📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี เซียนหมากข้ามมิติ – ตอนที่ 148

บทที่ 148 - แขกไม่ได้รับเชิญ
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

หลี่มู่ซูไม่ใช้ฐานะขุนนางข่มผู้คน แลกเปลี่ยนเรื่องเกี่ยวกับวรรณกรรมอย่างสงบนิ่ง ทำให้ความรู้สึกเครียดเกร็งของอิ๋นจ้าวเซียนลดน้อยลงเช่นกัน เปิดเผยอุดมคติในใจไม่มากก็น้อย

บางอย่างหลี่มู่ซูฟังแล้วรู้สึกว่าไร้เดียงสาอยู่บ้างจริงๆ แต่อิ๋นจ้าวเซียนกลับไม่ได้เพ้อฝันเหมือนคนหนุ่มคนอื่น เพียงมีทิศทางความคิดและมาตรฐานของตัวเอง กระนั้นตอนนี้ไม่มีมิตรไมตรีอะไร ดังนั้นเลิกคุยกันก่อนดีกว่า ทว่าหลี่มู่ซูก็ยังรับรู้ได้บ้าง

“อิ๋นเจี้ยหยวนอยากระบายความปรารถนาในใจ ทว่าเป็นไปไม่ได้ในยุคสมัยที่ยังไม่รุ่งเรือง!”

หลี่มู่ซูทอดถอนใจเสียงหนึ่ง

“ข้าคนแซ่อิ๋นคิดว่าต้าเจินในวันนี้แม้จะยังใช้คำว่ายุคสมัยที่รุ่งเรืองมาบรรยายไม่ได้ แต่กลับเจริญมากแล้ว ประชาชนแข็งแกร่ง อาณาจักรมั่งคั่ง ถ้าอาณาจักรมั่งคั่ง ประชาชนได้ประโยชน์ ประชาชนก็จะปลอดภัย สมเหตุสมผลเช่นนี้”

อิ๋นจ้าวเซียนอธิบายอย่างมีมารยาท ทว่าไม่ได้ลึกซึ้งสักเท่าไร

ทั้งสองคนสนทนาพลางดื่มชาอยู่ที่ตำหนักข้าง ธุระงานเลี้ยงจวนอ๋องนั้นปล่อยให้ข้ารับใช้จัดการ ไม่เกี่ยวกับพวกเขา ตอนท้องฟ้าเริ่มมืดลงถึงค่อยมีคนสนิทและสหายของจิ้นอ๋องทยอยมาถึง บางครั้งหลี่มู่ซูก็จะพาอิ๋นจ้าวเซียนไปทักทายสักหน่อย

ยิ่งท้องฟ้ามืดลง อุณหภูมิก็ลดต่ำลงด้วย อย่างไรเสียหลี่มู่ซูก็อายุมากแล้ว เขาตัวสั่นงันงกอยู่ที่ตำหนักข้างอย่างเห็นได้ชัด จึงเสนออิ๋นจ้าวเซียนย้ายที่นั่งไปด้วยกัน

“อิ๋นเจี้ยหยวน มิสู้พวกเราไปที่งานเลี้ยงเป็นอย่างไร ตรงนั้นมีเตาอุ่น น้ำร้อน และมีพรมปูพื้นอยู่ อบอุ่นกว่าที่นี่มาก!”

“เอ่อ ท่านอ๋องยังไม่กลับมา พวกเราไปที่งานเลี้ยงได้หรือ”

อิ๋นจ้าวเซียนถามด้วยความลังเล

“ฮ่าๆๆ…อิ๋นเจี้ยหยวนสบายใจเถอะ พวกข้าไม่ได้จะเริ่มงานเลี้ยงก่อน อีกอย่างแขกหลายคนอาจจะจากไปแล้ว พวกเขาล้วนเป็นขุนนาง ใครเล่าอยากทนทุกข์ทรมานในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้เล่า”

‘ข้าไม่ใช่ขุนนาง’

อิ๋นจ้าวเซียนวิจารณ์ในใจ ตามหลี่มู่ซูมุ่งหน้าไปยังงานเลี้ยง

นี่คืองานเลี้ยงจวนอ๋องอย่างแท้จริง ตอนที่สหายจำนวนหนึ่งของจิ้นอ๋องมาถึงยังพาครอบครัวมาด้วย ไม่ได้เข้มงวดมากเท่าไร สถานที่จัดงานเลี้ยงอยู่ภายในโถงใหญ่ของลานด้านหลังจวนอ๋อง ด้านในวางไว้ด้วยมีโต๊ะกลมสี่หรือห้าตัว แทนที่จะเป็นโต๊ะเดี่ยวเหมือนงานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าตามบ้านของคนทั่วไป

นอกจากโต๊ะกลมแล้ว ข้างในยังมีเตาอุ่นที่มีคนคอยดูแลโดยเฉพาะทั้งสี่มุม เมื่อปิดประตูแน่นแล้วเหลือช่องลมเพียงเล็กน้อย ทำให้ข้างในอบอุ่นมาก

ที่ว่างตรงหน้างานเลี้ยงเหลืออยู่ไม่มาก อย่างน้อยไม่พอแสดงการร่ายรำขนาดใหญ่ แต่ก็พอให้สาวใช้หลายคนดีดพิณหรือร้องเพลง

พอหลี่มู่ซูและอิ๋นจ้าวเซียนเดินผ่านประตูข้างที่ติดผ้าม่านหนาเข้าไปในงานเลี้ยง พลันรู้สึกได้ถึงไอร้อนสายหนึ่งเอ่อเข้ามา ความหนาวเย็นทั่วร่างกายถูกกำจัดไปจนหมด

“ฮ่าๆๆ…อาจารย์หลี่!”

“ท่านหลี่มาแล้ว!”

“ข้าเพลิดเพลินกับที่นี่เสียแล้ว”

“เมื่อครู่คิดอยู่ว่าท่านหลี่ขี้หนาวขนาดนั้น จะทนอยู่ที่นี่ไหวได้อย่างไร!”

“ฮ่าๆๆ…แก่แล้วไม่ค่อยได้ฝึกฝนร่างกาย ก็เลยไปหาที่เงียบๆ แลกเปลี่ยนเรื่องผลงานวรรณกรรมกับอิ๋นเจี้ยหยวน ข้ามาถึงที่นี่ตั้งนานแล้ว มาๆๆ ข้าจะแนะนำคนหนึ่งให้ทุกคนรู้จัก เป็นอัจฉริยะแห่งยุค เจี้ยหยวนของรัฐจี…”

เห็นหลี่มู่ซูมาแล้ว แขกที่หลบหนาวอยู่ในโถงนานแล้วพากันทักทาย อิ๋นจ้าวเซียนเดิมทีเพียงคิดทำตัวเป็นคนล่องหน แต่หลี่มู่ซูไม่ยอมปล่อยเขาอย่างเห็นได้ชัด คำแนะนำรอบหนึ่งทำให้เขาได้รับความสนใจในทันที

จี้หยวนและมังกรเฒ่าในตอนนี้ก็เข้ามาในโถงข้างแห่งนี้แล้ว ยืนสังเกตการตกแต่งของที่นี่อยู่ตรงมุมหนึ่ง

“ท่านอิง แม้จวนบาดาลนั้นของท่านจะงดงามไม่ธรรมดา อีกทั้งมีสีสันสดสวย แต่สุดท้ายแล้วก็เป็นวังใต้น้ำ แช่อยู่ในน้ำทั้งที่อากาศหนาวเย็นสบายสู้ที่นี่ไม่ได้จริงๆ”

จี้หยวนหยอกเย้า ฝ่ายมังกรเฒ่าแย้มยิ้ม

“ในจวนบาดาลอุณหภูมิคงที่ทั้งสี่ฤดู ไข่มุกและปะการังประดับประดาเหมือนดวงดาว อีกทั้งมีสตรีทรงเสน่ห์ร่ายรำเล่นดนตรี ที่นี่น่ะหรือ หึๆ เทียบไม่ติด!”

ความรู้สึกหอมเย็นอบอุ่นน่ะเข้าใจไหมตาเฒ่า!

มังกรเฒ่ายื่นแขนแล้วงอขึ้นขณะพูด มีสุรากาหนึ่งและจอกสองใบลอยมายังมุมที่เขาและจี้หยวนอยู่ ทว่าคนอื่นกลับไม่สังเกตเห็นเลยสักนิด

เทสุราสองจอกเรียบร้อย สุราเป็นสีเหลืองชัดเจน กลิ่นหอมเย้ายวนมาก

“นี่คือสุราหยกทองของจังหวัดจิงจีหรือ”

จี้หยวนรับจอกที่มังกรเฒ่าส่งมาให้ ทั้งสองร่วมดื่มกันหนึ่งจอก ลิ้มรสชาติอยู่ครู่หนึ่ง

“จิ๊ ยังสู้วสันต์พันวันไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอำพันมังกรเลย”

“นับว่าไม่เลวแล้วในหมู่สุราธรรมดาแล้ว”

มังกรเฒ่าชิมรสสุราแล้ววางจอกลงข้างๆ ส่วนทางนั้นในที่สุดก็มีข้ารับใช้พบว่าสุราหายไปจากโต๊ะ

“ไอ้หยา ตรงนี้หายไปกาหนึ่ง!”

“รีบเอามาเติมสิ!”

อิ๋นจ้าวเซียนอยู่ทางนั้นไม่ได้ระมัดระวังตัวเท่าเมื่อครู่แล้ว ถึงอย่างไรเรื่องที่สนทนากันล้วนเป็นประสบการณ์ส่วนตัวและบทกวีจำนวนหนึ่งเท่านั้น

“ฮ่องเต้เสด็จ…”

เสียงแหลมสูงของขันทีประจำวังพลันดังมาจากข้างนอก ทำให้ในงานเลี้ยงที่แต่เดิมคึกคักพลันเงียบสงบ อิ๋นจ้าวเซียนยิ่งขนลุกชันทั่วร่างกาย

“ฮ่องเต้?”

“ฮ่องเต้มาที่จวนอ๋องหรือ”

“ไม่ใช่ว่าคืนนี้ฮ่องเต้จะอยู่ที่จวนอู๋อ๋องหรือ”

“นี่…”

“ทำใจให้สบายๆ!”

หลี่มู่ซูในตอนนี้ยิ่งเป็นเหมือนพ่อบ้าน ให้ทุกคนรักษาความสงบเสงี่ยม จากนั้นค่อยกำชับอิ๋นจ้าวเซียนเสียงหนึ่ง

“ได้พบฮ่องเต้ไม่ใช่เรื่องปกติ แม้จะเป็นงานเลี้ยงในครอบครัวก็ย่อมต้องมีมารยาท อีกเดี๋ยวนอกจากทำความเคารพแล้ว อิ๋นเจี้ยหยวนพยายามสงบนิ่งเอาไว้ก็พอ”

“ข้าน้อยเข้าใจแล้ว!”

อิ๋นจ้าวเซียนอยากจะล่องหนได้อยู่แล้ว

จี้หยวนและมังกรเฒ่ามองหน้ากัน เหตุการณ์นี้น่าสนใจทีเดียว จู่ๆ ฮ่องเต้ก็มาที่บ้านของโอรสองค์ที่สามอย่างนั้นหรือ

“ไป พวกเราเปิดประตูต้อนรับฮ่องเต้!”

ประตูห้องจัดเลี้ยงเปิดออก ลมหนาวสายหนึ่งพลันเอ่อเข้ามา แขกเหรื่อและข้ารับใช้พากันออกไปยืนต้อนรับที่สองข้างประตูโนเวลกูดอทคoม

เสียงฝีเท้าข้างนอกดังเข้ามาใกล้ระลอกหนึ่ง ภายในห้องจัดเลี้ยงนั้น ตั้งแต่แขกที่มาร่วมงานจนถึงข้ารับใช้ล้วนเครียดเกร็งและไม่ผ่อนคลายอย่างเห็นได้ชัด

นี่เป็นครั้งแรกที่จี้หยวนได้เห็นฮ่องเต้ต้าเจินองค์ปัจจุบัน ใบหน้านั้นน่าจะอายุประมาณห้าสิบปี รูปร่างออกไปทางท้วม สวมชุดคลุมสีเหลือง มัดมวยผมและประดับกวาน ข้างกายยังมีชายาสองคน คนหนึ่งคือฮองเฮา อีกคนหนึ่งคือเริ่นกุ้ยเฟย เสด็จแม่ของจิ้นอ๋อง ส่วนจิ้นอ๋องเดินตามหลังมาติดๆ

“ถวายบังคมฮ่องเต้!”

ทุกคนทำความเคารพต้อนรับเป็นเสียงเดียวกัน หากไม่อยากทำให้ฮ่องเต้ทรงกริ้ว โดยปกติแล้วต้าเจินได้พบ ‘โอรสสวรรค์’ ไม่จำเป็นต้องคุกเข่า

“เอาละ เข้าไปข้างในกันเถอะ ข้ามากินข้าวเท่านั้น”

ฮ่องเต้โบกมือให้ข้ารับใช้หลายคนข้างกายถอนไป ทุกคนตามเขาเข้าไปข้างในเช่นกัน เมื่อปิดประตูห้องแล้ว ด้วยเพราะจุดเตาอุ่นไว้มากมาย ไม่นานนักในห้องก็อบอุ่นขึ้นมาแล้ว

ฮ่องเต้ต้าเจินนั่งบนที่นั่งประธานได้ไม่ทันไรก็ถูมือ จากนั้นถอดชุดคลุมตัวนอกออก

“ที่นี่ของเจ้าสามสบายทีเดียว ดูจากการตกแต่งแล้ว เหมือนบ้านจริงๆ”

ในห้องจัดเลี้ยงปูพื้นและผนังด้วยหนังกลับ อย่าว่าแต่อยู่อาศัยเลย แค่เห็นก็รู้สึกอบอุ่นแล้ว

“ยืนทำอะไรกัน นั่งลงๆ จะกินข้าวกันไม่ใช่หรือ เจ้าสาม งานเลี้ยงจะเริ่มเมื่อไร”

“เมื่อเสด็จพ่อเสด็จมาแล้วย่อมเริ่มงานเลี้ยงทันทีพ่ะย่ะค่ะ”

“เช่นนั้นรอช้าอยู่ไย พ่อและเสด็จแม่ทั้งสองของเจ้าหิวกันหมดแล้ว”

กุ้ยเฟยส่งสายตาให้จิ้นอ๋อง ฝ่ายหลังรีบกวักมือเรียกข้ารับใช้และสั่งการ

“ทุกคนนั่งประจำที่ นี่เป็นงานเลี้ยงในครอบครัว ตอนนี้เสด็จพ่อถือเป็นผู้อาวุโสที่มาร่วมงานเลี้ยง ไม่ต้องระมัดระวังตัวมาก สั่งให้หลังครัวเริ่มงานเลี้ยงได้แล้ว”

คำพูดของจิ้นอ๋องทำให้ฮ่องเต้เผยรอยยิ้ม

“จริงสิเสด็จพ่อ กระหม่อมไม่มีการร่ายรำสวยงามอะไร มักจะฟังเรื่องเล่าเสียมากกว่า กระหม่อมจึงเชิญนักเล่าเรื่องที่มีชื่อเสียงของจังหวัดจิงจีมาเล่าเรื่อง คนผู้นี้มีเรื่องราวมากมาย ถนัดสนทนาพาที เล่าเรื่องแล้วสนุกน่าสนใจมาก!”

“โอ้? ไม่เลวๆ แปลกใหม่ทีเดียว ความสนุกสนานนี่ต้องเจ้าสามจริงๆ ฮ่าๆๆๆๆ…”

ชายาทั้งสองยิ้มตาม ทุกคนผ่อนคลายลงไม่น้อยเช่นกัน

จากนั้นงานเลี้ยงเริ่มขึ้น อาหารเลิศรสส่งควันฉุยหลายต่อหลายอย่างถูกส่งมาจากประตูข้าง ความจริงตรงนั้นมีห้องกั้นไว้ ทั้งสองฝั่งมีผ้าม่านหนา จึงไม่ถึงกับทำให้ลมหนาวเข้าสู่ห้องจัดเลี้ยงโดยตรง

ไม่นานบนโต๊ะก็เต็มไปด้วยอาหารและสุรา ตรงที่ว่างขนาดใหญ่ตรงหน้ามีสาวใช้หอบพิณเดินเข้ามา และมีข้ารับใช้ยกฉากกันลม โต๊ะ รวมถึงเก้าอี้เตี้ยเข้ามาด้วย

สาวใช้ค่อยๆ ดีดพิณ ส่วนหน้าโต๊ะด้านหลังฉากกันลมนั้น นักเล่าเรื่องนั่งลงแล้ว

แตกต่างกับนักเล่าเรื่องทั่วไป ใช้ฉากกันลมแล้วทำให้เขาแสดงออกได้อย่างมีอิสระ และทำให้ทักษะทางการพูดยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น

ฮ่องเต้ไม่สนใจสามัญชนอย่างอิ๋นจ้าวเซียนอย่างเห็นได้ชัด หรืออาจพูดได้ว่าไม่สนใจคนที่ไม่รู้จักในงานเลี้ยงนี้ก็ได้

น้ำแกง อาหารร้อนๆ และสุรารสเยี่ยม กอปรกับนักเล่าเรื่องเปิดปากพูด บรรยากาศบนโต๊ะอาหารคึกคักขึ้น ทว่าเทียบกับตรงอื่นแล้วตรงนี้เงียบกว่ามาก ด้วยตั้งอกตั้งใจฟังเรื่องเล่า

ฝีปากถือเป็นความสามารถแขนงหนึ่ง นับเป็นครั้งแรกที่จี้หยวนได้ยินในสองชาติ หลังฉากกันลมเป็นคนผู้หนึ่งอย่างชัดเจน ทว่าเสียงที่ดังมาแปลกพิสดาร ตั้งแต่เด็กจนแก่ ตั้งแต่ไก่ สุนัข จนหมาป่าและนกอินทรี ทุกเสียงเหมือนจริงทั้งสิ้น ทำให้เรื่องราวที่เล่า ‘สมจริง’ เป็นอย่างยิ่ง

จี้หยวนกับมังกรเฒ่าถึงขนาดเดินไปดูใกล้ๆ ฉากกันลม เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นคนผู้หนึ่งที่นั่งอยู่ตรงนั้น

ส่วนฮ่องเต้ ไปจนถึงอิ๋นจ้าวเซียน หรือข้ารับใช้ที่คอยปรนนิบัติต่างก็ตั้งอกตั้งใจฟัง แม้แต่สาวใช้ที่เล่นดนตรีประกอบเรื่องราวเองก็สร้างเสียงดนตรีประกอบซึ่งผสมผสานกับอารมณ์ในเรื่องราวของนักเล่าเรื่อง

จะเล่าเรื่องฆ่าฟันแก้เค้นในวันก่อนปีใหม่คงไม่เหมาะสม เรื่องที่นักเล่าเรื่องเตรียมมาคือ ‘ตำนานเทพ ตอน ท่องเที่ยววังมังกร’ เรื่องราวมหัศจรรย์และสวยงามนี้เอาชนะใจคนได้เป็นพิเศษ

เมื่อเล่าถึงช่วงหนึ่ง ไม้ปลุกสติพลันกระแทกโต๊ะเสียงดังปัง!

“สุดท้ายแล้วนักปราชญ์ผู้นั้นทนความโลภไม่ได้ ขโมยอัญมณีเม็ดหนึ่งในวังมังกรระหว่างทางไปเข้าห้องสุรา ราชามังกรย่อมรู้ แม้จะไม่ได้พูดอะไรด้วยประเมินเขาต่ำเกินไป ทว่าก็ไม่ได้กระตือรือร้นเหมือนก่อนหน้านี้อีก พอถึงวันรุ่งขึ้นก็ส่งเขากลับอำเภอ และจากนั้นไม่ได้เชิญบัณฑิตตระกูลเฉียนผู้นี้อีกเลย!”

“ถึงบัณฑิตผู้นี้จะใช้อัญมณีแลกมาซึ่งความร่ำรวยชั่วครู่ชั่วคราว แต่กลับค่อยๆ เสื่อมลาภท่ามกลางความเพลิดเพลิน อีกทั้งละเลยการศึกษาไปแล้วความปราดเปรื่องลดน้อยลง ยามชราแล้วจึงยากจนมาก…”

สาวใช้บรรเลงดนตรีเปลี่ยนจังหวะให้โศกเศร้าขึ้นเล็กน้อยในเวลานี้

อาจจะเป็นเพราะนักเล่าเรื่องมีฝีมือสูงส่งเกินไป ครั้นเล่าเรื่องจบแล้วคิดไม่ถึงเลยว่าฮ่องเต้จะตั้งใจฟังจนมีความรู้สึกร่วม ยกกาสุรามาที่หน้าฉากกันลม สั่งคนย้ายฉากกันลมไปแล้วตั้งเก้าอี้ข้างๆ เพื่อสอบถามเรื่องเทพเซียนต่อ

นักเล่าเรื่องไม่กล้าขัดบัญชาฮ่องเต้ ทำได้เพียงเติมเต็มความใคร่รู้ของฮ่องเต้อย่างสุดความสามารถ ตั้งแต่ภูเขาเซียนชื่อดังจนถึงวังมังกรในแม่น้ำ เขาล้วนระดมสมองเพื่อหาคำตอบ และเล่าตำนานเทพในหมู่ชาวบ้านจำนวนหนึ่งจนหมดด้วย

จี้หยวนและมังกรเฒ่ายืนอยู่ข้างโต๊ะที่ใกล้ที่สุด ถือตะเกียบคีบอาการกินอยู่เรื่อยๆ พลางมองฮ่องเต้ถามความนักเล่าเรื่องฝีมือดีด้วยความพยายามทั้งหมด ขณะเดียวกันหวนนึกถึงข่าวลือที่เกี่ยวกับฮ่องเต้องค์ในหลายปีที่ผ่านมา จี้หยวนยิ้มขึ้น

“กลางดึกจัดงานเลี้ยงดีดพิณ ไม่หลงหยกทองกลับงมงายในเทพเซียน”

Facebook Twitter Telegram Pinterest
เซียนหมากข้ามมิติ

เซียนหมากข้ามมิติ

ChronoGo, Lan Ke Qi Yuan, Lạn Kha Kỳ Duyên, Special Destiny Of Rotten Ke, The Board of Lanke, Kismet of the Lanke Piece, Lanke Chess Edge, The Board Of Lanke, 烂柯棋缘, 난가기연
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ต้นฉบับ: 1021 Chapters (จบแล้ว)
จี้หยวน พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งไปร่วมกิจกรรมค่ายพักกลางแจ้ง ระหว่างเดินชมต้นไม้ไปเรื่อยๆ เขาพบกระดานหมากบนตอไม้กลางป่า พอจะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปกลับปลดล็อกหน้าจอไม่ได้ คิดว่าแบตหมดแล้วจึงรีบกลับไปหาแบตสำรองที่ค่าย แต่พอกลับไปถึงที่ตั้งค่าย กลับไม่มีคนในบริษัทอยู่สักคน แม้แต่เต็นท์ก็หายไปหมด.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset