“พี่ฉู่เชิ่ง พี่ฉู่เชิ่ง”
เสียงของชิวชิงหลีดังขึ้นอีกครา ยามอยู่ต่อหน้าผู้อื่นนางมักทำตัวเย็นชาเข้าถึงยาก แต่ยามอยู่ต่อหน้าชายผู้นี้ นางมีนิสัยไม่ต่างจากสาวน้อย
จิตใจของฉู่เชิ่งสงบลง เขาเกิดความคิดหลายอย่าง
ขณะสะกดโทสะทั้งหลายที่อยู่ในใจ ฉู่เชิ่งเงยหน้าขึ้นมองสาวงาม เขาเผยสายตารู้สึกผิดออกมา “ข้าขอโทษชิงหลีด้วย ข้ารู้ว่าเจ้าทำทั้งหมดเพื่อข้า ข้าไม่โกรธเจ้าหรอก เพียงแค่โกรธตัวเองเท่านั้น ทั้งหมดมันเป็นเพราะข้า!”
“หากข้าแข็งแกร่งพอ เจ้าคงไม่ต้องโดนดูถูกแบบนี้!”
“ชิงหลี เจ้ารอข้าก่อน หลังจากการแข่งขันภายในครั้งนี้สิ้นสุดลง ข้าจะออกไปฝึกฝน สามปีให้หลัง ข้าจะสู้กับลู่หยวนตัวต่อตัว! เพื่อคืนความอัปยศในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาให้กับเจ้า!”
ฉู่เชิ่งเปี่ยมด้วยความขุ่นเคือง ราวกับอยากสู้รบกับบุตรศักดิ์สิทธิ์จนตัวตาย!
ชิวชิงหลีห้ามปรามอีกฝ่ายด้วยคำพูดทันที “พี่ฉู่เชิ่ง ภูมิหลังตระกูลของลู่หยวนค่อนข้างทรงอำนาจ ทั้งบิดามารดาของเขาต่างเป็นคนมีชื่อเสียงในแผ่นดินหลัก แม้กระทั่งคุณหนูตระกูลชิวเช่นข้า หากไม่ถึงคราวจวนตัวขึ้นมา ย่อมไม่มีวันเป็นศัตรูกับเขา”
“หากพี่ฉู่เชิ่งฆ่าเขา เกรงว่าภายภาคหน้าจะถูกตามล่าไร้ที่สิ้นสุด! ยิ่งในช่วงสองสามวันมานี้ ลู่หยวนไม่ได้ทำอะไรข้าเลย”
ฉู่เชิ่งเผยแววตาเย้ยหยันออกมา
หึ! นางผู้หญิงคนนี้ ถึงกับพูดแก้ต่างแทนมัน บอกว่าไม่ได้ทำอะไร
อย่าคิดว่าข้าไม่รู้! ตระกูลชิวของเจ้าคือตระกูลวิถีคุณธรรม ทั่วทั้งแผ่นดินหลัก ไม่มีใครไม่กล้าไว้หน้าเจ้าหรอก
อีกฝ่ายก็แค่ลู่หยวน เจ้าไม่กล้าฆ่าเขาจริงหรือ?!
ก่อนหน้านี้มีศิษย์ของบรรพชนเสวียนผู้หนึ่งมาจากตระกูลใหญ่โต เขาเพียงเหลือบมองเจ้า แล้วเอาไปพูดคุยลับหลัง แค่นั้นเจ้าก็ปาดคอเขาด้วยกระบี่ไม่ใช่หรือ?!
ตระกูลเขาทำได้เพียงนำร่างของอีกฝ่ายกลับไปด้วยความสิ้นหวัง พวกเขาไม่กล้าสร้างปัญหากับเจ้าแม้แต่น้อย!
ลู่หยวนผู้นี้ทำตัวอวดดียิ่งกว่าคนก่อนหน้าเสียอีก แต่เจ้ากลับไม่คิดทำอะไรเขา!
ตระกูลอะไรกัน บิดามารดาอะไรกัน เรื่องโกหกทั้งนั้น!
ฉู่เชิ่งสะกดความคิดเอาไว้ในใจ ก่อนแสร้งทำเป็นหงุดหงิด “ข้าคิดว่าตัวเองพยายามมากแล้ว หลังจากได้รับวาสนาในครั้งนี้ ข้าจะสามารถเคียงบ่าเคียงไหล่กับเจ้าได้ แต่ว่า…”
“พี่ฉู่เชิ่งอย่าเพิ่งท้อแท้ ผู้อื่นแค่มีวาสนาตระกูลดีกว่าก็เท่านั้น การที่ทุกคนมีเส้นทางเจิดจ้าในยามนี้ ล้วนเป็นผลจากพรของบรรพบุรุษทั้งสิ้น”
“พี่ฉู่เชิ่งพยายามอย่างหนักสม่ำเสมอ บนแผ่นดินหยวนหงในภายภาคหน้า เจ้าจะต้องมีชื่อเสียงโด่งดังอย่างแน่นอน!”
สิ้นคำ ชิวชิงหลีก็หยิบตำราโบราณออกมา ก่อนส่งให้เขา “พี่ฉู่เชิ่ง ครั้งนี้ข้าไหว้วานคนให้ไปเลือกตำราฝึกฝนเล่มนี้มาให้โดยเฉพาะ”
“นี่คือบันทึกเก้าดาบแปดแดนร้าง มันบันทึกเคล็ดวิชาที่สืบทอดโดยเซียนดาบที่ยิ่งใหญ่ หากพี่ฉู่เชิ่งสามารถทำความเข้าใจมันได้ เจ้าอาจจะสามารถพัฒนาพลังวิถีของตนเองได้!”
ในใจของผู้ฟังเปี่ยมด้วยความสุข การที่เขาพูดไปมากขนาดนั้น ก็เพื่อหวังว่านางจะมอบความช่วยเหลือบางอย่างให้!
ฉู่เชิ่งแสร้งทำเป็นไม่ต้องการ ก่อนผลักตำราโบราณออกไป “ชิงหลี เจ้ารู้จักข้าดี ข้า…”
ยังไม่ทันสิ้นคำ นางก็ยกมือขึ้นสัมผัสริมฝีปากของเขาอย่างอ่อนโยน ก่อนยัดตำราโบราณให้กับมือ
“พี่ฉู่เชิ่งอย่าปฏิเสธเลย สิ่งที่ชิงหลีมอบให้ก่อนหน้านี้เจ้าก็ไม่ยอมรับไว้ แต่คราวนี้เจ้าต้องรับ!”
“หากภายภาคหน้ามีตำราโบราณเล่มไหนที่เหมาะกับข้า รบกวนพี่ฉู่เชิ่งคัดลอกให้ข้าด้วย ตกลงตามนี้นะ”
ฉู่เชิ่งทราบดีว่าได้จังหวะที่ต้องถอยแล้ว เขาจึงถอนหายใจก่อนจะรับของไว้ “ชิงหลี ข้าจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวัง!”
สิ้นคำ ฉู่เชิ่งดึงหญิงสาวเข้ามาอยู่ในอ้อมแขน ดวงตาของเขามืดมนลง
ยามนี้ ท่านหู่ผู้อยู่ในจิตเทวะของเขาก็ตกอยู่ในความเงียบงัน
ด้วยเหตุผลบางอย่าง ท่านหู่พลันสัมผัสได้ว่าเจ้าของร่างมีท่าทีเปลี่ยนไป เขาเปลี่ยนไปมาก จนไม่สามารถมองเห็นสถานการณ์ได้แจ่มชัดราวกับดวงตามืดบอด
ถึงแม้ว่าทุกสิ่งที่ฉู่เชิ่งทำจะเป็นไปตามการชี้นำของเขา อีกทั้งสิ่งที่ทำยังเป็นประโยชน์ต่อสถานการณ์ยามนี้ เพียงแต่ท่านหู่ไม่คาดคิดว่าฉู่เชิ่งจะยอมทำตามอย่างว่าง่ายทุกอย่าง
ผ่านไปหลายอึดใจ ท่านหู่สะกดความสงสัยของตนเองเอาไว้ เด็กคนนี้อาจจะแค่เศร้าเพราะอกหัก
สามวันต่อมา การแข่งขันภายในดำเนินไปอย่างราบรื่น เพียงแต่ลู่หยวนไม่ปรากฏกาย
แม้เขาจะไม่มา แต่ผู้คนที่ต้องเจอกับเขาต่างยอมแพ้
การแข่งขันภายในกินเวลาครึ่งเดือน ในการต่อสู้รอบสุดท้าย บุตรศักดิ์สิทธิ์เผชิญหน้ากับชิวชิงหลี เพียงแต่นางก็เป็นฝ่ายยอมแพ้เช่นกัน
ลู่หยวนคือดาวเด่นของการแข่งขันภายใน บัดนี้เขามาถึงอันดับหนึ่งบนทำเนียบสวรรค์!
หลังการแข่งขันภายในได้รับการจัดอันดับเรียบร้อย ศิษย์ทั้งหลายต่างเข้ามารุมล้อมเขา
“บุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ เขาเป็นศิษย์อายุน้อยที่สุด และมีรากฐานการบ่มเพาะต่ำที่สุดที่สามารถติดอันดับหนึ่งบนทำเนียบสวรรค์ได้”
“แม้กระทั่งศิษย์พี่ชิวชิงหลียังยอมแพ้ในรอบสุดท้าย นั่นแสดงให้ทุกคนเห็นว่านางยำเกรงในพลังของเขา! โชคยังดีที่ข้าไม่ได้เจอกับบุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่ หาไม่แล้วข้าคงไม่สามารถก้าวเข้าสู่การจัดอันดับได้!” nᴏveʟɢu.ᴄᴏᴍ
“เหอะ แต่ข้าดันเจอกับบุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่ ทำให้ตกจากทำเนียบปฐพีมาเป็นทำเนียบมนุษย์ ซวยจริง ๆ”
“ข้าได้ยินมาว่าสิบอันดับแรกในครั้งนี้จะได้เข้าสู่ราชวังจักรพรรดิแดนมัชฌิมใช่หรือไม่?”
“ถูกต้อง สิบอันดับในครั้งนี้ ไม่เพียงแค่มีบุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่กับชิวชิงหลีเท่านั้น แต่รวมถึงฉู่เชิ่งด้วย!”
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้นก็ต่างชะงักไป
“ครั้งล่าสุดที่ข้าเห็นฉู่เชิ่ง เขายังตามติดชิวชิงหลีอย่างหน้าไม่อายอยู่เลย!”
“จริงหรือ ชิวชิงหลีเป็นของบุตรศักดิ์สิทธิ์ไปแล้วไม่ใช่หรือ เหตุใดฉู่เชิ่งถึงกล้าทำเช่นนั้น?!”
“เหอะ เท่าที่ข้าทราบมา ที่เจ้านั่นยังตามติดชิวชิงหลีก็เพราะวางแผนจะใช้อำนาจตระกูลของนาง เจ้านี่ไม่ได้เกาะผู้หญิงกินแค่ครั้งสองครั้ง ก่อนหน้านั้น เมื่อศิษย์พี่หญิงชิวมอบของบางอย่างให้ เขาก็รับมันไว้อย่างไม่ลังเล!”
“ไม่ผิดแน่! กล้าหาเรื่องบุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่ไม่พอ ยังวางแผนจะแย่งผู้หญิงของเขาไปอีก ฉู่เชิ่งผู้นี้คงมีชีวิตอยู่ได้เพียงไม่กี่วัน!”
นอกฝูงชน ฉู่เชิ่งสวมชุดคลุมสีดำ กำหมัดแน่นพร้อมดวงตาเป็นสีชาด!
ในใจเต็มไปด้วยโทสะสุดประมาณ…
ศิษย์เอกบรรพชนดาบเงยหน้าขึ้น เขามองรายนามอันดับหนึ่งบนทำเนียบสวรรค์ ฝ่ามือกำแน่นจนโลหิตหลั่งออกมา
ลู่หยวน! ไม่ต้องห่วง เจ้ากับข้ายังต้องได้เจอกันอีกแน่!
เมื่อข้าจัดการจักรพรรดินีผู้นั้นได้ ข้าจะสอนให้เจ้าได้รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!
ฉู่เชิ่งสะบัดแขนเสื้อก่อนเดินจากไป
เหนือยอดเขา
ลู่หยวนหลับตาพลางเอนกายบนขาหยกของฉินอี่หาน ละเลียดอาหารที่ผู้ฝึกกระบี่หญิงป้อนให้ ส่วนไป๋ชิวเอ๋อร์กำลังเล่าข้อมูลเรื่องราชวังจักรพรรดิแดนมัชฌิม
คุณหนูสกุลไป๋ผู้รอบรู้วางยันต์ในมือลง แล้วหยิบอีกแผ่นขึ้นมา
นางชำเลืองมองชั่วครู่จึงเอ่ยว่า “นายท่าน กันเม่าได้ตรวจสอบยอดเขาที่ชิวชิงหลีอาศัยอยู่มาแล้ว ข้าจึงสอบถามเพิ่มเติมจนทราบว่าฉู่เชิ่งอาศัยอยู่ร่วมกับชิวชิงหลี แถมยังไปไหนมาไหนด้วยกันหลายครั้ง ราวกับพวกเขามีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นยิ่งขึ้น ดูท่าว่าข่าวลือที่แพร่งพรายออกไปจะไม่ส่งผลกับพวกเขา”
“จริงหรือ?”
ลู่หยวนกระตุกรอยยิ้ม “ชิวเอ๋อร์ เจ้าต้องรู้ไว้ด้วยว่า ยิ่งใกล้ชิดมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งผิดปกติมากเท่านั้น”