📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี เซียนหมากข้ามมิติ – ตอนที่ 113

บทที่ 113 - เหตุประหลาด
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

เทพหลักเมืองจังหวัดชุนฮุ่ยสีหน้าอึมครึมยิ่งนัก ยังคงไม่อยากจากไปเช่นนี้ รูปจำลองลอยอยู่บนฟ้าสูง กวาดมองเนินเขาแถบนี้ไม่หยุด สองผู้พิพากษาบุญบาปและเจ้ากรมหยินหยางยืนอยู่ข้างกาย

ดวงตาทั้งสองของเจ้ากรมหยินหยางเผยปราณมายากวาดมองเบื้องล่าง ผู้พิพากษาบุ๋นบู๊กรมบุญบาปมือหนึ่งหยิบบันทึกมือหนึ่งถือพู่กันพิพากษา ขอแค่มีเบาะแสย่อมจดบันทึกผนึกทันที

“ปีศาจตัวนี้ฝึกสำเร็จแล้ว ไม่รู้ว่ามีความเป็นมาอย่างไร คลาดกันเพียงครู่กลับหามันไม่เจอ?”

เจ้ากรมหยินหยางทั้งขุ่นเคืองทั้งสงสัย

เทพหลักเมืองจังหวัดชุนฮุ่ยหรี่ตามองเนินเขาทั้งมองไปทางเมือง

“เกรงว่าปีศาจตัวนี้คงทำชั่วในจังหวัดชุนฮุ่ยนานแล้วแต่ไม่ถูกพวกเราพบ ไม่รู้ว่าในเงามืดมีคนธรรมดาติดกับมากเท่าไหร่!”

ผู้พิพากษาสองคนกับเจ้ากรมหยินหยางสีหน้าเคร่งขรึมไม่พูดจา โดยเฉพาะเมื่อครู่ยังฟันผู้ลาดตระเวนราตรีบริวารซ้ายขวาอีก แสดงว่าปีศาจตัวนี้ไม่เห็นศาลมืดจังหวัดชุนฮุ่ยอยู่ในสายตา ถือเป็นความอัปยศจากการยั่วยุซึ่งหน้าจริงๆ

การตรวจตราอาณาเขตของศาลมืดหลักเมืองมีข้อจำกัดมากมาย ภูตผีปีศาจบางตนอาจหลบเลี่ยงการตรวจตราของศาลมืด พวกมรรควิถีล้ำลึกแค่ปกปิดกลิ่นอายใช้ชีวิตร่วมกับปุถุชนใช่ว่าเป็นไปไม่ได้

แต่สำหรับปีศาจร้ายที่รู้ความเก่งกาจของศาลมืด วิธีทำร้ายคนย่อมไม่ดุดันเกินไป ด้วยเหตุนี้คนท้องถิ่นยามมีเด็กเกิดใหม่ผู้อาวุโสในบ้านส่วนใหญ่จะเข้าอารามขอพร รวมถึงเซ่นไหว้บรรพชนประจำตระกูลด้วย วันเกิดและพลังขับเคลื่อนจะ ‘บันทึก’ ข้อมูลลงศาลมืดท้องถิ่น

ถ้าปีศาจร้ายใช้วิธีรุนแรงทำร้ายคนธรรมดา บันทึกศาลมืดจะเปล่งแสง ย่อมถูกยมทูตเข้าเวรพบเห็น ค่อยรายงานเจ้ากรม จากนั้นศาลมืดจะรู้ว่ามีเรื่องเกิดขึ้น

แต่ใช่ว่าปีศาจร้ายซึ่งไม่มีมรรควิถีล้ำลึกหรือเชี่ยวชาญวิชาประหลาดจะเลี่ยงไม่ได้ ตัวอย่างเช่นลอบรุกรานทุกเช้าค่ำ โดยทั่วไปคือใช้ความงามยั่วยวนเหยื่อจนยอมด้วยความสมัครใจ

ตอนนี้เทพหลักเมืองจังหวัดชุนฮุ่ยกรุ่นโกรธอยู่บ้าง ยามสะบัดแขนเสื้อโซ่เหลือบทองสายหนึ่งทิ้งตัวลงเนินเขาเบื้องล่าง ทะลุผ่านก้อนหินดินโคลนเหมือนภาพมายา โบกสะบัดใต้ดินครู่หนึ่ง แต่กลับไม่เป็นผล

ผ่านไปประมาณหนึ่งเค่อกว่า สุดท้ายเทพหลักเมืองกับบริวารก็ยอมรับว่าไม่พบร่องรอยของปีศาจแล้ว ได้แต่กลับเมืองวางแผนต่อ

“ไปดูตรงเมืองก่อน แสงเพลิงลุกโชนเมื่อครู่แปลกมากเช่นกัน ในศาลมืดก็ต้องพยายามค้นบันทึกดู”

ต่อให้เตรียมใจมาก่อน เมื่อผู้พิพากษาสองคนได้ยินคำนี้ยังแอบร่ำร้อง แต่ด้วยหน้าที่คงช่วยไม่ได้

ที่เรียกว่าพยายามค้นบันทึก นั่นคือประชากรสองแสนของจังหวัดชุนฮุ่ย ต่อให้เป็นเทพผีก็ไม่ใช่งานเล็ก กรมบุญบาปรวมถึงยี่สิบสี่กรมต้องยุ่งกับเรื่องนี้เต็มกำลังสักกี่วัน

ส่วนใต้เท้าหลักเมืองแน่นอนว่าไม่ต้องเข้าร่วมงานเสมียนเช่นนี้ด้วยตัวเอง

ฝ่ายโรงเตี๊ยมอิ๋นจ้าวเซียนนอนขดตัวอยู่บนพื้น แม้ว่าต้นเหตุของความเจ็บปวดเด่นชัดบนตัวถดถอยไป แต่ความรู้สึกนั้นยังส่งผลกระทบต่อเขาเป็นระลอก

ตอนนี้อุณหภูมิอิ๋นจ้าวเซียนสูงอย่างน่าประหลาด ทั้งตัวยังแดงก่ำ เหงื่อเพิ่งไหลออกมาก็ถูกระเหยทันที หากไม่ใช่ว่าช่วงท้องมีพลังนุ่มนวลคลายความเจ็บปวดบนตัวตลอด เขาคงยืนหยัดไม่อยู่นานแล้ว

“ฮู่… ฮู่… ฮู่…”

หลังจากนั้นครู่หนึ่งความเจ็บปวดหายไปจนหมด อุณหภูมิของอิ๋นจ้าวเซียนลดลงมาถึงระดับไข้สูงช้าๆ โลกภายนอกอาจผ่านไปเพียงครู่ แต่สำหรับเขาทุกลมหายใจเหมือนผ่านไปเป็นเดือนเป็นปี

ความจริงคือผ่านไปไม่นาน ด้วยเรื่องใหญ่ยามฮูหยินแดงถูกซัดกลับจนชนกำแพงโรงเตี๊ยมแหลกเมื่อครู่ ตอนนี้เพิ่งมีเสียงคนดังเซ็งแซ่ เห็นถึงความสั้นของช่วงเวลา

“เมื่อครู่เกิดเรื่องอะไรขึ้น” “ไม่รู้สิ คล้ายฟ้าผ่าเลย!”

“เฮ้ย พวกเจ้าไม่ได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้องหรือ”

“ได้ยินแล้ว น่ากลัวนัก…!”

“โรงเตี๊ยมถูกกระแทกจนเกิดรูโหว่มากมายเลย!”

“คงไม่ใช่ฟ้าผ่าจนทะลุกระมัง”

“เฮ้ย อิ๋นเจี้ยหยวน!” “จริงด้วย!”

ในที่สุดเด็กรับใช้ของโรงเตี๊ยมสองคนกับผู้เข้าพักบางคนก็พบอิ๋นจ้าวเซียน มีคนรีบเข้ามาตรวจสอบ สัมผัสลมตรงจมูกพบว่าเขายังหายใจ แตะหน้าผากแล้วพบว่าร้อนผ่าว

“รีบเรียกหมอๆ!”

“จริงสิ ต้องแจ้งทางการด้วย!”

กลางดึกผู้เข้าพักโรงเตี๊ยมเกือบทั้งหมดถูกรบกวนจนตื่น มีคนออกมาตรวจสอบ ทั้งมีคนตื่นแต่นอนหลบอยู่ในห้อง แน่นอนว่ายังมีบัณฑิตบางคนซึ่งถูกดูดปราณหยางอายุขัยก่อนหน้านี้หมดสติอยู่บนเตียง

ภายในโรงเตี๊ยมพลันปั่นป่วน ช่วยคนส่วนช่วยคน แจ้งทางการส่วนแจ้งทางการ ยังมีคนถือโคมไฟส่องแผ่นไม้ก้อนอิฐแตกหักด้านนอก จากนั้นค่อยมีเจ้าหน้าที่ทางการรีบเร่งมา

ถึงอย่างไรกระดานหอมหมื่นลี้ก็เพิ่งประกาศ ทั้งมีเจี้ยหยวนประจำรัฐเหมือนถูกโจมตี ไม่ใช่เรื่องเล็กแน่

นอกการมองเห็นด้วยตาเปล่า เหนือหลังคาสิ่งปลูกสร้างอย่างโรงเตี๊ยม เทพหลักเมืองจังหวัดชุนฮุ่ยกับเจ้ากรมบริวารมองมาเบื้องล่าง ส่วนยมทูตดำมากมายกำลังตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเหมือนเจ้าหน้าที่ทางการบนโลกมนุษย์เช่นกัน ความสงบเรียบร้อยของปรโลกและโลกมนุษย์เกิดเหตุโดยไม่ทราบเรื่องราว

“เมื่อครู่มีเปลวไฟพุ่งทะยาน โจมตีปีศาจตนนั้นจนถอยร่น ยามนี้ม่านโรงเตี๊ยมกลับไม่มีรอยไหม้สักผืน น่าอัศจรรย์นัก!”

สายตาเทพหลักเมืองเหมือนทะลวงผ่านหลังคา เห็นสภาพห้องเดิมของอิ๋นจ้าวเซียนภายในโรงเตี๊ยม จากนั้นค่อยเคลื่อนสายตามองอิ๋นจ้าวเซียนซึ่งถูกย้ายมาอยู่อีกห้อง

“ยามขับเคลื่อนความคิดบัณฑิตทั่วไปมีปราณยิ่งใหญ่เสี้ยวหนึ่งถือว่าหายากแล้ว ทั้งซ่านสลายง่ายมาก แต่อานุภาพปราณต้านทานยิ่งใหญ่ของคนผู้นี้กลับปรากฏออกมา ถือว่าหายาก!”

“ใต้เท้ากล่าวถูกต้อง แต่เขาเป็นแค่คนธรรมดา ไม่อาจมีพลังโจมตีปีศาจซึ่งฝึกสำเร็จจนถอยร่น”

เจ้ากรมหยินหยางเข้ามาใกล้จนเห็นสภาพของอิ๋นจ้าวเซียนนานแล้ว รู้ว่าคนผู้นี้หนึ่งคือไม่เคยฝึกยุทธ์ สองคือไม่มีปราณวิญญาณ แน่นอนว่าตัวอิ๋นจ้าวเซียนเองมีพรสวรรค์โดดเด่นเป็นเลิศ ปราณบุ๋นไม่ตื้นเขิน ทั้งยังครอบครองลักษณ์ยิ่งใหญ่ ถือว่าไม่ธรรมดาแล้วโนเวลกูดอทคoม

“คนผู้นี้ปราณต้านทานยิ่งใหญ่เข้าขั้น ไม่แน่ว่าอาจเห็นความเป็นมาของปีศาจตนนั้น อีกครู่หนึ่งข้าจะเข้าฝันเขาเอง ถามเขาว่ามองเห็นหรือไม่กันแน่!”

เทพหลักเมืองพูดจบแล้วพาเหล่าขุนนางหันหลังจากไป กลับสู่ตรอกศาลเจ้า

แม้ว่าการเข้าฝันดูเหมือนไม่ต่างกับการเข้าฝันของผู้ฝึกเซียนนัก แต่กลับไม่ใช่วิชาประเภทเดียวกัน อย่างแรกถือเป็นพรสวรรค์ของบุคคลระดับเทพผี อย่างหลังเป็นวิชาอัศจรรย์ซึ่งผู้บำเพ็ญเซียนต้องฝึกฝน

ภายในโรงเตี๊ยมท่านหมอวินิจฉัยว่าอิ๋นจ้าวเซียนแค่โดนลมภายนอก รักษาความอบอุ่น กินยาขับเหงื่อ ตอนนี้อาการเปลี่ยนเป็นมีไข้ต่ำพอทุเลาลง ทั้งหลังจากท่านหมอมาอิ๋นจ้าวเซียนก็มีสติอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง แม้ว่าไม่นานก็หลับเพราะอ่อนเพลีย แต่ยังทำให้พวกเจ้าหน้าที่กับหลงจู๊โรงเตี๊ยมเป่าปากโล่งอก

ตอนอิ๋นจ้าวเซียนได้สติแค่บอกเจ้าหน้าที่ทางการว่ามีหญิงสาวชุดแดงเรียกตัวเองว่าฮูหยินแดงบุกจู่โจม แต่กลับไม่ได้บอกว่าตนเห็นปีศาจอะไร เขาไม่อยากถูกมองเป็นเจี้ยหยวนบ้า

เวลาล่วงมาถึงยามสี่ หลังจากเสียงเคาะเกราะบอกยามผ่านไปครู่หนึ่ง ภายในห้องพักของอิ๋นจ้าวเซียนมีลมทมิฬเจือกลิ่นกำยานพัดมา แต่เทียบกับคนอื่นแล้วเทพหลักเมืองมาเองจะไม่รู้สึกถึงความเยียบเย็น

เทพหลักเมืองจังหวัดชุนฮุ่ยมองเด็กรับใช้ของโรงเตี๊ยมซึ่งคอยเฝ้าอยู่ในห้องของอิ๋นจ้าวเซียนเล็กน้อย คนอื่นกำลังงีบหลับอยู่บนโต๊ะ จากนั้นค่อยมองอิ๋นจ้าวเซียนก่อนสะบัดแขนเสื้อ เงาร่างเลือนรางหายไป

อิ๋นจ้าวเซียนซึ่งกำลังหลับฝันบนเตียงขมวดคิ้วทันที

ในฝันเขาพบว่าตนนั่งอยู่กลางห้องมืดสลัวสี่ด้าน ที่นั่งอยู่คือเตียงหลังหนึ่ง ตรงหน้ามีผู้ถูกปกคลุมกลางความมืดสลัวครึ่งตัว มองเห็นรูปร่างไม่ถนัด แต่กลับเหมือนขุนนางชั้นผู้ใหญ่นั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะตัวหนึ่ง

อิ๋นจ้าวเซียนยิ่งอยากเห็นชัดก็ยิ่งรู้สึกเลือนราง ทั้งอีกฝ่ายยังแผ่กลิ่นอายซึ่งทำให้ผู้คนกดดัน

“ข้าอยู่ที่ไหน ใต้เท้า ท่านเป็นใคร”

“อิ๋นเจี้ยหยวนไม่ต้องกลัว ข้าคือเทพหลักเมืองจังหวัดชุนฮุ่ย มาเพื่อถามเรื่องหนึ่งกับเจ้าโดยเฉพาะ!”

เสียงเทพหลักเมืองดุจระฆังกังวาน ต่อให้ดังตรงหน้าแต่ราวสะท้อนโดยรอบ ช่วยให้อิ๋นจ้าวเซียนสงบใจ

ในฝันความรู้สึกของคนเรามักไม่ชัดเจน อารมณ์ยิ่งอ่อนไหวเช่นกัน บางครั้งอาจทำเรื่องโง่เขลาหรือไม่มีตรรกะบางอย่าง

ได้ยินอีกฝ่ายบอกว่าเป็นเทพหลักเมือง อิ๋นจ้าวเซียนตกตะลึง รีบประสานมือคารวะ

“อิ๋นจ้าวเซียนคารวะใต้เท้าหลักเมือง!”

“อืม อิ๋นเจี้ยหยวน ข้าขอถามเจ้า หญิงสาวซึ่งจู่โจมเจ้าภายในโรงเตี๊ยมก่อนหน้านี้ เจ้าเห็นใบหน้าของนางชัดเจนหรือไม่”

เรื่องแบบนี้พูดกับคนอื่นลำบาก พูดกับเทพหลักเมืองย่อมต้องกล่าวตามจริง เวลานี้อิ๋นจ้าวเซียนคิดว่าเมื่อครู่มีโอกาสสูงว่าเป็นเทพหลักเมืองช่วยเหลือยามตนเกือบถูกปีศาจฆ่าตาย

“ขอบคุณใต้เท้าหลักเมืองที่ช่วยเหลือข้าคนแซ่อิ๋นยามวิกฤติ เมื่อครู่หญิงสาวคนนั้นไม่ใช่คนธรรมดา ท่ามกลางความรางเลือนข้าเห็นนางเหมือนโครงกระดูกสีเลือด เรียกตัวเองว่าฮูหยินแดง”

เทพหลักเมืองขมวดคิ้ว

“ฮูหยินแดง?”

“ขอรับ เรื่องอื่นข้าคนแซ่อิ๋นไม่ทราบ ตอนนั้นสมองวิงเวียนเจ็บปวดไม่หยุดจริงๆ”

เทพหลักเมืองยิ้ม พอจินตนาการภาพปุถุชนคนธรรมดาซึ่งชาตินี้อาจไม่เคยแม้แต่เห็นผีเจอปีศาจออก เคราะห์ดีว่าครอบครองปราณต้านทานยิ่งใหญ่

แต่เทพหลักเมืองพลันนึกถึงแสงเพลิงก่อนหน้านี้ อิ๋นจ้าวเซียนคนนี้อาจมีเหตุบังเอิญอื่นอีก

“จริงสิ ยังมีอีกเรื่อง อิ๋นเจี้ยหยวน ยามปีศาจนั่นจะทำร้ายเจ้าเคยมีแสงเพลิงประหลาดปรากฏ โจมตีมันจนถอยร่น แต่ภายในโรงเตี๊ยมกลับไม่มีสิ่งใดไหม้เกรียม มีผู้สูงส่งเคยมอบของป้องกันตัวอะไรให้เจ้าหรือไม่”

คำถามนี้ของเทพหลักเมืองทำให้อิ๋นจ้าวเซียนรู้ว่าช่วงอันตรายเมื่อครู่เขาไม่ได้ช่วยตน ความคิดแรกในสมองก็คือจี้หยวน จากนั้นค่อยนึกถึงชายชรากลืนพุทราครึ่งต้นเมื่อคืนนั้น

“ขอพูดตามตรง ข้าน้อยมีวาสนารู้จักกับสหายคนหนึ่ง มีความสามารถทำให้เทพผีปีศาจเคารพนับถือ แน่นอนว่าไม่ใช่คนธรรมดา ก่อนจากกันเคยได้รับจดหมายของเขา… แต่ยังไม่ผ่านความเห็นชอบของเขาจึงไม่กล้าเปิดเผยชื่อแซ่ตามใจ…”

เทพหลักเมืองพยักหน้าเล็กน้อย ขอแค่เข้าใจเหตุผลก็พอ

“คาดว่าคงเป็นคนผู้นี้ปกป้องเจ้า ตอนนั้นคงมองปราณยิ่งใหญ่ของอิ๋นเจี้ยหยวนออกจึงช่วยเจ้าไว้…”

เทพหลักเมืองครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนคิดว่าอิ๋นจ้าวเซียนน่าจะไม่มีเบาะแสอะไรแล้ว

“ขอบคุณอิ๋นเจี้ยหยวนที่แถลงไข ขอลา!”

ในฝันเทพหลักเมืองประสานมือเล็กน้อย อิ๋นจ้าวเซียนรีบคารวะตอบ ท่ามกลางความเลือนรางความฝันสลายหายไปเช่นกัน อิ๋นจ้าวเซียนผล็อยหลับอีกครั้ง

Facebook Twitter Telegram Pinterest
เซียนหมากข้ามมิติ

เซียนหมากข้ามมิติ

ChronoGo, Lan Ke Qi Yuan, Lạn Kha Kỳ Duyên, Special Destiny Of Rotten Ke, The Board of Lanke, Kismet of the Lanke Piece, Lanke Chess Edge, The Board Of Lanke, 烂柯棋缘, 난가기연
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ต้นฉบับ: 1021 Chapters (จบแล้ว)
จี้หยวน พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งไปร่วมกิจกรรมค่ายพักกลางแจ้ง ระหว่างเดินชมต้นไม้ไปเรื่อยๆ เขาพบกระดานหมากบนตอไม้กลางป่า พอจะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปกลับปลดล็อกหน้าจอไม่ได้ คิดว่าแบตหมดแล้วจึงรีบกลับไปหาแบตสำรองที่ค่าย แต่พอกลับไปถึงที่ตั้งค่าย กลับไม่มีคนในบริษัทอยู่สักคน แม้แต่เต็นท์ก็หายไปหมด.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset