันใดนั้นเสือร้ายหันไปจ้องจิ้งจอกแดง ทำให้หูอวิ๋นที่กำลังลอบหัวเราะขนตั้งขึ้นโดยพลัน คิดว่าตนเองถูกจับได้ว่าลอบหัวเราะ

“ท่านจี้เพิ่งกลับมาวันนี้กระมัง ท่านจี้พูดถึงข้า หรือบอกหรือไม่ว่าอยากพบข้า”

“เอ่อ…นั่น…”

หูอวิ๋นหัวใจเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง ท่านจี้เหมือนจะไม่ได้พูดถึงเจ้าภูเขาเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะมาพบเขา แต่หากจะพูดอะไรให้เจ้าภูเขาลู่ผิดหวังในตอนนี้ มันจะถูกกินหรือไม่

“เอ่อ…ท่านจี้น่าจะกลับมาเมื่อคืน เพราะเมื่อคืนต้นพุทราออกดอกสะพรั่ง…จากนั้นคืนนี้ข้าไปที่เรือนสันติ ท่านจี้คล้ายกับรู้นานแล้วว่าข้าจะไป อีกทั้งยินยอมให้ข้าบอกเจ้าภูเขาว่าเขากลับมาแล้ว…”

“จากนั้นเล่า”

ใบหน้าเสือร้ายเข้าใกล้จิ้งจอกแดงจนห่างไม่ถึงสองฉื่อ ทำให้ฝ่ายหลังตัวสั่นและต้องกลืนน้ำลายอึกหนึ่ง

‘ไม่มีหลังจากนั้นแล้ว…’

“ฮือๆ ล้วน ล้วนต้องโทษข้า เพิ่งฝึกใช้ฟันได้ไม่นานยังไม่ค่อยคล่อง เห็นท่านจี้แล้วเครียดเกร็งพูดไม่ได้ เมื่อได้ยินว่าท่านจี้ให้ข้ากลับเขาบอกเจ้าภูเขา ก็ ก็รีบร้อนออกจากลานเล็ก ตอนนี้คิดดูแล้วท่านจี้น่าจะยังอยากพูดอะไรอีก ต้องโทษข้าที่ข้ารีบเอง…”

“เจ้า…กรร…”

เสือร้ายส่งเสียงคำรามอย่างฉุนเฉียว แต่คำรามแล้วกลับไม่ได้มีสีหน้าโมโหอะไร กลับกันร่างกายที่กำลังตื่นตัวสงบลงบ้างแล้ว

“เฮ้อ…เกรงว่าท่านจี้ไม่ได้พูดถึงข้า…”

เสียงที่ซึมเซาอย่างชัดเจนเพิ่งจบลง จี้หยวนที่รออยู่ข้างนอกถ้ำนานแล้วหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ เจ้าภูเขาลู่ เสือร้ายที่ทำให้เขาแค่มองก็กลัวแล้วในตอนนั้นก็มีมุมนี้เหมือนกัน

“ไม่พบกันหลายปี เจ้าภูเขาลู่คงไม่เจ็บไข้ได้ป่วยกระมัง”

เสียงของจี้หยวนดังเข้าถ้ำ ทำให้หูอวิ๋นและเจ้าภูเขาลู่ที่อยู่ข้างในต่างก็ตกตะลึง จากนั้นความยินดีสุดขีด ฝ่ายแรกประหลาดใจอยู่บ้าง ส่วนฝ่ายหลังดีใจมาก

สวบ

เงาดำใหญ่ยักษ์สายหนึ่งออกจากถ้ำ ปรากฏเสือร้ายที่ตัวใหญ่กว่าเสือทั่วไปหนึ่งเท่าตัวใต้แสงจันทร์

เสือร้ายกระโจนออกจากถ้ำก็เห็นจี้หยวนพิงร่างบนหน้าผา ทันใดนั้นดึงขาหลังเข้าหากันเพื่อพยุงส่วนหน้าให้ลอยขึ้นจากพื้น สองขาหน้าอุ้งเท้าซ้ายทับอุ้งเท้าขวา ซ่อนกรงเล็บไว้ในเนื้อ ไม่มีแขนเสื้อยาวก็ใช้ขนเสือคลุมหน้ากรงเล็บ แล้วยกอุ้งเท้าขึ้นหน้าผากเพื่อคำนับ

“ข้าเจ้าภูเขาลู่ขอคำนับท่านจี้!”

แม้มารยาทของชาวบ้านทั่วไปจะก็มีการน้อมคำนับ แต่ความจริงแล้วล้วนเรียบง่าย ส่วนเจ้าภูเขาลู่เป็นเสือร้ายตัวหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด ทว่าจากมุมโค้งคำนับจนถึงท่าทางคารวะล้วนเป็นการแสดงความเคารพที่ได้มาตรฐานอย่างถึงที่สุด จริงจังเหมือนกับนักเรียนในสำนักศึกษาเจออาจารย์หรือตอนศิษย์สำนึกในบุญคุณอาจารย์

ตอนจี้หยวนมาถึงโลกนี้ในตอนแรก เขาไม่ค่อยเข้าใจเรื่องการทำความเคารพตามมารยาทในชีวิตประจำวันสักเท่าไหร่ ปีนั้นก่อนจากลากันได้รับการทำความเคารพคล้ายๆ กับเจ้าภูเขาลู่ข้างนอกอารามเทพภูเขา ตอนนี้จึงทำได้เพียงรับไว้

“เจ้าภูเขารีบลุกขึ้นเถอะ ข้าคนแซ่จี้ไม่เคยสอนอะไรท่าน รับความเคารพเช่นนี้น่าละอายนัก!”

“ปีนั้นท่านจี้ชี้แนะให้ข้าเป็นคนใหม่ จะเรียกว่าไม่เคยสอนอะไรได้อย่างไร วันนี้ข้าขยันฝึกตน จิตวิญญาณโปร่งใสแจ่มชัดมาดยิ่งขึ้น ท่านจี้ไม่เคยดูถูกเสือร้ายอย่างข้า การทำความเคารพนี้ไม่อาจขาดไปได้สำหรับข้า”

เสือร้ายคำนับเสร็จแล้วไม่ลืมเก็บกรงเล็บ การทำความเคารพทั้งหมดนับว่าพิถีพิถันยิ่ง

ปากจี้หยวนโน้มน้าวภูตเสือ แต่ร่างกายกลับไม่ขยับ ยืนรับการทำความเคารพนี้อยู่ตรงนั้น ทำให้เจ้าภูเขาลู่รู้สึกเบิกบานใจเป็นอย่างยิ่ง

“เอาล่ะ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ วันนี้ข้าอารมณ์ดีมาก เลยจะบอกแก่นแท้ของการฝึกตนสำหรับปีศาจให้เจ้าฟัง จิ้งจอกน้อยที่อยู่ในถ้ำก็ออกมาเถอะ!”

อย่างไรเสียสองปีนี้ก็สนทนากับมังกรเฒ่าอยู่หลายครั้ง ขุมทรัพย์ที่อยู่ในท้องนับว่าเต็มเปี่ยม

ดวงตาเสือของเจ้าภูเขาลู่ทอประกายเจิดจ้า ในใจแทบจะบ้าคลั่งในวินาทีนี้ ด้วยมันเข้าใจความนัยในคำพูดนี้ ต้องสำคัญมากอย่างแน่นอน

ส่วนจิ้งจอกแดงที่กระโดดออกจากถ้ำยังหมกมุ่นอยู่กับการเรียกตนเองว่า ‘หูอวิ๋น’ แต่กลับไม่กล้าไปวอแวกับจี้หยวน

Facebook Twitter Telegram Pinterest
เซียนหมากข้ามมิติ

เซียนหมากข้ามมิติ

ChronoGo, Lan Ke Qi Yuan, Lạn Kha Kỳ Duyên, Special Destiny Of Rotten Ke, The Board of Lanke, Kismet of the Lanke Piece, Lanke Chess Edge, The Board Of Lanke, 烂柯棋缘, 난가기연
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ต้นฉบับ: 1021 Chapters (จบแล้ว)
จี้หยวน พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งไปร่วมกิจกรรมค่ายพักกลางแจ้ง ระหว่างเดินชมต้นไม้ไปเรื่อยๆ เขาพบกระดานหมากบนตอไม้กลางป่า พอจะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปกลับปลดล็อกหน้าจอไม่ได้ คิดว่าแบตหมดแล้วจึงรีบกลับไปหาแบตสำรองที่ค่าย แต่พอกลับไปถึงที่ตั้งค่าย กลับไม่มีคนในบริษัทอยู่สักคน แม้แต่เต็นท์ก็หายไปหมด.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset