📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี บันทึกตำนานราชันอหังการ – ตอนที่ 658

บทที่ 658 - สวรรค์แปร!
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

วันที่สองเดือนสอง

วันนี้มีความหมายพิเศษยิ่งสำหรับซูอี้ผู้เวียนวัฏสงสารกลับมาฝึกตนใหม่

เขาเกิดขึ้นในวันนี้เมื่อสิบแปดปีก่อน

วันนี้เมื่อสิบสี่ปีก่อน มารดาของเขาเยี่ยอวี่เฟยสิ้นใจจากโรคร้าย

และวันนี้เมื่อปีที่แล้ว ยามเมื่อเขาฟื้นความทรงจำทั้งหมดในอดีตชาติ เขาก็ได้สร้างความตื่นตะลึงไปทั่วงานประลองประตูมังกรที่แม่น้ำต้าฉางนอกเมืองกว่างหลิง สำแดงฤทธิ์ตะลึงหล้า คว้าความสำเร็จโดดเด่นดังก้องฟ้า!

และยามนี้ก็หวนบรรจบวันที่สองเดือนสองอีกครั้ง!

ทุกสิ่งนับแต่อดีตหลั่งไหลสู่กายของซูอี้

“หนึ่งปีแล้ว…”

ซูอี้ลุกขึ้น และเดินออกจากห้องโถง

ยามนี้คือตีสี่ สายลมรัตติกาลพัดพลิ้ว

แม้ว่าหอเซียนดาบจะถูกกักอยู่ภายในค่ายกล ทว่าจักรวาลพร่างดาวอันไพศาลสูงส่งก็ยังเห็นได้ท่ามกลางนภาราตรี

ซูอี้นำเก้าอี้หวายออกมา นอนเอกเขนกบนนั้นพลางใช้ตาทอดมองฟ้า หัวใจรู้สึกสงบอย่างไม่อาจบรรยาย

หนึ่งปี

เขาตัดกรรมไปมากมาย สะบั้นความแค้นไปก็เยอะ บ่มกลั่นมหาวิถีของเขาจนเกินกว่าที่จะเทียบกับอดีตชาติ

เมื่อย้อนรำลึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงปีก่อน ในใจของซูอี้ก็เต็มไปด้วยอารมณ์ซับซ้อนมากมาย

ความอาวรณ์เดียวจนยามนี้ของเขาคือ เขายังไร้ความรู้สึกยึดติดกับมหาทวีปคังชิงเยี่ยงบ้าน และมีความอาทรให้เพียงบุคคลกลุ่มเล็ก ๆ

“บ้านเกิดของข้าคือที่ซึ่งหัวใจข้าสงบปลอดภัย จากนี้ไป… ข้าไม่อาจควบคุมได้ว่าจะไปหนใด”

ซูอี้หยิบน้ำเต้าขึ้นกระดกดื่ม

“คุณชาย ให้หว่านเอ๋อร์ร้องเพลงให้ท่านฟังหรือไม่?”

ชิงหว่านก้าวออกมากล่าวอย่างใจกล้า

ซูอี้อึ้งไป และนึกถึงคืนวันเกิดปีก่อน ชิงหว่านก็เคยทำเช่นนี้ เขาจึงอดยิ้มไม่ได้ กล่าวตอบว่า “ได้สิ”

ชิงหว่านแย้มยิ้มหวานทันที นางยกกระโปรงขึ้นอย่างนุ่มนวล ริมฝีปากสีชมพูเผยอเล็กน้อย ขานวจีร้องเพลงด้วยเสียงแว่วหวานดั่งมาจากชั้นฟ้า

“อายุของนายท่าน เปรียบดังความยั่งยืนจันทรา ประหนึ่งตะวันฉายแสง ดุจขุนเขาหนานอันยิ่งใหญ่ไร้พ่าย เป็นดังต้นสนตระหง่านงามงดยามเติบโต…”

เสียงร้องทุ้มต่ำ มีสัมผัสจังหวะราวกับตาน้ำที่ผุดไหลอยู่ในหุบเขาเงียบสงบ

มันคือเพลงวันเกิดอันแสนโบราณ

ปีก่อน ชิงหว่านก็ร้องเพลงนี้

เมื่อหวนกลับมาสดับฟัง หันกลับไปมองภาพต่าง ๆ ที่ประสบมาในช่วงปีนี้ ความรู้สึกที่แตกต่างก็ไหลสู่ใจของซูอี้

จนกระทั่งเพลงวันเกิดจบลง

จู่ ๆ ซูอี้ก็สัมผัสบางอย่างได้ในใจ เงยหน้าพรวดขึ้นจากบนเก้าอี้หวาย

บนนภาราตรีไกลออกไป เกิดบรรยากาศคุกรุ่นพลุ่งพล่านไปทั่ว อากาศสดชื่นหดหาย ปราณหยินขมุกขมัวปรากฏ และเมื่อหยินหยางสัมผัส ภาพที่เกิดลึกเข้าไปในท้องฟ้าราตรีจึงช่างอลหม่าน

ทันใดนั้นก็บังเกิดเสียงอสนีบาตฟาดแรงจากห้วงลึกในนภา

บรรยากาศคล้ายพายุฝนฟ้าคะนองตามปกติ ทว่ายามเมื่อเสียงอสนีบาตกระทบโสตซูอี้ เสียงอู้อี้นั้นกลับเป็นเสียงคำรามจากการปะทะเปลี่ยนผันของอำนาจบนสรวง

“สวรรค์แปรพิภพเปลี่ยน สรรพสิ่งฟื้นคืน”

แววตาของซูอี้ลึกล้ำ “ในกาลก่อน มหาทวีปคังชิงก็เริ่มขึ้นจากวันเช่นนี้ ปราณหยางแพร่กำจาย ชีวิตชีวาผลิบาน สรรพสิ่งเติบใหญ่ ทว่าคราวนี้…”

เปรี้ยง!

เสียงอสนีบาตกัมปนาทสะท้านเก้าชั้นฟ้า

หัวใจวิถีของซูอี้ซึ่งแข็งแกร่งดั่งหิน สว่างใสดั่งกระจกสั่นไหวขึ้นมาในยามนี้

ในขณะเดียวกัน เมล็ดพันธุ์แห่งคังชิงในตันเถียนเปิดทวารของเขาเองก็สั่นไหวเล็กน้อยราวตื่นเต้นยินดี และโหยหาบางสิ่ง

สีหน้าของซูอี้เปลี่ยนเป็นคลุมเครือ “วันจิงเจ๋อ*[1] ครานี้ แตกต่างจากแต่ก่อนจริงแท้…”

“สหายเต๋า มันเกิดอันใดขึ้นหรือ?”

เกิดเสียงดังมาจากไกล ๆ และหนิงซือฮวา อิงเชวีย หยวนเหิง เหวินหลิงเสวี่ย และพวกฉาจิ่นต่างมาหาเขาโดยพร้อมเพรียง

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการเปลี่ยนแปลงกะทันหันที่เหนือขึ้นไปบนฟ้าก็ทำให้พวกเขาตกใจเช่นกัน

“นี่คือโอกาสอันดี”

ซูอี้ยืนขึ้น เก็บเก้าอี้หวายพลางกวาดตามองไปไกลจากทุกคน กล่าวว่า “มันดีสำหรับพวกเจ้า และทุกชีวิตบนมหาทวีปคังชิงก็เช่นกัน”

“ไปกันเถิด ออกสู่โลกภายนอกกัน”

เขาใช้หนึ่งมือคว้าน้ำเต้า และก้าวฉับ ๆ ไปทางหอเซียนดาบ

แม้ว่าคนอื่น ๆ ต่างอับจนปัญญา แต่พวกเขาก็ก้าวตามซูอี้โดยไม่รู้ตน

ค่ำคืนนี้ถูกกำหนดให้เป็นคืนอันอลหม่าน

เวิ้งเก้าดารา

บนพฤกษาโบราณซึ่งดูไร้ขอบเขต สูงตระหง่านปกคลุมด้วยซากดาราแน่นขนัด หนึ่งในกิ่งก้านอันมโหฬารเยี่ยงขุนเขาพลันระเบิดเปรี้ยงแตกออก

แคร่ก!!

เสียงดังลั่นสั่นสะเทือนไปในสุญญะอันกว้างใหญ่

ยามนั้น โลกทั้งใบดูราวสั่นสะเทือนเลือนลั่น

“อาคัง แย่แล้ว! แย่แล้ว!”

นกกระจอกสีเทาตัวหนึ่งพุ่งเข้ามาตะโกนอย่างร้อนใจ “กิ่งต้นคังชิงแตก หรือนี่จะหมายความว่าต้นกำเนิดแห่งคังชิงจะถูกทำลาย? พังทลายโดยสมบูรณ์หรือไม่?”

“อย่าแตกตื่นเลย นี่คือสิ่งที่ถูกกำหนดให้เกิดมาแสนนาน”

เสียงอันเย็นชากังวานขึ้น และบนพฤกษาโบราณที่เต็มไปด้วยซากดารา เมฆหมอกสีเขียวก็ก่อตัวกันควบรวมเป็นเงาร่างของหญิงสาวผู้หนึ่ง

หญิงสาวสวมกระโปรงที่ดูราวเมฆหมอก ใบหน้างามของนางปรากฏท่ามกลางหมอกจาง ๆ เผยเท้าหยกเปลือยเปล่า

ยามเมื่อนางยืนขึ้น ร่างที่เหมือนวงล้อน้ำแข็งกลม ๆ ใส ๆ ก็ปรากฏขึ้นเบื้องหลังนาง

นั่นคือ ‘อาคัง’ จิตวิญญาณน้ำแข็งผู้เกิดขึ้นในที่นี้

“แต่การเคลื่อนไหวนี้ใหญ่เกินไปนะ!”

นกกระจอกสีเทาตะโกน ดูตื่นตัวอย่างยิ่ง

“เจ้าและข้าต่างคาดไว้แสนนานว่าต้นกำเนิดแห่งคังชินจะพังทลาย กลายเป็นพลังชีวิตแก่มหาวิถีไร้สิ้นสุด และป้อนกลับสู่มหาทวีปคังชิง ปลุกกระตุ้นแสงสว่างแห่งโลกกว้างขึ้นมา”

อาคังกระซิบ “แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงปัจจุบันจะเกินคาดหมาย ทว่าก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย แค่ว่ามันทำให้แสงสว่างแห่งโลกกว้างมาเยือนเร็วขึ้นเท่านั้น”

“เร็วขึ้น…”

นกกระจอกสีเทาอึ้งไป ก่อนจะกล่าวด้วยสีหน้ายากจะคาดเดา “จริงของเจ้า สันหลังของต้นกำเนิดแห่งคังชินพังทลายลงสิ้น แสงสว่างแห่งโลกกว้างจะไม่ปรากฏก่อนเวลาได้เช่นไร?”

“อย่างมากก็สามเตือน ต้นกำเนิดแห่งคังชินจะสลายไปโดยสมบูรณ์แน่ และทุกอำนาจที่มันครอบครองจะถูกป้อนกลับสู่มหาทวีปคังชิง”

อาคังกล่าว “และเราก็ควรเตรียมการจากที่นี่ไปก่อนเลย”

นกกระจอกสีเทาเงียบไปนาน จึงพึมพำว่า “หากข้ารู้เรื่องนี้ก่อน ข้าก็ไม่น่าให้เจ้าหนุ่มซูอี้นั่นนำเมล็ดพันธุ์แห่งคังชิงไปเลย!”

อาคังอดกล่าวขึ้นมาไม่ได้ “นกกระจอกน้อย อย่าโกรธเลย เราควรรู้สึกขอบคุณต่อสหายเต๋าซูด้วยซ้ำ”

เมื่อกล่าวจบ นางก็เงยหน้ามองมหาพฤกษาโบราณที่ปกคลุมด้วยซากดาราซึ่งบัดนี้แตกเป็นเสี่ยง กล่าวว่า “ยิ่งกว่านั้น ขอเพียงเมล็ดพันธุ์แห่งคังชิงยังคงอยู่ในภายหน้า มหาทวีปคังชิงนี้จะยังมีหวังยั่งยืนชั่วกาลได้…”

นอกเกาะเซียนพระสุเมรุ เหนือถ้ำอุกกาบาตอันใหญ่โตไร้ขอบเขตโนเวลกูดอทคฺอม

จู่ ๆ หมอกอัปมงคลก็รวมตัวบิดวน กลายเป็นดวงตาอันเย็นชาไร้อารมณ์คู่หนึ่ง

ดวงตาคู่นั้นค่อย ๆ มองลึกเข้าไปในท้องฟ้า

ไม่นานจากนั้น เสียงแหบแห้งอันเปี่ยมความตื่นเต้นก็ก้องออกมาจากลึกเข้าไปในหุบเหวซากดารา

“ต้นกำเนิดแห่งคังชินนี้ สุดท้ายก็รอดได้ไม่นาน!”

“ยามใดที่ข้าผู้นี้พ้นอุปสรรค ข้าจะบี้มดนั่นและชิงเมล็ดพันธุ์แห่งคังชิงคืนมา!”

ต้าเซี่ย นครหลวงจิ๋วติ่ง

ยอดเขาเทียนหมาง

จักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยในชุดคลุมผ้ามองขึ้นไปบนนภาราตรี สีหน้าของเขาไม่อาจสะกดกลั้นความตะลึงระคนกังวลเอาไว้ได้

“โลกาเปลี่ยนผัน สวรรค์เปลี่ยนแปร กระทั่งแสงสว่างแห่งโลกกว้างยังมาเร็วขึ้นอีก…”

จักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยพึมพำ

แต่เดิม เขาคาดเดาว่าแสงสว่างแห่งโลกกว้างจะมาในอีกราว ๆ ครึ่งปีถัดมา

ทว่า การเปลี่ยนแปลงกะทันหันซึ่งเกิดในคืนนี้ จู่ ๆ ก็เร่งเวลาไปด้านหน้า!

“ฝ่าบาท สิ่งที่ขาดหายจะเปลี่ยนแปร การเปลี่ยนแปรจะผันผ่าน สำหรับเรา การเปลี่ยนแปรคืนนี้ก็นับเป็นวาสนาได้นะพ่ะย่ะค่ะ”

เวิงจิ่วที่อยู่ข้างกายกล่าวเสียงต่ำ

จักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยพยักหน้าเงียบ ๆ แววตาฉายประกายเด็ดเดี่ยว ก่อนกล่าวว่า “ไปเปิดค่ายกลจิ๋วติ่งพิทักษ์แดน เสี่ยงวาสนาคืนนี้เลย!”

“พ่ะย่ะค่ะ!”

เวิงจิ่วรีบนำทาง

ณ แดนบรรพชนแห่งตระกูลหวนเผ่ามาร

คืนเดียวกันนั้น ชายชราผู้หนึ่งในชุดผ้ากระสอบยืนเท้าเปล่าบนพื้นด้วยแววตาสุดปรีดา เขามองขึ้นไปบนฟ้าและหัวเราะดังลั่น

“ฮ่า ๆๆ โชคใหญ่คืนนี้มากพอจะเพิ่มผู้อยู่ในขอบเขตวงล้อวิญญาณให้ตระกูลเราได้อีกสองสามคนเชียว!!”

เสียงของเขาสะท้านไปทั่วท้องฟ้ารัตติกาลจนเกิดเสียงครืนแผ่ออก

ยอดฝีมือจากตระกูลหวนซึ่งตื่นตัวกันอยู่นานต่างแสดงความตื่นเต้น

สัญญาณของการฟื้นตัวของฟ้าดินเกิดขึ้นหลายเดือนแล้ว ทำให้มหาทวีปคังชิงเปลี่ยนแปลงมากมาย ต่างจากในอดีตมากโข

ทว่าการเปลี่ยนแปลงในคืนนี้น่าอัศจรรย์ที่สุดโดยไม่ต้องสงสัย!

เหนือนภาดูจะมีคลื่นมหาวิถีระเบิดพวยพุ่งลงมา แข็งแกร่งและอลหม่าน!

อย่าว่าแต่ผู้ฝึกตนในวิถีวิญญาณเลย กระทั่งผู้ฝึกตนในขอบเขตไร้เบญจธัญยังสัมผัสได้ชัดเจนถึงปราณอันเข้มข้นที่ผุดออกมาจากลึก ๆ ในท้องนภามืดมิด!

“เร็วเข้า เตรียมค่ายกลใหญ่ รวบรวมพลังที่มาแห่งวิถี!”

ชายชราเปลือยเท้าในชุดผ้ากระสอบตะโกน

ภาพที่คล้ายคลึงกันดังกล่าวเกิดขึ้นในหมู่ขุมอำนาจโบราณต่าง ๆ ในมหาทวีปคังชิงเช่นกัน

เช่นสำนักวิถีสุญญะ โถงวิญญาณหยินทมิฬและสำนักผลาญตะวันเป็นต้น

ขุมอำนาจโบราณอายุขั้นต่ำสามหมื่นปีเหล่านี้เคยเป็นขุมอำนาจสูงสุดในมหาทวีปคังชิงมาก่อน แม้พวกเขาจะถูกปราบลงโดยการจองจำแห่งยุคมืดเป็นเวลาสามหมื่นปี จนอำนาจโดยรวมของพวกเขายากเปรียบเทียบกับแต่เก่าก่อน ทว่าพวกเขายังคงมีรากฐาน!

ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นคืนนี้ ทำให้เหล่าขุมอำนาจโบราณเหล่านี้ประพฤติตนราวฉลามได้กลิ่นโลหิต

เฉกเช่นกัน โลกนี้มีขุมอำนาจจากต่างโลกอยู่มากมาย พวกเขาต่างออกมาเคลื่อนไหวในคืนนี้เพื่อแย่งชิงวาสนาใหญ่ซึ่งดูราวฟ้าประทานนี้กันทั้งสิ้น!

“อาจารย์ ท่านมองอันใดอยู่?”

ในโลกลี้ลับแห่งหนึ่ง ฉือเจี่ยนซู่มองไปที่ชายชราตาบอดอย่างเคลือบแคลง

“สวรรค์แปรเปลี่ยน… ไม่ถึงสามเดือน แสงสว่างแห่งโลกกว้างจะมาถึงเป็นแน่ แต่ในขณะเดียวกัน ความวุ่นวายและหายนะที่ไม่เคยเกิดมาก่อนจะกวาดผ่านโลกา…”

ชายชราตาบอดพึมพำ สีหน้าของเขาดูไม่แน่ใจ “สาวน้อย ช่วยข้าจับตามองข่าวช่วงนี้ของคุณชายซูที”

“ซูอี้?” ฉือเจี่ยนซู่ตกใจ “อาจารย์ นี่เกี่ยวพันอันใดหรือ?”

ชายชราตาบอดส่ายหน้ากล่าว “แม้แต่ข้ายังไม่อาจเข้าใจ บอกเจ้าไปก็เท่านั้น มีเพียงเทพเซียนเยี่ยงคุณชายซูเท่านั้นจะเข้าใจปริศนาเช่นนี้”

ฉือเจี่ยนซู่ “…”

อาจารย์ของนางดีทุกอย่าง แต่ขอเพียงกล่าวถึงซูอี้ เขาจะกลายเป็นราวคนคลั่งศาสนา ทั้งกิริยาวาจาต่างเปี่ยมด้วยความเลื่อมใสแทบคลั่งไคล้หน้ามืดตามัว สิ่งนี้ทำให้ฉือเจี่ยนซู่สงสัยอยู่เสมอ ไม่ว่าซูอี้จะร้ายกาจเพียงไร แต่เขาก็ยังคงเป็นชายหนุ่มผู้อ่อนเยาว์ เหตุใดอาจารย์จึงเคารพเขานัก?

“บัดซบเอ๊ย การเปลี่ยนแปลงนี้มาไวไปแล้ว!”

บนชายฝั่งทะเลบูรพาแห่งต้าฉิน นักพรตเฒ่าในชุดโสโครกร่างสั่นเทิ้มทั้งกายด้วยสีหน้ามืดหม่น

“ไม่ได้แล้ว ข้าไม่อาจลังเลได้อีก ต้องไปพบเจ้าคนแซ่ซูให้เร็วที่สุด! หาไม่ หากข้าพลาดแสงสว่างแห่งโลกกว้างครานี้ไป ข้าจะจบสิ้นโดยแท้จริง!!”

เนิ่นนานจากนั้น นักพรตเฒ่าก็กัดฟันขยับขา เร่งเดินทางสู่ทะเลวิญญาณโกลาหลไกลออกไป

………………..

[1] วันจิงเจ๋อ หรือ 惊蛰之日 คือวันตื่นของแมลงจำศีล มักจะเกิดในช่วง 5 มีนาคมถึง 20 มีนาคม

Facebook Twitter Telegram Pinterest
บันทึกตำนานราชันอหังการ

บันทึกตำนานราชันอหังการ

First Immortal of The Sword, Fis, Jiandao di yi xian, Supreme sword god (donghua), 剑道第一仙
Score 8.8
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังเลือนลั่นฟ้า การจากไปของผู้ยิ่งใหญ่นำมาซึ่งความโกลาหนทั่วเก้ามหาแดนดิน เหล่าคนละโมบต่างคิดหมายแย่งชิงสิ่งวิเศษที่ผู้เป็นยอดปรมาจารย์เคยปกครองยุคสมัยครอบครอง ทว่านั่นหาใช่จุดจบ แต่มันคือจุดเริ่มต้น! แท้จริงแล้วภายในโลงสัมฤทธิ์ มันว่างเปล่า! ไร้ศพ ไร้คน และไร้ซึ่งดาบเก้าคุมขัง!!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset