📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ตัวประกอบแรงค์ EX – ตอนที่ 169

บทที่ 169
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

เช้าวันหยุดสุดสัปดาห์

ใต้หน้าต่างที่แสงแดดส่องถึง

คิมยูรีนั่งอยู่ตามลำพัง ในมือถือแก้วลาเต้เย็นที่น้ำแข็งละลายไปบ้างเล็กน้อย

‘ต้องเตรียมบรันช์ (มื้อสาย) ไว้ด้วยสินะ’

นับตั้งแต่บิดาของเธอเข้าโรงพยาบาล แม้แต่เพื่อนร่วมชั้นก็ยังสังเกตเห็นถึงความอ้างว้างของคิมยูรี ผู้ต้องอาศัยอยู่ในบ้านกว้างๆ อันว่างเปล่าตามลำพัง จึงผลัดกันแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนบ่อยครั้ง

เมื่อวานก็เช่นกัน เด็กผู้หญิงในห้องชวนกันมาค้างที่บ้านของเธอ

แม้ควอนเลนาต้องรีบตื่นไปเรียนไวโอลิน และฮันอีต้องไปฝึกมวยพยัคฆ์ แต่มินกือรินยังหลับอยู่

ปิ๊งป่อง!

ข้อความจากเพื่อนสนิทของเธอ อันดาอิน ถูกฉายผ่านโฮโลแกรมพร้อมกับเสียงข้อความแจ้งเตือน

[ดาอิน ≧▽≦♡] (รูปภาพ)

[ดาอิน ≧▽≦♡] น่ารักใช่ไหม

[ดาอิน ≧▽≦♡] ดูลิ้นเล็กๆ ที่แลบออกมาตอนหลับนั่นสิ! รูปเจ้าบ่วงที่อึยชินส่งมาให้ล่ะ น่ารักจัง…!

ในรูปที่ส่งจากอันดาอิน ลูกสุนัขที่ดูคล้ายก้อนสำลีนอนหลับแลบลิ้นออกมาเล็กน้อย

เป็นภาพที่ชวนให้อบอุ่นหัวใจ แต่เหนือกว่าคำชื่นชม ความคิดหนึ่งกำลังวนเวียนในหัวคิมยูรี

‘บอกดาอินเรื่องแสงประทานดีไหมนะ’

อันดาอิน—เพื่อนที่ยาวนานที่สุดของเธอ

ในพักหลัง ความถี่ของข้อความจากอันดาอินเพิ่มขึ้นมาก

เธอคงสังเกตเห็นอาการแปลกๆ ของคิมยูรีทั้งก่อนและหลังสอบปลายภาค ซึ่งนั่นทำให้อันดาอินกังวลใจ

‘ถ้าเป็นดาอินต้องไม่หนีไปไหนแน่… เธอจะอยู่เคียงค้างเราถึงแม้จะกลัว’

คิมยูรีทราบดี อันดาอินจะเลือกตนก่อนเสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

แต่เธอไม่อยากให้อันดาอินต้องแบกรับความกลัว โดยการทนอยู่เคียงข้างด้วยความหวั่นวิตก

คิมยูรีถกแขนเสื้อชุดนอนขึ้นจนเผยให้เห็นข้อมือ จากนั้นก็คลายสายรัดนาฬิกา

ได้เห็นข้อมืออันว่างเปล่าของตน หญิงสาวเกิดความหดหู่

‘…อยากให้แสงประทานหายไปจังเลย’

ด้วยความคิดดังกล่าว คิมยูรีหยิบปากกาขนนกที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา

แม้จะรู้ว่าเปล่าประโยชน์ แต่เธอยังคงจุ่มปากกาลงในหมึกแล้วเริ่มวาดตราผนึกแสงประทานลงไปบนข้อมือ

ด้ามจับสีทองไม่กระชับมือเท่าที่ควร และหมึกก็ไม่ค่อยติดผิวหนัง ส่งผลให้ต้องฝนซ้ำหลายหนจนกว่าจะได้เส้นที่ต้องการ

ผิวหนังของเธอจึงแดงขึ้นเนื่องจากหัวปากกาขนนกค่อนข้างคม

ราวกับต้องมนตร์ คิมยูรียังคงก้มหน้าวาดตราผนึกแสงประทานหยาบๆ ลงบนผิวหนังไปพร้อมกับทำร้ายตัวเอง

“…ทำอะไรอยู่!”

ต่อก!

ปากกาขนนกตกกระแทกโต๊ะจนหมึกกระจาย

มินกือรินในชุดนอนยืนมองข้อมือคิมยูรีสลับกับปากกาขนนกด้วยใบหน้าเคร่งเครียด

“เอ่อ… ฉ…ฉัน…”

พฤติกรรมการวาดรูปลงบนข้อมือ ซึ่งทุกทีเอาแต่ปกปิดด้วยสายนาฬิกากับแขนเสื้อยาวๆ ของชุดนักเรียน

เธอควรแก้ตัวว่าอย่างไร?

“ดูคล้ายๆ ตราผนึกแสงประทานเลยนะ กำลังวาดมันอยู่?”

“…”

อากาศในห้องอุ่นกว่าปกติเล็กน้อยเนื่องจากพระอาทิตย์ขึ้นมาได้สักพักแล้ว

นั่นยิ่งทำให้ความเงียบมีน้ำหนัก

‘ทำยังไงดี… ถ้าเธอถามว่าเราวาดไปทำไม ควรตอบว่าอะไร…’

สำหรับเพื่อนในห้อง คนที่รู้เรื่องนี้มีแค่โชอึยชินกับวังจีโฮ

ในคืนที่ตราผนึกหายไป ทั้งสองเข้าใจแสงประธานของเธอทันที

และยังเอาแต่พูดว่า ‘ไม่ต้องกังวล’ ทั้งที่ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด

แต่สองคนนี้ถือเป็นกรณีพิเศษ คนหนึ่งเป็นจอมพิรุธ ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นจอมเพี้ยนท่ามกลางนักเรียนหัวกะทิของโรงเรียนแสงเงิน

ยังไม่ชัดเจนว่านักเรียนคนอื่นจะคิดเหมือนพวกเขา

“…ฉันวาดให้เอาไหม? พอจะจำรูปร่างได้อยู่”

มินกือรินพูดในสิ่งที่คาดไม่ถึง

“เหมือนที่ฉันรู้สึกสบายใจตอนสวมฮู้ดกับแว่น AR… รูปนั้นคงสำคัญกับยูรีสินะ”

ย้อนกลับไปตอนที่มินกือรินเห็นพฤติกรรมประหลาดของคิมยูรี เธอตกใจเล็กน้อย แต่ไม่นานก็เริ่มพูดจาและทำตัวปกติ

เมื่อเห็นว่าคิมยูรียังทำตัวไม่ถูก มินกือรินหันหลังให้

“ถ้าใช้หมึกกับปากกาขนนกมันจะจางเร็ว แถมยังเจ็บข้อมือด้วย ฉันจะไปหยิบปากกาลูกลื่นให้ รอก่อนนะ”

มินกือริน ผู้สวมรองเท้าแตะใบใหญ่ซึ่งไม่เหมาะกับขนาดเท้า เดินหายเข้าไปในห้องนอนแขก

แม้จะยังแสบแผลที่เกิดจากหัวปากกาขนนก แต่ได้เห็นเพื่อนเดินไปแบบนั้น หัวใจของคิมยูรีอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก

‘โชคดีจริงๆ ที่ตัดสินใจสอบเข้าโรงเรียนแสงเงิน… ขอบคุณตัวเองในตอนนั้นที่รวบรวมความกล้า…’

คิมยูรีกำหมัดแน่น พลางนึกทบทวนคำปลอบประโลมของเผ่าแท้ผู้อ่อนโยนที่มอบพรคุ้มครองให้เธอ

1 มกราคม, วันที่แสงประทานตื่นขึ้นเป็นครั้งแรก

เมื่อพ่อแม่ที่นอนไม่หลับมาทั้งคืนสลบไป ‘เธอผู้นั้น’ ได้ปรากฏตัว

เผ่าแท้ผู้มอบพรคุ้มครอง กล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลและเชื่องช้า

—เจ้าอยากได้พรคุ้มครองไหม

—ข้าประทับใจในความกล้าหาญของเจ้า ที่พยายามปกป้องพ่อแม่แม้จะมีแสงประทานอันตราย

—พรคุ้มครองของข้ามิได้วิเศษวิโส แต่หากเมื่อใดเจ้าหมดความกล้า ข้าก็พร้อมจะยื่นมือช่วยเหลือ

—เมื่อใดที่ความกล้าหาญอันหนักแน่นของเจ้าเลือนหาย ข้าจะกลับมาหาอีกครั้ง

‘วลีแห่งพรคุ้มครอง’ ที่คิมยูรีได้รับจากเผ่าแท้นิรนามคือ ‘จงกล้าหาญให้มากขึ้นอีกนิด’

หากได้อยู่กับเพื่อน เธอมั่นใจว่าตนสามารถรวบรวมความกล้าได้มากขึ้น

* * *

ทีมอันดับโหล่ตลอดกาลอย่าง TC ไนท์ส ปัจจุบันแพ้มาแล้วเก้านัดติด

กล่าวกันว่า การแพ้สิบนัดรวดนั้นยากพอๆ กับการชนะให้ได้สิบนัดรวด

ขณะสถิติยังคงดำเนินไปท่ามกลางกระแสข่าวการปลดโค้ช ทีม TC ไนท์สและจูโอดรากอนส์มีกำหนดแข่งดาร์บี้แมตช์ด้วยระบบสองในสาม

TC ไนท์สที่พ่ายในเกมวันศุกร์ไปแล้ว ตอนนี้จึงหลังพิงฝา

ความอดทนอดกลั้นของแฟนๆ ใกล้ขาดผึ่งเต็มที

“วันนี้จะชนะ ต้องชนะแน่! คิดจะแพ้ติดต่อกันสิบนัดเลยหรือไง!”

อ๊กโทยอน แฟนคลับของทีมเบสบอลสุดห่วย กำลังแหกปากด้วยสีหน้ากระวนกระวาย

เธอไม่ส่งเกตเห็นฉัน คงเพราะมัวแต่จดจ่ออยู่กับการแข่งที่ไม่รู้ว่าผลจะออกมาแพ้สิบนัดรวด หรือสามารถล้างอาถรรพ์ได้สำเร็จ

‘คำพูดจะกลายเป็นเมล็ดพันธุ์’

ทุกครั้งที่เพลเมโกอัปเดตเนื้อเรื่องใหม่ ฉันมักจะคิดในแง่บวกทำนองว่า ‘ตัวละครคงไม่ถูกฆ่าอีกแล้วล่ะ’ หรือ ‘มันไม่มีทางแย่ไปกว่านี้แล้ว’ หรือ ‘พวกเขาจะอำมหิตถึงขนาดนั้นเชียว?’

และเมื่อคำพูดกับความคิดกลายเป็นเมล็ดพันธุ์ เหตุการณ์อันเลวร้ายก็ยิ่งไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

“หือ นั่นมันเผ่าแท้ที่อยู่ในสนามด้วยกันวันนั้นนี่นา… ได้เจอกันอีกแล้วแฮะ หล่อนคงชอบเบสบอลมากเลยสินะ”

“ใครหรือ”

“CEO ของขนมต็อกกระต่ายจันทร์”

“อ๋อ ขนมต็อกตรากระต่าย… เคยเห็นแจกฟรีที่โรงอาหารโรงเรียนอยู่”

“หา? โรงเรียนแสงเงินใจป้ำชะมัด! ถ้าเป็นโรงเรียนเตรียมทหาร นานๆ ครั้งถึงจะมีเมนูหรูหรามาแจกฟรี แต่ก็ไม่มีอันไหนหรูหราเท่าขนมต็อกกระต่ายจันทร์!”

ขณะจางนัมอุกสาธยาย โดซีฮูที่ได้ยินคำว่า ‘กระต่าย’ กับ ‘ขนมต็อก’ ทำท่าเหมือนฉุกคิดอะไรบางอย่างได้

“กระต่ายนั้นว่องไว… ส่วนขนมต็อก…”

อูซังฮุนที่คาดเดาประโยคถัดไปได้ เตรียมจะพูดตัดบทโดซีฮู แต่ก็ช้าไปหนึ่งจังหวะ

“ขนมต็อกที่เร็วที่สุดในโลกก็คือ… ‘ฮอลเรพอลต็อก*’ !” (แปลว่า ‘อาการหายใจหอบ’)

ทุกคนเงียบไปหนึ่งอึดใจ แล้วก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ไปหาที่นั่งกันเถอะ”

“เอาสิ”

“ซีฮู หยิบฮอตด็อกเบคอนชีสออกมาก่อน ส่วนเครื่องดื่มก็เริ่มจากแก้วที่มีน้ำแข็ง”

“…อา”

โดซีฮูที่ถูกเมินมุกโดยสิ้นเชิง เดินตามเพื่อนๆ ไปนั่งด้วยสีหน้าสลดหดหู่

วันนี้เขาใจกว้างอาสาเป็นคนถือของ ถือน้ำ และเบ๊ซื้อของให้กับทุกคน

เมื่อนำไก่เปรี้ยวหวาน ไก่เสียบไม้ ไส้กรอก ไก่ทอด ฮอตด็อก และน้ำอัดลมมาวางบนโต๊ะ กระทั่งโต๊ะสำหรับสี่คนก็แทบจะวางไม่พอ จึงยังเหลืออาหารอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่ถูกหยิบขึ้นมา

การแข่งเบสบอลเริ่มต้นขึ้นด้วยความทุลักทุเล

‘นี่น่ะหรือ… ทีมเบสบอล TC อันโด่งดัง’

สมกับที่เป็น TC ไนท์สเจ้าของฉายา ‘ขยะที่เล่นเบสบอลได้’ ไม่ใช่ ‘ทีมเบสบอลที่เล่นเหมือนขยะ’

การขว้างสุดห่วย, การรับบอลที่งุ่มง่าม, ดับเบิลเพลย์*, ดับเบิลเพลย์สามครั้งซ้อน, การเล่นแบบไม่ใช่สมอง…

(Double Play – ในเกมเบสบอลหมายถึง การที่ผู้เล่นฝ่ายบุกถูกส่งออกจากสนามสองคนพร้อมกันในการบุกครั้งเดียว ถือเป็นการเล่นที่ผิดพลาด)

แม้กระทั่งจางนัมอุกที่เป็นแฟนจูโอดรากอนส์ก็ยังพูดว่า ‘ทีมเราได้คะแนนก็จริง แต่ไม่ใช่เพราะเล่นดี’

เมื่อคะแนนถลำลึกไปถึงจุดที่ชักไม่แน่ใจว่ากำลังดูเบสบอลหรือแฮนด์บอลกันแน่โuเวลกูดoทคอม

ปิ๊งป่อง!

ข้อความจากวังจีโฮ

[วังจีโฮ] ทำไมนายถึงไปอยู่ที่สนามเบสบอลกับนังกระต่ายจันทร์อีกแล้ว? กำลังจะมีรอยแยกหรือไง

หมอนี่รู้ได้ยังไง?

ความสงสัยถูกคลี่คลายในข้อความถัดมา

[อ๊กโทยุน] สวัสดี ท่านผู้มีพระคุณ

[อ๊กโทยุน] ข้าเห็นจากข่าวว่าท่านอยู่ที่สนามเบสบอล โทยอนก็อยู่ด้วยใช่ไหม

[อ๊กโทยุน] (ลิงก์)

ในลิงก์ข่าวที่อ๊กโทยุนส่งมา มีบางภาพถ่ายติดอัฒจันทร์เชียร์

หนึ่งในนั้นเป็นภาพของอ๊กโทยอนกำลังแหกปากตะโกน และรูปที่เราสี่คนกำลังนั่งกินอาหารพลางชมเกม

ดูเหมือนนักข่าวบางคนคงจำได้ว่า เราคือกลุ่มเพลเยอร์นักเรียนม.ปลายที่เคยมีบทบาทสำคัญในเหตุร้าย ณ สนามเบสบอลจัมชิลเมื่อตอนวันเด็ก จึงถ่ายรูปเพื่อนำไปเขียนสกู๊ปรำลึกความหลัง

[อ๊กโทยุน] พอเกมจบแล้ว ท่านชวนโทยอนคุยสักพักได้ไหม ข้าอยากจับได้แบบคาหนังคาเขาน่ะ

ฉันเข้าใจความยากลำบากของอ๊กโทยุน จึงเห็นด้วยกับแผนการ

[ฉัน] ได้ครับ แต่ผมมากับเพื่อน ไม่แน่ใจว่าจะชวนคุยได้นานนัก

[อ๊กโทยุน] ข้าจะรีบจัดการให้เสร็จภายในห้านาทีหลังจากเกมจบ ขอโทษที่ต้องรบกวนนะ และขอบคุณมากที่ช่วย

ข้อความจากอ๊กโทยุนสิ้นสุดแค่นี้ ราวกับพิมพ์เสร็จแล้วรีบบึ่งตรงมาที่สนามเบสบอลทันที

ในทางกลับกัน อ๊กโทยอนกำลังตะเบ็งจนคอแทบแตกเนื่องจากทั้งสองทีมมีส่วนต่างคะแนนมากกว่าสิบไปแล้ว

อ๊กโทยอนยังคงเดินไปสูตร ‘ห้าก้าวสู่ความฉิบหาย’ อย่างเคร่งครัด

ก้าวแรก ปฏิเสธความจริง

“เฮ้ย! คิดจะแพ้จริงๆ หรือไง! เหลวไหลสิ้นดี! แพ้สิบนัดติดต่อกัน… นี่มันเรื่องบ้าอะไร!”

ก้าวที่สอง ความโกรธ

“ไอ้พวกจูโอนี่! ตีพลาดบ้างสักครั้งไม่ได้หรือไง! คิดว่ากำลังอยู่ในสนามเบสบอลหยอดเหรียญหรือไงวะ! ที่จ่ายเงินแล้วต้องตีให้โดนน่ะ! ฮึ่ย… โอ๊ย! พลาดอีกแล้ว ยังกล้าเรียกตัวเองว่าทีมเบสบอลอยู่อีกหรือไง? ยุบทิ้งไปสักทีไอ้ทีม TC เนี่ย!”

ก้าวที่สาม ความกลัว

“…หรือว่าจะถูกทิ้งห่างแบบน่าสมเพชก่อนถึงเดือนสิงหาคม?”

ก้าวที่สี่ การต่อรอง

“ถ้าจะแพ้ก็ขอแพ้แค่แต้มสองแต้มได้ไหม… เบสบอลที่ไหนเขาแพ้กันเป็นสิบแต้ม!”

ก้าวที่ห้า ยอมจำนน

“…นั่นสินะ สถิติพ่ายแพ้ติดต่อกันมากที่สุดในเกาหลีคือ 18 นัด… แพ้แค่สิบยังไม่เสียหายมาก”

หลังจบการขว้างปิดเกมที่ทำให้ทีม TC ไนท์สแพ้สิบนัดรวดอย่างเป็นทางการ ฉันเห็นอ๊กโทยอนกำลังยืนหัวเราะเหมือนคนสติหลุด

…จิตใจคงแตกสลายไปแล้ว

ท่วงท่าการเดินอันซวนเซของเธออาจดูน่าสงสาร แต่ฉันตัดสินใจรั้งเธอไว้เพื่อช่วยเหลืออ๊กโทยุนที่น่าสงสารยิ่งกว่า

“สวัสดี”

“อะไรอีก! ข้าไม่มีอารมณ์จะคุยกับใครหรอกนะ… อ…เอ๋? ท่านมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”

เมื่อเห็นฉันทักทาย เพื่อนคนอื่นก้มศีรษะทักทายตาม

อาจดูค่อนข้างแปลกที่เราเป็นฝ่ายเข้ามาทักก่อน แต่ถ้าจะมองว่าเป็นกลุ่มเด็กที่มีสัมมาคารวะก็พออนุโลมได้

“ข้าเคยชวนไปตั้งหลายครั้งแต่ท่านไม่เคยตอบตกลง! ดีล่ะ… ถ้างั้นหลังจากนี้มาดูด้วยกัน… เอ๋?”

ราวกับมีใครไปกดปุ่มหยุด ดวงตาสีแดงของอ๊กโทยอนชะงักงันทันทีที่เห็นโดซีฮู

กระต่ายหยกในตำนานที่ภายนอกดูเหมือนแฟนคลับของทีมขี้แพ้ เผยแววตาที่สมกับเป็นผู้นำเผ่าแท้ออกมาชั่วขณะ

* * *

นาบีรยองกำลังเดินไปตามทางที่มีบรรยากาศมืดสลัว

แหล่งกำเนิดแสงเพียงอย่างเดียวคือโคมไฟเล็กๆ สำหรับส่องกรอบรูปบนผนังทางเดิน

นาบีรยองจะแวะมาที่นี่ทุกครั้งหลังจากได้พบ ‘ท่านผู้นั้น’

หัวใจที่เต้นระรัวขัดกับนิสัยของหญิงสาว สงบลงหลังจากได้เห็นสิ่งที่อยู่ในกรอบรูป

‘ทำไมถึงไม่เป็นไปตามแผนกันนะ…’

เธอมองเข้าไปในแต่ละกรอบ พลางขยับเท้าไปทีละก้าว

ผีเสื้อที่ถูกหมุดปักในสภาพกางปีกจนสุด กำลังกระเสือกกระสนดิ้นรนอยู่ในกรอบรูป

นาบีรยองหยุดยืนอยู่หน้าผีเสื้อที่ถูกตรึงบนไว้ภาพดอกแมกโนเลีย

‘คุณหนูแมกโนเลียควรจะพังทลายได้แล้วสิ… ทำไมถึงยังไม่เรียกเราอีกนะ นึกว่าจะเรียกตั้งแต่วันที่ผนึกสลายเสียอีก’

ร่างอวตารของแมกโนเลีย—หญิงสาวผู้ถูกฝืนสร้างพันธะกับทวยเทพตั้งแต่อายุยังน้อย

ไม่น่าเชื่อว่าจะยังเยือกเย็นอยู่ได้

นาบีรยองที่คอยเฝ้าดูสายเลือดนี้มาตั้งแต่โศกนาฏกรรมซอกู ไม่คลางแคลงใจเลยสักนิดว่า นี่คือพลังอันยิ่งใหญ่ที่จะกลายหมากสำคัญของตน

ร่างอวตารของแมกโนเลียผู้พยายามเก็บซ่อนพลัง และคนใกล้ตัวที่หวาดกลัวจนไม่เป็นอันทำอะไร

‘มันสมบูรณ์แบบจนถึงกลางทาง…’

คำหวานถูกกระหน่ำโปรย จนอีกฝ่ายยอมรับพรคุ้มครอง

ประจวบเหมาะกับช่วงที่บิดาล้มป่วย ร่างอวตารของแมกโนเลียต้องใช้ชีวิตตามลำพัง

แผนของนาบีรยองปราศจากข้อบกพร่องจนถึงจุดนี้ แต่จากนั้นก็เริ่มคลาดเคลื่อน

‘เมื่อย่างเข้าฤดูร้อน ผู้นำเผ่าเสือเริ่มแวะมาที่บ้านของเธอบ่อยขึ้น… อาจเป็นเหตุผลที่เด็กคนนั้นไม่ยอมเรียกหาเรา’

นาบีรยองเคยเชื่อว่าเมื่อตราผนึกหายไป ความกล้าหาญของเด็กวัยรุ่นย่อมสลายตามไปด้วย

‘ช่างเถอะ… เรายังเชื่อมกันด้วยพรคุ้มครอง ยังพอมีวิธีให้ใช้งานได้อยู่’

ขณะแสยะยิ้ม นาบีรยองดึงกรอบรูปใบเล็กออกจากผนังแล้วนำมากอดในอ้อมแขน

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ตัวประกอบแรงค์ EX

ตัวประกอบแรงค์ EX

EX Rank, Ex Rank Supporting Role’s Replay in a Prestigious School, EX Rank Side Character's School Replay, 명급리, 명문고 EX급 조연의 리플레이
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
หลังจากเคลียร์บทสุดท้ายของเกมกากแห่งชาติสำเร็จ เขากลายเป็นตัวประกอบไร้นามในเกมที่ตัวเองเคยเล่น ตัวประกอบแรงค์ EX ที่เหนือธรรมดาและยากจะหยั่งถึง ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังทุกสิ่ง!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset