📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี เซียนหมากข้ามมิติ – ตอนที่ 77

บทที่ 77 - ดื่มไม่ไหว
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

แม่น้ำวสันต์ยังคงเป็นแม่น้ำใหญ่ที่มีชื่อเสียงของพื้นที่รัฐจี ส่วนที่คดเคี้ยวยาวที่สุดอยู่ภายในพื้นที่จังหวัดชุยฮุ่ย และผ่านหลายจังหวัดในรัฐ รวมถึงเป็นสัญลักษณ์เขตแดนแฉลบผ่านพื้นที่รัฐใหญ่อีกสองรัฐ ก่อนจะไหลลงสู่ทะเลในที่สุด

ช่วงหนึ่งของแม่น้ำที่ไหลจากอำเภอจิ่วเต้าโข่วของจังหวัดเต๋อเซิ่งสู่จังหวัดชุยฮุ่ยค่อนข้างตรงแหน็ว โดยเฉพาะในฤดูกาลนี้ที่ลมตะวันออกเฉียงใต้ค่อนข้างสงบนิ่ง การเดินทางจากจังหวัดเต๋อเซิ่งสู่จังหวัดชุนฮุ่ยจึงใช้เวลาน้อยมาก

นอกจากวันแรกที่มีคนตกน้ำในตอนเย็น มีปลาชิงฮื้อฉลาดหลักแหลมช่วยคนและขอสุรา การเดินทางด้วยเรือสองวันหลังจากนั้นไม่มีอุปสรรคใดๆ ดื่มดำหรือฟังเสียงป่าและสัตว์ไปตามทาง แล่นเรือไปตามลมและน้ำเรื่อยๆ จนถึงเช้าตรู่วันที่สี่ก็มองเห็นท่าเรือใหญ่นอกจังหวัดชุนฮุ่ยแล้ว

ยิ่งเข้าใกล้ท่าเรือใหญ่ของจังหวัดชุนฮุ่ย จำนวนเรือรอบข้างก็มากขึ้น ตั้งแต่เรือเล็กโดยสารได้คนเดียว ไปจนถึงเรือประดับหอ ตั้งแต่เรือโดยสาร ไปจนถึงเรือหาปลาของชาวประมง แต่ระดับความยุ่งวุ่นวายยังเทียบกับท่าเรือของอำเภอจิ่วเต้าโข่วไม่ได้

พวกผู้โดยสารเรือล้วนยืนมองอยู่ข้างนอก มองเห็นกำแพงเมืองสูงตระหง่านของจังหวัดชุนฮุ่ยข้างหลังท่าเรือ รวมถึงอาคารข้างในนั้นที่สูงพ้นกำแพงเมืองจำนวนหนึ่ง

เสียงจอแจบนท่าเรือยิ่งมายิ่งชัดเจนเช่นกัน บรรทุกสินค้า ขนถ่ายสินค้า ขึ้นเรือ ลงเรือ เรือเล็กที่จี้หยวนโดยสารพบที่จอดเรือขนาดเล็กที่ชายขอบ จึงค่อยๆ เทียบท่าอย่างเชื่องช้า

จนถึงเวลานี้ ทุกคนที่ร่วมเดินทางด้วยกันสามวันล้วนรู้ว่าต้องแยกจากกันแล้ว ค่าเรือจ่ายไปตั้งแต่วันแรกที่เริ่มออกเดินทาง จึงลงจากเรือได้ทุกเมื่อ

“ผู้โดยสารทุกท่าน ศาลเทพแม่น้ำตั้งอยู่ทางใต้ด้านนอกกำแพงเมืองตะวันออก ออกจากท่าเรือหากไม่มุ่งตรงเข้าเมือง แต่เดินไปทางใต้ก็จะมองเห็น ที่นั่นนับว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีทิวทัศน์งดงามของจังหวัดชุนฮุ่ย หากมีเวลาว่างก็ไปกราบไหว้ท่านเทพแม่น้ำได้!”

ฝีพายเฒ่าผูกเชือกเรียบร้อยดี ยิ้มพลางแนะนำทุกคนที่กำลังจะลงจากเรือ การเดินเรือในครั้งนี้แล่นไปตามลมและน้ำ หลักใหญ่ใจความคือผู้โดยสารบนเรือก็ดีด้วย สบายใจ!

“ดี ต้องไปดูสักหน่อย!”

“ไม่เลว ต้องไปกราบไหว้จุดธูปสักดอกแล้ว!”

“ไว้พบกันใหม่นะฝีพาย!”

“ไว้มีโอกาสค่อยพบกัน!”

จี้หยวนก็ประสานมือให้ชาวประมงที่ท่าเรือเหมือนกับคนอื่น ฝีพายสองพ่อลูกไม่คิดจะเข้าไปในเมือง เพียงซื้อข้าวของจำนวนหนึ่งแถวท่าเรือ ทำความสะอาดเรือเล็กน้อยก็แขวนป้ายอำเภอจิ่วเต้าโข่ว จังหวัดเต๋อเซิ่ง ได้ผู้โดยสารเรือกลับบ้านด้วยกันอยู่บ้าง

หกคนบนเรือเดินออกจากท่าเรือด้วยกัน บัณฑิตหนึ่งคนในนั้นพลันถามจี้หยวน

“ท่านจี้ ข้ากับเพื่อนนักเรียนคิดจะเที่ยวเล่นในจังหวัดชุนฮุ่ยสักหน่อย แล้วค่อยไปแวะชมศาลเทพแม่น้ำ หากท่านไม่มีแผนการอื่น มิสู้ร่วมทางกับข้าดีหรือไม่”

“จริงด้วยท่านจี้!”

จี้หยวนมองสองคนนี้ ประสานมือให้เช่นกัน

“ขอบคุณที่หวังดี แต่ข้ามีธุระอย่างอื่น ได้ร่วมเดินทางกับทุกคน วันหน้าต้องมีโอกาสได้พบกันแน่ ข้าขอตัวลาตรงนี้!”

พวกเขาต่างบอกลากัน ต่างฝ่ายต่างก็เดินทางไปยังจุดหมาย ส่วนจี้หยวนเดินไปก่อนก้าวหนึ่ง ฝีเท้ายิ่งมายิ่งเร็วขึ้น หนึ่งเค่อให้หลังก็หายไปไม่เห็นแล้ว

‘วันนี้เป็นวันที่สิบสองเดือนห้า ไม่รู้ว่าเว่ยอู๋เว่ยมาถึงจังหวัดชุยฮุ่ยและเตรียมพร้อมแล้วหรือยัง’

จี้หยวนนำความคิดนี้ไปตามหาจนพบสุรารสเลิศที่มีชื่อเสียงของสักร้านหนึ่งในเมืองเป็นอันดับแรก อยากลองดูว่าอร่อยเพียงใด ดึงดูดเต่าเฒ่าให้ออกมาได้หรือไม่

อย่างไรเสียจี้หยวนไม่เคยเจอเรื่องใหญ่อะไรบนโลกนี้มาก่อน สุราที่ดื่มได้มากที่สุดก็คือสุราสลักบุปผาของอำเภอหนิงอัน สุรานั้นมีขายอยู่ทั่วทุกที่ ไม่ใช่ของหายากเท่าไหร่

อย่างไรก็ดี หากเขารออยู่ใกล้ๆ ประตูเมืองทางใต้ก่อนวันที่สิบห้าเดือนห้าก็น่าจะพบเว่ยอู๋เว่ยได้ทุกเมื่อ ด้วยความสามารถในการฟังของจี้หยวน ย่อมแยกแยะคนคุ้นเคยได้จากระยะไกล

ตอนนั้นที่เว่ยอู๋เว่ยคิดพบเต่าเฒ่า เดิมทีจี้หยวนไม่คิดจะแสดงตัวเพราะอยากเห็นสิ่งใหม่ ด้วยคาดว่านอกจากตระกูลเว่ยแล้ว คนที่รู้เรื่องนี้ก็คือ ‘ยอดฝีมือทางการ’ ในคืนนั้น

ทว่าความจริงแล้วถึงแม้จี้หยวนอยากแสดงตัวก็ทำไม่ได้ อย่างไรเสียเขาก็เป็นผู้วิเศษในสายตาของเว่ยอู๋เว่ย ผู้วิเศษรู้ว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน

ความเจริญของจังหวัดชุนฮุ่ยเหนือกว่าอำเภอหนิงอันและอำเภอจิ่วเต้าโข่วมาก ด้วยสายตาที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก กอปรกับการฟังที่ยอดเยี่ยมและการดมกลิ่น จี้หยวนเดินเล่นในเมืองแล้วก็ยังคงเหมือนกับยายหลิวเข้าต้ากวนหยวน[1]

สอบถามอยู่ครึ่งวัน ในที่สุดจี้หยวนก็เจอร้านขายสุราชื่อว่าร้านสวนดอกไม้ที่อยู่ตรงหน้า กลิ่นสุราอบอวลเจือจางคล้ายกับบ่งบอกว่าร้านนี้มีชื่อเสียงสมคำร่ำลือจริงๆ

ร้านขายสุราไม่ใหญ่มาก ไม่ได้มีสองชั้น ภายในมีโต๊ะไม่กี่ตัวเท่านั้น คนซื้อและดื่มสุราเหมือนกับมีไม่มาก มีแค่โต๊ะสองตัวตรงมุมร้านที่มีคนดื่มสุราเคล้ากับแกล้ม อีกทั้งกับแกล้มนี้ดูไม่เหมือนอาหารของร้านขายสุรา แต่เหมือนนำติดตัวมาเองมากกว่า เพราะใช้ใบบัวห่อเอาไว้ด้วย

กลับมีคนท่าทางเหมือนคนเฝ้าร้านอยู่ในร้านไม่น้อย แต่พวกเขาทั้งหมดกำลังพักผ่อนอยู่บนโต๊ะว่างสองสามโต๊ะ ขณะที่เจ้าของร้านดีดลูกคิดอยู่ข้างหลังโต๊ะ ส่งเสียงกุกกักไม่ยอมหยุด

“หลงจู๊ ได้ยินมาว่าวสันต์พันวันของพวกเจ้าเป็นสุรามีชื่อเสียงที่สุดในจังหวัดชุนฮุ่ย ไม่ทราบว่ากาหนึ่งราคาเท่าไหร่หรือ”

จี้หยวนเข้าไปในร้านแล้วก็พุ่งไปถามหลงจู๊ ฝ่ายหลังดีดลูดคิดในมือเรียบร้อยแล้วถึงเงยหน้ามองเขาครั้งหนึ่ง

“ร้านข้าขายสุราเพียงสองชนิด วสันต์พันวันราคาสองตำลึงเงินต่อหนึ่งชั่ง มีส่วนลดเล็กน้อยหากซื้อทั้งไห ส่วนสุรานทีบุปผาราคาหนึ่งร้อยเหวินต่อหนึ่งไห บรรจุห้าชั่ง”

“สองตำลึง?”

จี้หยวนกล่าวออกมาด้วยความตกใจ ราคานี้แพงเกินไปอยู่บ้าง สองตำลึงใช้ซื้ออาหารกินได้หลายมื้อ ดูท่าไม่ใช่แค่ชาติก่อนที่มีสุราราคาแพงหูฉี่ ชาตินี้ก็คงไม่ขาดแคลนเหมือนกัน!

“ลูกค้าต้องการสุรานทีบุปผาหรือ”

หลงจู๊คิดบัญชีต่อ ไม่ส่งเสียงพูดอะไรอีก ทำให้จี้หยวนอึดอัดอยู่บ้าง

“เอ่อ เจ้าของร้าน ในเมื่อแบ่งขายวสันต์พันวันได้ เช่นนั้นข้าขอซื้อชิมสักจอกได้หรือไม่”

“สักจอก?”

คำขอพรรค์นี้มีให้เห็นน้อยนัก เหตุผลหลักคือไม่มีใครกล้ายื่นข้อเสนอในร้านสวนดอกไม้แห่งนี้ หลงจู๊จึงเงยหน้ามองจี้หยวนอีกครั้งอย่างอดไม่ได้

ชุดคลุมสีเทาแขนกว้าง บนศีรษะปักปิ่นไม้แดง แบกห่อผ้าบนหลังและถือร่ม แต่งกายงดงามสะอาดสะอ้าน ทรงผมดูเหมือนไม่ได้จัดทรง แต่กลับเป็นธรรมชาติอย่างน่าประหลาด ไม่เหมือนคนมีเงิน ทว่าก็ไม่เหมือนมาขอทานเช่นกัน ตอนมองเพียงลืมตากึ่งเดียว เจ้าของร้านพลันชะงักไปเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัดโนเวลกูดอทคอม

“ลูกค้าเพิ่งมาถึงจังหวัดชุนฮุ่ยหรือ”

“เพิ่งมาถึงวันนี้ ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของวสันต์พันวัน จึงอยากมาลองชิมดู”

“มาๆๆ…”

หลงจู๊พยักหน้า ทางหนึ่งกวักมือให้จี้หยวน ทางหนึ่งประคองไหขนาดเล็กบนชั้นวางข้างหลังลงมา จากนั้นเปิดจุกปิดฝาออก

เขานำจอกกระเบื้องขนาดเล็กวางลงบนโต๊ะ แล้วใช้กระบวยเล็กจ้อยยื่นเข้าไปตักข้างในได้ครึ่งกระบวย เทสุราสีอำพันลงในจอกกระเบื้องเล็กนั้นจนเต็มพอดี เมื่อเทเสร็จแล้วสายน้ำเส้นเล็กยังคงเชื่อมปากจอกกับกระบวย หลงจู๊ตัดขาดมันด้วยการสั่นเบาๆ ครั้งหนึ่ง

“ลูกค้าเชิญเถอะ รบกวนท่านชิมรสชาติของวสันต์พันวันแล้วค่อยวิจารณ์สักหน ถือว่าเป็นค่าสุราแล้วกัน!”

จี้หยวนเข้าไปดมกลิ่นสุราใกล้ๆ โต๊ะ ไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะยื่นมือไปหยิบถ้วยกระเบื้องมาชิมที่ข้างปาก กลับไม่พบรสชาติขมปร่าที่จำเป็นต้องทำความคุ้นเคย รสชาติของมันเข้มข้นและแทรกด้วยความหวานละเอียดอ่อน ฤทธิ์แรงกว่าสุราสลักบุปผาที่เคยได้ดื่มก่อนหน้านี้เล็กน้อย

หลังจากดื่มสุราปริมาณไม่มากในอึกนี้ ถึงจะมีรสขมและกลิ่นสุราพุ่งขึ้นสู่จมูก จากนั้นก็กลายเป็นรสหวานจัด หลังกลืนแล้วรสชาติหวานในปากยังคงอยู่ไม่จางหาย

ชาติก่อนจี้หยวนไม่ชอบดื่มสุรา คิดว่าสุราอะไรก็ดื่มยากทั้งนั้น คิดไม่ถึงเลยว่าชาตินี้กลับได้ลิ้มรสชาตินี้

“สุราดี ไม่แปลกที่วสันต์พันวันจะมีชื่อเสียง!”

จี้หยวนไม่ได้กล่าวชมเชยอะไรมากอีก หยิบก้อนเงินสองตำลึงออกมาจากในอกเสื้อ แล้ววางลงบนชั้นวาง

“สุรานี้ดื่มอึกเดียวไม่พอ ถึงจะกินข้าวน้อยมื้อนักก็ต้องซื้อเอาไว้สักหนึ่งชั่ง”

หลงจู๊ยิ้มกว้าง นี่เป็นคำชมที่ดีที่สุดแล้ว

“ลูกค้ารอสักครู่!”

หลังจากเก็บเงินมานับดูแล้ว เจ้าของร้านส่งขวดสุราขนาดเล็กจากชั้นวางข้างหลังให้จี้หยวน

“วสันต์พันวันหนึ่งชั่ง”

จี้หยวนรับสุรามาแล้วค่อยมองสถานการณ์ภายในร้าน คิดว่าสุรานี้จะต้องอยู่ในโรงสุราและร้านอาหารขนาดใหญ่เสียแปดส่วน และต้องมีพ่อค้ามารับสินค้าไปส่งทั่วทุกที่เป็นแน่ ร้านสวนดอกไม้น่าจะเป็นสถานที่ที่มีแววรุ่งโรจน์แห่งหนึ่ง

“นี่ หลงจู๊ สุราของพวกเจ้าแพงจนแม้แต่เทพเซียนก็ซื้อดื่มไม่ไหวเชียวล่ะ! ข้าไปแล้ว…”

จี้หยวนยิ้มพลางถอนใจ เจือนัยของความเชื่อมั่นและใฝ่ฝัน เปรียบตัวเองกับเทพเซียน ขณะถือขวดสุราก้าวออกจากประตูร้าน คนข้างนอกที่ได้ยินคำพูดนี้เข้าย่อมเห็นเป็นเรื่องล้อเล่น

หลงจู๊ยิ้มและส่ายหน้า เพราะจี้หยวนชิมสุราแล้วกัดฟันซื้อกลับไปเมื่อครู่ เขาอารมณ์ดีมากอย่างเห็นได้ชัด

ขณะกำลังเตรียมจัดการถ้วยกระเบื้อง มือขวาที่ยื่นออกไปกลับหยุดชะงัก เจ้าของร้านจึงยื่นนิ้วสัมผัสในถ้วยครั้งหนึ่ง สีหน้ายิ่งตะลึงลานกว่าเดิม

‘แห้ง?’

หรือจะเป็นจอมยุทธ์ที่ฉลาดปราดเปรื่อง

เมื่อหวนนึกถึงท่าทางดื่มสุราที่ผ่อนคลายของคนผู้นั้น และนึกถึงคำพูดก่อนจากไป หลงจู๊ก็หัวใจกระตุกวูบอย่างน่าประหลาด

เขาเงยหน้าขึ้นมองไปทันควัน เพิ่งเรียกออกไปว่า “ลูกค้า” ทว่าไหนเลยจะเห็นว่าจี้หยวนไปทางใด

…………….

[1] ยายหลิวเข้าต้ากวนหยวน หมายถึง ผู้ที่ไม่เคยเห็นโลกกว้างมาเจอโลกใหม่ที่แปลกประหลาดและงดงามลานตา

Facebook Twitter Telegram Pinterest
เซียนหมากข้ามมิติ

เซียนหมากข้ามมิติ

ChronoGo, Lan Ke Qi Yuan, Lạn Kha Kỳ Duyên, Special Destiny Of Rotten Ke, The Board of Lanke, Kismet of the Lanke Piece, Lanke Chess Edge, The Board Of Lanke, 烂柯棋缘, 난가기연
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ต้นฉบับ: 1021 Chapters (จบแล้ว)
จี้หยวน พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งไปร่วมกิจกรรมค่ายพักกลางแจ้ง ระหว่างเดินชมต้นไม้ไปเรื่อยๆ เขาพบกระดานหมากบนตอไม้กลางป่า พอจะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปกลับปลดล็อกหน้าจอไม่ได้ คิดว่าแบตหมดแล้วจึงรีบกลับไปหาแบตสำรองที่ค่าย แต่พอกลับไปถึงที่ตั้งค่าย กลับไม่มีคนในบริษัทอยู่สักคน แม้แต่เต็นท์ก็หายไปหมด.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset