📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี บันทึกตำนานราชันอหังการ – ตอนที่ 595

บทที่ 595 - ก่อเรื่องแล้วจากไปเงียบ ๆ
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

เหนือศาลา

บังเกิดคลื่นกระเพื่อมแห่งพลังพิสดาร สร้างเป็นบุปผาน้ำแข็งประหลาดสีขาวหิมะเช่นหนึ่งดอก กระจ่างใสแวววาวท่ามกลางค่ำคืนดำเยี่ยงหมึก

หากมองใกล้ ๆ จะพบว่าบุปผาน้ำแข็งนี้ถูกรายล้อมด้วยระลอกคลื่นหมอก มวลอากาศรอบข้างบิดม้วนปั่นป่วน

ชายชราตาบอดสีหน้าเปลี่ยน “ตราลับประทับมิติ!”

เพิ่งสิ้นคำ เขาก็เห็นซูอี้ยกดาบในมือขึ้นฟาดฟันผ่านนภา

ฉัวะ!

ปราณดาบซึ่งบรรจุกลิ่นอายของดาบเก้าคุมขังพลิ้วผ่านนภาราวสายฟ้าฟาด

เกิดเสียงกัมปนาท และบุปผาน้ำแข็งก็ระเบิดราวกับทำจากแก้ว เปลี่ยนเป็นละอองแสงโปรยปราย

แทบจะในยามเดียวกัน ลึกเข้าไปในท้องนภา ดูเหมือนจะมีเสียงครืนเบา ๆ แว่วออกมา

ซูอี้เมินสิ่งเหล่านี้ เขาพุ่งไปทางห้องของเยว่ซือฉาน

แต่เดิม ชายชราตาบอดตั้งใจติดตาม ทว่าหลังลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ละทิ้งความคิด

“ผู้อาวุโส สิ่งใดคือตราลับประทับมิติ?”

ฉือเจี่ยนซู่อดถามไม่ได้

“มันคือตราประทับที่ควบแน่นจากพลังแห่งมิติ มีเพียงผู้อยู่ในขอบเขตจักรพรรดิเท่านั้นที่บรรลุและใช้มันได้”

สีหน้าของเฒ่าบอดดูไม่แน่ใจ “กล่าวโดยรวมแล้ว เมื่อตราลับประทับมิติปรากฏก็เหมือนเป็นประตูมิติ แม้จะเป็นผู้อยู่ในขอบเขตจักรพรรดิของโลกอื่น อีกฝ่ายก็จะสามารถใช้วิชาลับ ‘ตราลับประทับมิติ’ นี้เปิดช่องมิติระหว่างสองโลกได้”

ฉือเจี่ยนซู่สูดหายใจเฮือก พลางกล่าวว่า “แปลว่าเมื่อครู่นี้ มีบุคคลในขอบเขตจักรพรรดิพยายามเปิดประตูมิติมายังที่นี่หรือ?”

ชายชราตาบอดส่ายหน้าตอบ “พลังของบุคคลระดับจักรพรรดิผู้นี้น่ากลัวเกินไป ไม่ใช่สิ่งที่ประตูมิติจะทนรับได้ ในความคิดข้าตราลับประทับมิติของบุคคลนี้น่าจะเป็นการเปิดเส้นทางเพื่อรับและชี้นำบางสิ่ง”

“เส้นทางเพื่อรับและชี้นำบางสิ่ง?”

ฉือเจี่ยนซู่ฉงนใจ

“ถูกต้อง”

เบ้าตาว่างเปล่าของชายชราตาบอดจับจ้องศาลาที่พำนักของเยว่ซือฉาน “ในโลกแห่งหนึ่งซึ่งไม่ใช่โลกของมหาทวีปคังชิง มีผู้ใดสักผู้สัมผัสกลิ่นอายของผู้ที่อยู่ในศาลานั้นได้ จึงพยายามสร้างประตูมิติเพื่อชี้นำผู้ที่อยู่ในศาลานั้นจากไป”

ฉือเจี่ยนซู่ตกใจ

แม้ว่านางจะเป็นผู้แข็งแกร่งจากยุคโบราณ แต่น้อยครั้งที่นางจะได้ประสบความลับเช่นนี้ นางจะคิดได้เช่นไรว่าปรากฏการณ์สุดยอดเมื่อครู่จะเกี่ยวพันกับวิชา ‘ตราลับประทับมิติ’?

ขณะเดียวกัน

ในศาลา

เยว่ซือฉานมองซูอี้ผู้บุกเข้ามาในห้องของนางอย่างตกใจ กล่าวว่า “ศิษย์พี่ซู เกิดอันใดขึ้นหรือ?”

หญิงสาวงดงามราวภาพวาด ล้ำเลิศราวนางสวรรค์ ยามนางเอื้อนเอ่ยวาจา นางก็ลุกขึ้นจากการทำสมาธิโดยไม่รู้ตัว

ซูอี้ถาม “ยามเจ้าทำสมาธิก่อนหน้านี้ ไม่ได้สังเกตเห็นสิ่งใดผิดปกติเลยหรือ?”

เยว่ซือฉานครุ่นคิดครู่หนึ่ง จึงตอบว่า “ยามที่ข้าทำสมาธิก่อนหน้านี้ ข้าสัมผัสได้เพียงสัญญาณการเลื่อนขอบเขต นอกจากนั้นก็ไม่มีสิ่งใดผิดปกติเลย”

ซูอี้อดมองเยว่ซือฉานขึ้นลงรอบหนึ่งอย่างจริงจังไม่ได้

ในยามก่อนเมื่อนางอยู่บนเกาะเซียนพระสุเมรุ ระดับการฝึกฝนของนางยังอยู่เพียงแค่ขอบเขตรวบรวมดาราขั้นสมบูรณ์แบบ และนางก็มีรากฐานพร้อมสรรพสำหรับการเข้าสู่วิถีวิญญาณนับแต่นั้น!

แค่ว่า ‘ตราลับประทับมิติ’ ที่เขาเห็นเมื่อครู่ทำให้ซูอี้งุนงงเล็กน้อย

กล่าวโดยหลักเหตุผล เขาเคยรักษาเยว่ซือฉานด้วยตนเองอยู่ระยะหนึ่ง และรู้ทุกสิ่งเกี่ยวกับหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า

หากสตรีผู้นี้มีพลังพิสดารอันใด เขาคงค้นพบมันนานแล้ว

ทว่ายามนี้กลับมี ‘ตราลับประทับมิติ’ มุ่งเป้ามายังเยว่ซือฉาน ซึ่งผิดปกติมาก

“ศิษย์พี่ซู เกิดอันใดขึ้นหรือ?”

เยว่ซือฉานกล่าวเสียงต่ำ นางไม่สบายใจกับสายตาของซูอี้เล็กน้อย

“ก่อนหน้านี้เกิดตราลับประทับมิติขึ้น”

ซูอี้ครุ่นคิดนิดหน่อย และกล่าวถึงภาพที่เคยเกิดขึ้น “ข้าสงสัยว่าผู้ใช้ตราลับประทับมิตินั้นมาเพื่อเจ้าโดยเฉพาะ”

เยว่ซือฉานดูเคลือบแคลง จากนั้นนางก็ขมวดคิ้ว “ตราลับประทับมิติซึ่งดูเหมือนบุปผาน้ำแข็งปรากฏที่นี่? ไม่ใช่ว่า…”

ซูอี้เลิกคิ้วถาม “เจ้าคาดเดาสิ่งใดได้หรือ?”

เยว่ซือฉานเงียบไปครู่หนึ่ง จึงตอบว่า “ไม่โกหกต่อศิษย์พี่ซู ข้าไร้พ่อแม่นับแต่เด็ก จึงถูกแม่เลี้ยงดูแลมา นางสอนวิถียุทธ์แก่ข้า สอนให้ข้าฝึกดาบ ยามข้าอายุเจ็ดปี แม่เลี้ยงได้ตายไปด้วยโรคร้าย ข้าไม่ได้ตระหนักเลยว่ามีความลึกลับบางอย่างอยู่ในวิญญาณจนกระทั่งฝึกวิถียุทธ์จนถึงขอบเขตไร้แพร่งพราย”

“ปรากฏว่ามันซ่อนอยู่ในวิญญาณ”

จู่ ๆ ซูอี้ก็หันมาถาม “ขอข้าดูได้หรือไม่”

เยว่ซือฉานพยักหน้า “ได้”

ทันใดนั้น จิตสัมผัสของซูอี้ก็แผ่ออกมา แทรกซึมสู่ห้วงความนึกคิดของเยว่ซือฉานราวกลุ่มเส้นหนวด

เยว่ซือฉานดูราวถูกไฟดูด ร่างบอบบางของนางสั่นเล็กน้อย ทั่วร่างรู้สึกอึดอัด

เพราะถึงอย่างไร ห้วงความนึกคิดนั้นเป็นของส่วนตัวและเปราะบางเกินไป หากไม่เชื่อใจ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดก็คงเป็นไปไม่ได้ในการเข้าสู่ห้วงความนึกคิดของผู้อื่น

และเมื่อจิตสัมผัสของซูอี้แทรกเข้าไป วิญญาณของเยว่ซือฉานก็เกิดความรู้สึกประหลาดอันน่าอัศจรรย์ซึ่งเกินพรรณนาอย่างยิ่ง วิญญาณทั้งสองสัมผัสราวมัจฉาพึ่งวารี สนิทสนมยากแยกจาก

การสั่นไหวจากวิญญาณนั้นทำให้นัยน์ตากระจ่างของเยว่ซือฉานเหม่อลอย ร่างอรชรอ้อนแอ้นดูราวถูกไฟช็อตจนชาหมดเรี่ยวแรง รู้สึกแปลกเกินบรรยาย

ครู่หนึ่งจากนั้น ซูอี้ก็เก็บจิตสัมผัสของเขา

จู่ ๆ เยว่ซือฉานก็ถอนหายใจโล่งอกยาวเหยียด ทว่าความรู้สึกโหวงเหวงบอกไม่ถูกกลับเพิ่มพูนขึ้นในใจ

สิ่งนี้ทำให้หญิงสาวเขินอายเล็กน้อย ใบหน้าจิ้มลิ้มละเอียดอ่อนของนางร้อนดั่งเพลิงโลมเลีย และขึ้นสีแดงเรื่อ

“ความรู้สึกนี้… น่าอายจริง ๆ…”

เยว่ซือฉานดูขวยเขิน

“ว่าแล้วเชียว ตราลับประทับมิตินี้มาเพื่อเจ้า”

แววตาของซูอี้ต่างออกไป

ก่อนหน้านี้ เมื่อจิตสัมผัสของเขาเข้าสู่ห้วงความนึกคิดของเยว่ซือฉาน เขาก็พบตราประทับลึกลับนั่นทันที

ตราประทับนั้นกระจ่างใสราวหิมะน้ำแข็ง รูปร่างคล้ายดอกผีเสื้อเบ่งบาน ให้บรรยากาศลึกลับโบราณโนเวลกูดอทคอม

นี่คือวิชาลับ ‘ตราลับประทับวิญญาณ’

มีเพียงผู้อยู่ในขอบเขตจักรพรรดิเท่านั้นที่สร้างตราลับเยี่ยงนี้ได้ เพราะมันจำเป็นต้องมีเสี้ยวเจตจำนงซึ่งเป็นของบุคคลในขอบเขตจักรพรรดิอยู่ด้วย!

และหากซูอี้เดาถูก คงจะมีบุคคลในขอบเขตจักรพรรดิผู้ทิ้งตราลับประทับวิญญาณนี้ไว้ในห้วงความนึกคิดของเยว่ซือฉานนับแต่นางยังเล็ก

และตราลับประทับวิญญาณนี้เองที่เป็นสิ่งดึงดูด ‘ตราลับประทับมิติ’!

“มาหาข้า?”

เยว่ซือฉานงุนงง

ซูอี้กล่าว “ใช่ น่าจะเป็นเจ้าของตราลับประทับวิญญาณในวิญญาณของเจ้าเมื่อครั้งอดีตที่ใช้ตราลับประทับมิติเปิดประตูมิติมารับเจ้าไปจากที่นี่”

นัยน์ตาประกายดาวของเยว่ซือฉานเบิกกว้าง “มารับข้า?”

ซูอี้กล่าว “เจ้าไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนหรือ?”

เยว่ซือฉานพยักหน้า

ซูอี้รีบบอกทุกสิ่งที่รู้แก่เยว่ซือฉาน

ตัวอย่างเช่น เจ้าของตราลับประทับวิญญาณนี้คือบุคคลในขอบเขตจักรพรรดิ ผลวิเศษของตราลับประทับมิติและอื่น ๆ

หลังได้ยินเช่นนี้ เยว่ซือฉานก็อดตะลึงไม่ได้ ใบหน้างดงามของนางเต็มไปด้วยความงุนงง

“แน่ใจได้ว่าประสบการณ์ชีวิตของเจ้าถูกกำหนดให้ยากลำบาก และผู้อยู่ในขอบเขตจักรพรรดิที่อยากนำเจ้าไปที่อื่นนั้นเป็นไปได้มากว่าจะเป็นญาติผู้ใหญ่ของเจ้า”

ซูอี้ครุ่นคิด “และคนผู้นี้ก็พยายามใช้ตราลับประทับมิติเปิดประตูมิติขึ้นในคืนนี้ เพียงการกระทำก็พิสูจน์ได้ว่าเขาไม่ได้อยู่ในมหาทวีปคังชิง หาไม่ เขาคงไม่จำเป็นต้องทำเช่นที่ว่า”

“เพราะถึงอย่างไร เขาก็เป็นผู้อยู่ในขอบเขตจักรพรรดิ การใช้ตราลับประทับมิติเปิดประตู ไม่เพียงต้องสิ้นเปลืองพลังมากมาย แต่ยังต้องรับความเสี่ยงมหาศาลด้วย”

การเปิดประตูมิตินั้นแสนง่าย ผู้อยู่ในขอบเขตจักรพรรดิคนใดก็ทำได้

ทว่าความเสี่ยงจากการทำเช่นนั้นมีมากมาย

เพราะถึงอย่างไร การเปิดประตูมิติข้ามโลกนั้นเป็นไปได้สูงมากที่จะพบพานหายนะเกินคาดเดา เช่นพายุสุญญะ พิรุณสิ้นกาลและอื่น ๆ

เมื่อเปิดประตูมิติออกแล้วโชคร้ายพบพานอำนาจเช่นนี้ ต่อให้แข็งแกร่งเยี่ยงผู้อยู่ในขอบเขตจักรพรรดิก็ยังบาดเจ็บสาหัส หรือกระทั่งถูกฆ่า!

“อย่างนั้นหรือ… ตลอดหลายปีมานี้ ข้าคิดว่าข้าไร้ญาติมาแสนนาน…”

เยว่ซือฉานดูมีสีหน้าสับสน

สิ่งที่ซูอี้กล่าวส่งผลกระทบรุนแรงต่อจิตใจของนาง

“อย่าเศร้าใจเพราะมันเลย”

ซูอี้ยิ้ม “ข้าคิดว่าเจ้าควรดีใจนะ อย่างน้อยเจ้าก็รู้แล้วว่ามีความลับซุกซ่อนอยู่ในชีวิตของเจ้า ไม่ช้าก็เร็ว เจ้าจะได้รับคำตอบ”

หลังจากชะงักไปนิดหน่อย เขาก็กล่าวต่อ “แม้ว่าข้าจะขัดจังหวะการลงมือของอีกฝ่ายในคืนนี้ แต่นั่นเพราะเหตุการณ์เกิดกะทันหันนัก เพื่อความปลอดภัยของเจ้า ข้าจึงจำต้องหยุดมันให้เร็วที่สุด”

เยว่ซือฉานพยักหน้า ใบหน้าขาวงดงามอ่อนโยนลง จากนั้นจึงกล่าวคำออก “ข้าเข้าใจแล้ว”

ซูอี้ยิ้มและกล่าวว่า “ทำนายได้ว่าไม่นานหรอก อีกฝ่ายจะมาหาเจ้าอีกครั้ง ยามนั้น หากเจ้าแน่ใจว่าอีกฝ่ายไม่ประสงค์ร้าย เจ้าจะจากไปกับมันก็ย่อมได้”

“จากไป?”

หัวใจของเยว่ซือฉานบีบแน่น

หากนางจากไป ก็เท่ากับออกจากมหาทวีปคังชิง!

นางไม่เคยคิดถึงเรื่องเยี่ยงนี้มาก่อน

ซูอี้กล่าวเบา ๆ “แน่นอน หากเจ้าไม่ต้องการ ข้าก็จะไม่ให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้น สั้น ๆ ก็คือ ทุกสิ่งขึ้นกับใจเจ้า”

เยว่ซือฉานส่งเสียงในลำคอ

ซูอี้เห็นได้ว่าสตรีผู้นี้กำลังอยู่ในภวังค์ ดูจะยากสำหรับนางในการประมวลความตกใจต่อข่าวเหล่านี้ชั่วขณะ สิ่งที่นางต้องทำในยามนี้ก็คือสงบจิตตนลง

“นี่ก็ดึกแล้ว เจ้าพักก่อนเถิด หากมีสิ่งใดก็มาหาข้าได้ ไม่ต้องเขินอาย”

ซูอี้กล่าว

“ตกลง”

เยว่ซือฉานพยักหน้า

ซูอี้หันหลังจากไป

เมื่อกลับมาสู่สวนน้อย เฒ่าบอดและฉือเจี่ยนซู่ยังคงรอคอยอยู่ที่เดิม

“คุณชายซู ต้องการความช่วยเหลือหรือไม่?”

ชายชราตาบอดรีบถาม

“ไม่ต้อง”

ซูอี้กล่าว “เจ้าวางแผนใดไว้ต่อจากนี้?”

ฉือเจี่ยนซู่มองชายชราตาบอดอย่างคาดหวัง และกล่าวว่า “หากเป็นไปได้ ข้าหวังว่าผู้อาวุโสจะไปยังตำหนักบรรพชนกับข้า ทว่าข้าไม่รู้ว่าผู้อาวุโสจะเต็มใจหรือไม่”

ชายชราตาบอดอารมณ์ดี จากนั้นจึงกล่าวขึ้นว่า “แน่นอน ข้าเต็มใจ!”

ซูอี้หัวเราะ เขาจะไม่เห็นได้อย่างไรว่าทัศนคติของฉือเจี่ยนซู่ต่อชายชราตาบอดเปลี่ยนไปแล้ว?

ต่อมา หลังจากพูดคุยกันสักพัก ชายชราตาบอดและฉือเจี่ยนซู่ก็กล่าวขอตัวลา

ซูอี้กลับห้องของเขา

วันนี้มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย

ทว่าเรื่องเหล่านี้จะไม่มีผลใดต่อกิจวัตรฝึกฝนและกฎเกณฑ์ในชีวิตของซูอี้

เหมือนเช่นเคย หลังกลับเข้าห้อง เขาก็เริ่มทำสมาธิฝึกฝน

วิถีฝึกฝนนี้สั่งสมมาตามกาล นานแสนนาน

ต้องใช้ความเพียรอย่างมากในการทำสิ่งที่น่าเบื่อนี้ซ้ำ ๆ

การฝึกฝนก็เช่นกัน

ทว่า ในสายตาของซูอี้ ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้เทียบได้กับการฝึกฝน ดังนั้นมันจึงไม่เคยให้ความรู้สึกน่าเบื่อ

เช้ารุ่งขึ้นสว่างกระจ่างใส

ซูอี้และคณะเก็บข้าวของ ออกจากสวนน้อยนภาเมฆซึ่งพำนักอยู่เดือนกว่า เดินทางออกจากนครหลวงจิ๋วติ่งไปตามทางกลับสู่ต้าโจว

นี่คือวันที่สามเดือนสิบเอ็ด

เมื่อคิดถึงประสบการณ์นี้ในนครหลวงจิ๋วติ่งขึ้นมา ซูอี้ก็กล่าวคำหนึ่งในใจอย่างอดไม่ได้

ก่อเรื่องแล้วจากไปเงียบ ๆ!

สนุกดีเหมือนกัน

Facebook Twitter Telegram Pinterest
บันทึกตำนานราชันอหังการ

บันทึกตำนานราชันอหังการ

First Immortal of The Sword, Fis, Jiandao di yi xian, Supreme sword god (donghua), 剑道第一仙
Score 8.8
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังเลือนลั่นฟ้า การจากไปของผู้ยิ่งใหญ่นำมาซึ่งความโกลาหนทั่วเก้ามหาแดนดิน เหล่าคนละโมบต่างคิดหมายแย่งชิงสิ่งวิเศษที่ผู้เป็นยอดปรมาจารย์เคยปกครองยุคสมัยครอบครอง ทว่านั่นหาใช่จุดจบ แต่มันคือจุดเริ่มต้น! แท้จริงแล้วภายในโลงสัมฤทธิ์ มันว่างเปล่า! ไร้ศพ ไร้คน และไร้ซึ่งดาบเก้าคุมขัง!!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset