ลู่หยวนและฮ่วนซิงไป๋มองตามไป พบว่าเสียงเรียกนั้นมาจากกันเม่าที่กำลังขี่กระบี่บินเข้ามาด้วยสีหน้าวิตกกังวล
เมื่อกันเม่ามาถึง เขายกมือทำความเคารพลู่หยวน ก่อนกล่าวว่า “บุตรศักดิ์สิทธิ์ การแข่งขันภายในกำลังจะเริ่มแล้ว ถ้าท่านไม่ไป เกรงว่าจะพลาดการจับฉลาก!”
ขั้นตอนแรกของการแข่งขันภายในคือการจับฉลากเพื่อเลือกคู่ต่อสู้!
ริมฝีปากของลู่หยวนยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม “จะแตกตื่นไปทำไม? พวกเขาควรเป็นคนที่แตกตื่นไม่ใช่หรือ? คิดว่าทุกคนคงหวังอยู่ลึก ๆ ที่จะไม่เจอกับข้าอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้น ก่อนจะทันได้ขึ้นลานประลอง พวกเขาคงยอมจำนนไปแล้ว”
ฮ่วนซิงไป๋ผู้อยู่ข้างกายได้ยินดังนั้น ดวงตาจึงทอประกาย “ข้าก็เหมือนกับบุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่เช่นกัน!”
เมื่อครู่กันเม่าสนใจแต่พี่ใหญ่ของเซียวเทียน จึงไม่ได้ให้ความสนใจกับคนที่อยู่ข้างกายมาก่อน
เมื่อเห็นฮ่วนซิงไป๋ กันเม่าก็ยกมือขึ้นทำความเคารพทันที “คารวะท่านฮ่วน”
ฮ่วนซิงไป๋ไม่ได้แสดงท่าทีเป็นมิตรต่อผู้ใช้โล่กระบี่เหมือนอย่างที่ทำกับบุตรศักดิ์สิทธิ์ ตอนนี้สีหน้าของเขาจริงจัง “พอได้แล้ว”
กันเม่าลดมือลง ในใจของเขารู้สึกแปลกประหลาด ทำไมน้องเขยในอนาคตของจักรพรรดินีฉวนจงถึงมายืนอยู่ข้างกายบุตรศักดิ์สิทธิ์ได้ แถมยังสนทนากันอย่างถูกคออีก?!
ผู้ใช้โล่กระบี่ยืนอยู่ด้านข้างลู่หยวนอย่างสงบ ก่อนลอบบอกทุกสิ่งเกี่ยวกับฮ่วนซิงไป๋ให้บุตรศักดิ์สิทธิ์ฟัง
หลังจากบอกไปไม่กี่ประโยค ลู่หยวนจึงได้รู้ตัวตนของฮ่วนซิงไป๋
จักรพรรดินีฉวนจงมีน้องสาวหนึ่งคน แม้จะเป็นน้องสาว แต่ตอนนี้นางเป็นผู้มีสิทธิ์สืบทอดบัลลังก์ของแดนมัชฌิมเช่นกัน
สตรีผู้นี้ครอบครองวิถีที่ยิ่งใหญ่ นางเก็บตัวพร้อมกระบี่คู่กายหนึ่งเล่มมาหลายปี ว่ากันว่าอยากทำความเข้าใจวิถีแห่งสวรรค์ในอึดใจเดียว เพื่อทะลวงขั้นสู่สวรรค์ ก้าวเข้าสู่การเป็นเทพเซียน!
ซึ่งฮ่วนซิงไป๋เป็นคู่หมั้นของสตรีผู้นั้น ถึงแม้ยังไม่ได้กำหนดวันแต่งก็ตาม แต่ครึ่งหนึ่งของแดนมัชฌิมก็ยอมรับเขาแล้ว! เขาเองก็เป็นคุณชายตระกูลฮ่วนแห่งตระกูลยิ่งใหญ่ในบรรดาตระกูลชั้นสูงจำนวนมากของแดนมัชฌิม!
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสถานะของเขาสูงส่งยิ่งนัก!
เมื่อกันเม่าพูดถึงตรงนี้ เขาได้เน้นย้ำถึงตัวตนตระกูลชั้นสูงของฮ่วนซิงไป๋
ลู่หยวนยกยิ้ม แต่ไม่เก็บตัวตนของผู้เข้าหามาคิดจริงจัง
ตระกูลชั้นสูงสุดของแดนมัชฌิมอะไรกัน?
ไม่มีบุตรแห่งโชคชะตาเลยสักคน!
น่าผิดหวังจริง ๆ!
“ถึงเวลาแล้ว ไปกันเถอะ!”
ภายหลังลู่หยวนเอ่ยคำ ความว่างเปล่ารอบข้างผันผวน ก่อนทั้งสองจะทันได้มองชัดเจน ร่างของลู่หยวนก็ทะยานไปไกลแล้ว ทั้งสองจึงรีบสาวเท้าตามไป
ในพื้นที่ส่วนกลางของสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ เฉิงไท่ยืนอยู่บนแผ่นหิน อาจารย์สำนักทั้งหลายตั้งตารอคอย สายตาจับจ้องไปที่ประตูสำนัก
กรร!!
เสียงมังกรทะยานดังมาจากไกล ๆ ทุกคนในสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์แทบหยุดหายใจ
ศิษย์ที่กำลังกระซิบกระซาบเหล่านั้นต่างพากันหุบปาก ใบหน้าของพวกเขาซีดเซียวเพราะแรงกดดันดังกล่าว
ทุกคนมองไปที่ต้นเสียง พบว่าหมอกด้านนอกประตูสำนักค่อย ๆ ผันผวน
ทันใดนั้น องครักษ์จำนวนมากในชุดเกราะทองจึงก้าวออกจากหมอกพร้อมกับถือง้าวไว้ในมือ แต่ละคนมีสีหน้าเคร่งขรึม แววตาเปี่ยมด้วยจิตสังหาร ระดับการบ่มเพาะของพวกเขาไม่ต่ำไปกว่าขั้นเทียมเซียน!
ศิษย์จำนวนมากที่ยังอ่อนต่อโลกมองดูคนเหล่านี้ ในใจก็บังเกิดความหวาดกลัวขึ้นมา
เมื่อเหล่าศิษย์ได้ยินชื่อองครักษ์จักรพรรดิแดนมัชฌิม พวกเขาต่างพากันเบือนหน้าหนี
พวกเขารู้ว่า คนเหล่านี้ล้วนเป็นผู้ฝึกยุทธ์มือเปื้อนเลือด!
องครักษ์นับร้อยยืนเรียงกันสองแถว ยาวไปจนถึงประตูสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาเคลื่อนไหวพร้อมกัน ง้าวในมือสั่นไหวไปมา พวกเขาคุกเข่าลงข้างหนึ่ง พร้อมตะโกนเสียงดังว่า “ฝ่าบาทเสด็จ ทำความเคารพ!”
สุรเสียงดังกล่าวดังก้องถึงชั้นเมฆ!
กรร!!
เสียงคำรามของมังกรดังขึ้นอีกครา ภายในหมู่เมฆ มังกรนาคาสามตัวแผ่ร่างกายกระจายไปทั่วทั้งอาณาเขตโนiวลกูดอทคอม
หลังจากมังกรนาคาสีน้ำเงินสามตัวสำแดงตน รถม้าหยกสีทองขนาดใหญ่จึงปรากฏ
องครักษ์ตะโกนอีกครั้งว่า “ฝ่าบาทเสด็จ!”
ร่างของเฉิงไท่วูบไหว ตามมาด้วยเหล่าอาจารย์
เจ้าสำนักเคลื่อนลงมาอยู่ตรงหน้ารถม้าหยก จากนั้นคารวะด้วยความเคารพ แล้วกล่าวว่า “คารวะฝ่าบาท”
เหล่าอาจารย์ยกมือทำความเคารพเช่นกัน “คารวะฝ่าบาท!”
ด้านนอกรถม้าหยกมีผ้าม่านโปร่งปกคลุมอยู่ มันบดบังร่างส่วนใหญ่ของคนที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้างใน ทำให้มองเห็นได้เลือนรางว่าเป็นร่างผอมสูง ทรวดทรงองค์เอวสมสัดส่วน
“ตามสบายเถอะ”
จากภายในรถม้าหยก เสียงสตรีทรงอำนาจดังลอดออกมา
พวกเฉิงไท่จึงลุกขึ้น เอ่ยว่า “ขอบคุณฝ่าบาท”
เจ้าสำนักก้าวมาข้างหน้า “การแข่งขันภายในครั้งนี้ ฝ่าบาทมาที่นี่ด้วยตนเอง ช่างเป็นเกียรติแก่สำนักมายาศักดิ์สิทธิ์!”
“ตอนนี้กระหม่อมเตรียมที่นั่งสำหรับฝ่าบาทไว้พร้อมแล้ว เชิญฝ่าบาท”
นางพยักหน้า “นำทางได้เลย”
ภายหลังน้อมรับคำสั่งของจักรพรรดินี เฉิงไท่หันไปพร้อมกับกลุ่มคน เดินไปยังพื้นที่ส่วนกลางของสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์
มังกรนาคาสีน้ำเงินสามตัวลุกขึ้น พวกมันลากรถม้าหยกข้ามประตูบินไปทางสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์
เงาร่างขนาดใหญ่ของมังกรนาคากับรถม้าหยกเข้าปกคลุมสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ไปกว่าครึ่ง และแผ่แรงกดดันที่ปกคลุมฟ้าดินมาสู่เบื้องล่าง
ศิษย์ทั้งหลายไม่สามารถต้านพลังของมังกรเหล่านี้ได้ พวกเขาต่างคุกเข่าลงคนแล้วคนเล่า
เมื่อรถม้าหยกมาถึงตรงกลางสำนัก พลังของมังกรนาคาก็ทะยานสู่จุดสูงสุด ภายใต้พลังดังกล่าวมีเพียงศิษย์ไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังคงยืนตัวตรงได้
มู่พ่านซานผู้ติดตามอยู่นอกรถม้าหยกชำเลืองมอง นอกจากคนบางส่วนผู้อยู่ทำเนียบสวรรค์ที่ยังยืนอยู่นอกฝูงชนโดยไม่ยอมคุกเข่าแล้ว ยังมีคนบางส่วนที่ดึงดูดความสนใจของเขา
กลุ่มหนึ่งคือพวกบรรพชนเสวียนที่มีกระดานเสี่ยงทายของเสวียนเทียนชวนส่องแสง พลังดาราจักรปรากฏขึ้น ปกป้องศิษย์ทั้งหลายของยอดเขาวิถีเร้นลับเอาไว้ แต่ถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้คุกเข่า แต่ก็ต้องกระตุ้นรากฐานการบ่มเพาะ เพื่อประคองตัวเองเอาไว้
กลุ่มที่สองคือพวกเซียวเทียน กระบี่ยักษ์ในมือบุตรแห่งโชคชะตาสายเลือดมังกรพุ่งขึ้นไปในอากาศ แผ่พลังพุ่งทะยานออกไปขัดขืนแรงกดดันของมังกรนาคาที่ปกคลุมท้องนภาเอาไว้ พลังมังกรปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่องบนร่างกายของเขา และสลายแรงกดดันออกไป
ส่วนกลุ่มที่สาม…
มู่พ่านซานจับจ้องคนที่อยู่นอกฝูงชน อีกฝ่ายอยู่ภายใต้ชุดสีดำ ทำให้ยากที่จะเห็นรูปลักษณ์ของได้อย่างชัดเจน
เขายืนตัวตรงภายใต้แรงกดดันของมังกรนาคา ไม่มีความสั่นไหวแต่อย่างใด
มู่พ่านซานแยกสัมผัสเทวะออกไปส่วนหนึ่ง เพื่อสำรวจคนผู้นั้น
หลังจากอีกฝ่ายรู้สึกถึงสัมผัสเทวะส่วนหนึ่งของเขาได้ จึงเงยหน้าขึ้นมองท้องนภา
องครักษ์แห่งจักรพรรดินีหรี่ตาเล็กน้อย คนผู้นี้คือฉู่เชิ่งที่ถูกอัดปางตายด้วยฝีมือของลู่หยวนก่อนหน้านี้!