📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี เซียนหมากข้ามมิติ – ตอนที่ 45

บทที่ 45 - จิ้งจอกป่าคิดถึงบ้าน
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

ความสงบในการใช้ชีวิตไม่ได้ถูกทำลายเพราะจิ้งจอกบาดเจ็บเพิ่มมาตัวหนึ่ง เลี้ยงดูในเขตเรือนสันติ ความเร็วในการฟื้นตัวของจิ้งจอกแดงว่องไวมาก

สิ่งเดียวที่ทำให้จี้หยวนวุ่นวายอยู่บ้างคือการเคี่ยวยา หลังจากอาการบาดเจ็บของจิ้งจอกตัวนี้ดีขึ้นมาก ทุกวันจะกินไก่หนึ่งตัวหรือเป็ดหนึ่งตัว

เริ่มแรกจี้หยวนยังต้มให้มันบ้าง แต่พิจารณาว่าอาจต้องปล่อยกลับสู่ธรรมชาติ ไม่อาจปล่อยให้จิ้งจอกตัวนี้ไม่มีความดุดัน ดังนั้นต่อมาจึงซื้อไก่เป็นเป็ดเป็นมาปล่อยตรงสวนด้านหลังแล้วให้จิ้งจอกจับเอง

สวนด้านหลังของเรือนสันติ ทุกวันช่วงบ่ายจะมีไก่บินจิ้งจอกกระโดด บางครั้งสำนักศึกษาหยุดเรียน เสี่ยวอิ๋นชิงก็จะมาเข้าร่วมอย่างเบิกบานยิ่ง

น่าเสียดายตามคำกล่าวว่าใต้หล้าไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกรา จี้หยวนไม่เคยมีความคิดเลี้ยงดูจิ้งจอกแดงเหมือนสัตว์เลี้ยงมาก่อน

อย่างน้อยก็เป็นจิ้งจอกวิญญาณตัวหนึ่ง ทั้งยังไม่ใช่หมาบ้านธรรมดา กลางวันและกลางคืนไม่รู้ว่ากี่ครั้ง จี้หยวนเห็นจิ้งจอกแดงทอดมองเขาโคเทพซึ่งมองเห็นได้รางๆ

จิ้งจอกซึ่งเคยชินกับความอิสระเสรีในป่าใหญ่ตัวหนึ่ง ต่อให้เรือนสันติดีแค่ไหน มีกฎเกณฑ์ข้อผูกมัดนานัปการของจี้หยวน ในใจย่อมเทียบเขาโคเทพกว้างใหญ่ไพศาลไม่ได้แน่

วันที่ยี่สิบสามเดือนสี่ ยามดึกสงัดเงียบสงบ จิ้งจอกแดงก้าวออกจากเรือนข้างมาอยู่กลางเรือนเล็ก

คืนนี้นภาค่ำกระจ่าง จิ้งจอกเดินมาถึงหน้าต้นพุทรา พุ่งตัวออกแรงปีนขึ้นต้นไม้จนมาถึงกิ่งไม้กิ่งหนึ่ง จากนั้นจึงวิ่งเหยาะตามกิ่งก้านค่อยกระโจน กระโดดลงบนหลังคาเรือนข้างอย่างคล่องแคล่วคุ้นเคย

มันนั่งอยู่บนหลังคาเงียบๆ ทอดมองภูเขาใหญ่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ หางกวัดแกว่งไปมาอยู่ด้านหลัง การนั่งครั้งนี้ไม่ขยับนานกว่าครึ่งชั่วยาม

“อยากกลับไปแล้วกระมัง”

เสียงแผ่วเบาดังขึ้นกะทันหัน จิ้งจอกแดงตกใจจนกระโดดขึ้นมา คราวนี้จึงพบว่าจี้หยวนยืนอยู่บนหลังคาไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่

“จันทร์กระจ่างดาราจาง นกกาผกผินบินสู่แดนใต้! เดิมเจ้าก็เป็นสิ่งมีชีวิตในป่าใหญ่ ไม่ต้องปิดกั้นตนอยู่ในกำแพงเมือง พรุ่งนี้ข้าจะส่งเจ้ากลับบ้านแล้วกัน!”

“หงิง…”

ครานี้จิ้งจอกแดงอาวรณ์อยู่บ้าง ไม่ใช่แค่คนแต่รวมถึงสภาพแวดล้อมการฝึกปราณของเรือนสันติด้วย ต้องรู้ว่าทุกวันยามจี้หยวนสำแดงวิวัฒน์ฟ้าดิน ภายในเวลาอันสั้นย่อมมีปราณวิญญาณรวมตัวกัน แข็งแกร่งกว่าตอนที่มันอยู่ในภูเขามาก

เห็นจิ้งจอกตัวนี้หดตัว จี้หยวนเหมือนรู้ความคิดของมันพลางยิ้มกล่าว

“คนไม่อาจโลภมาก จิ้งจอกหรืออสูรก็เช่นกัน ความอิสระของข้าจี้หยวนกับความอิสระของจิ้งจอกน้อยอย่างเจ้าแตกต่างกันมาก เปรียบเทียบกับอยู่ที่นี่ คาดว่าตอนนี้เจ้าคงมุ่งหวังอิสระกลางป่าเขามากกว่า”

จี้หยวนมองออกนานแล้ว เทียบกับอสูรซึ่งค่อนข้างมีมรรควิถีอย่างเจ้าภูเขาลู่ เห็นชัดว่าจิ้งจอกแดงตัวนี้เพิ่งตื่นรู้มีปัญญาไม่นาน ความป่าเถื่อนมากกว่าความเป็นอสูรหรือมนุษย์ ใช่ว่าเรือนเล็กหลังหนึ่งปิดกั้นได้

“มีละทิ้งมีรับมา แม้แต่ข้ายังไม่อาจราบรื่นทุกเรื่อง นับประสาอะไรกับเจ้า”

จี้หยวนกล่าวประโยคนี้จบแล้วลอยลงมาจากหลังคาดุจใบหลิว เดินเข้าห้องนอนหลับไปทั้งอย่างนั้น

วันที่สองช่วงใกล้ยามอู่ แสงแดดสาดส่อง

จี้หยวนเดินเล่นภายในเมือง มาถึงสำนักศึกษาหนิงอันซึ่งห่างจากที่ว่าการอำเภอไม่ไกล

สำนักศึกษาครอบครองพื้นที่ราวหนึ่งหมู่ โดยรอบล้อมด้วยกำแพง ภายในลานคือหอสองชั้นหลังหนึ่ง กำแพงขาวกระเบื้องดำ มีต้นไผ่มีทิวทัศน์ สภาพแวดล้อมไม่เลวนัก เห็นถึงการให้ความสำคัญของที่ว่าการอำเภอหนิงอันและเศรษฐีท้องถิ่นในอำเภอซึ่งมีต่อสำนักศึกษาด้วย

เขามาคราวนี้เพื่อรับเสี่ยวอิ๋นชิงสักหน่อย เด็กคนนี้ชอบจิ้งจอกแดงมาก แม้ว่าฝ่ายหลังรังเกียจเขานัก แต่จี้หยวนคิดว่าถ้าปล่อยจิ้งจอกกลับภูเขาควรพาเสี่ยวอิ๋นชิงไปด้วย หากอิ๋นจ้าวเซียนเห็นด้วยค่อยพาเสี่ยวอิ๋นชิงไปเที่ยวนอกเมืองสักรอบ

“กตัญญูกตเวทีมาก่อน รักใคร่ปรองดองรองมา บิดามารดาเรียกหาสั่งความ อย่ารอช้าอย่าเกียจคร้าน บิดามารดาสอนสั่งตำหนิ จงตั้งใจเชื่อฟัง…”

ห่างออกไปช่วงหนึ่ง เหล่าศิษย์น้อยประสานเสียงท่องดังเข้าหูจี้หยวนท่ามกลางเสียงเซ็งแซ่มากมาย

ที่นี่ไม่ใช่ประเทศจีนยุคโบราณซึ่งจี้หยวนรู้จักเมื่อชาติก่อน แต่ภูมิหลังวัฒนธรรมกลับคล้ายคลึงกันมาก ต่อให้ตำราวรรณกรรมบางส่วนแตกต่างกัน แต่นัยแฝงของการศึกษากลับมีความคิดเหมือนจีนโบราณ เนื้อหามีลักษณะไม่ต่างกันนัก

หน้าสำนักศึกษามีคนไม่น้อยยืนรออยู่ด้านนอกแล้ว ส่วนมากเป็นคนรับใช้ของตระกูลมั่งคั่งบางแห่ง เตรียมมารับนายน้อยตระกูลตนซึ่งพักเที่ยงกลับบ้านไปทานอาหารกลางวัน ศิษย์คนอื่นไม่กลับบ้านเองก็นำอาหารกลางวันมาด้วย

เด็กซึ่งเข้าสำนักศึกษาแห่งนี้ได้ เดิมสภาพครอบครัวไม่แย่นัก แต่สุดท้ายก็ยังมีความแตกต่าง

จี้หยวนมาตรงเวลามาก เมื่อเดินเข้ามาใกล้ เสียงอ่านหนังสือดังกังวานภายในสำนักศึกษาหยุดลงแล้ว มีศิษย์สำนักศึกษาทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง เฉียดผ่านข้างกายจี้หยวนซึ่งกำลังเดินไปทางสำนักศึกษา ศิษย์บางคนยังกระซิบเสียงเบาวิจารณ์จี้หยวนซึ่งดวงตาผิดแปลกด้วย

“ท่านจี้!”

เมื่ออิ๋นชิงซึ่งกำลังตามอิ๋นจ้าวเซียนออกมาพร้อมกันเห็นจี้หยวนก็ร้องออกมา อิ๋นจ้าวเซียนกับจี้หยวนต่างประสานมือเช่นกัน

“อาจารย์อิ๋น ข้าคนแซ่จี้ต้องการนำจิ้งจอกแดงซึ่งรักษาหายแล้วปล่อยกลับสู่ป่าใหญ่ คิดให้เสี่ยวอิ๋นชิงไปเป็นเพื่อนด้วย ครึ่งวันก็กลับ ไม่ทราบว่าอาจารย์อิ๋นคิดอ่านประการใด”

ปล่อยกลับ?

อิ๋นจ้าวเซียนเคยเจอจิ้งจอกตัวนั้นเช่นกัน มีจิตวิญญาณอย่างมาก บางครั้งยังรู้สึกว่าเป็นภูตแล้วจริงๆ เขาไม่เป็นห่วงว่าบุตรชายตามจี้หยวนออกไปแล้วจะมีปัญหาอะไร คบหาสมาคมกันมาเกือบสามเดือน บุคลิกและความสามารถลึกล้ำยากหยั่งถึงของจี้หยวนยังเชื่อถือได้ แต่เขาคนแซ่อิ๋นอยากรู้อยากเห็นอยู่บ้างโน!วลกูดoทคอม

แต่ช่วยไม่ได้ อิ๋นจ้าวเซียนเป็นถึงอาจารย์แห่งสำนักศึกษา ไม่อาจทิ้งศิษย์ออกไปตามสะดวก

“ในเมื่อท่านจี้เอ่ยปาก แน่นอนว่าไม่มีปัญหา!”

“ดียิ่งนัก!”

ยามนี้อิ๋นชิงซึ่งได้ยินว่าอิ๋นจ้าวเซียนเห็นด้วยดีใจจนเกือบกระโดดโหยง

แม้ว่าเดิมอิ๋นชิงซึ่งได้ยินคำพูดจี้หยวนตื่นเต้นอย่างยิ่ง แต่กลับอดกลั้นแสร้งว่าง่ายไม่กล้าซุกซนเกินไป ถ้าบิดาของตนกล่าวว่า ‘ไม่ได้’ ก็จบกัน

เห็นท่าทางของบุตรชายตน อิ๋นจ้าวเซียนยิ้มพลางส่ายหัว เมื่อก่อนเขามักคิดว่าอิ๋นชิงซุกซนเกินไปไม่หนักแน่นพอ ทว่าตั้งแต่ฟังจี้หยวนบอกว่าเสี่ยวอิ๋นชิงเต็มไปด้วยจิตวิญญาณสองสามครั้ง เขาก็ยกโทษให้ความกับใสซื่อไร้เดียงสาของบุตรชายแล้ว

นอกที่ว่าการอำเภอข้างสำนักศึกษา นายอำเภอหนิงอันกำลังพาบุคคลสามคนออกมาจากฝั่งที่ว่าการ ตรงประตูยังมีรถม้าคันหนึ่งจอดอยู่

นายอำเภอคือชายวัยกลางคนผอมซูบเคราสั้นคนหนึ่ง ยามนี้ไม่ได้สวมชุดขุนนาง แต่สวมชุดคลุมยาวเสริมเกี้ยวบัณฑิต ด้านหลังมีสองคนสวมชุดรัดรูปจากแพรไหม คนร่างท้วมหน่อยสวมชุดแขนกว้าง

“ข้าสั่งคนเตรียมสุราอาหารที่หอนอกศาลแล้ว เชิญขึ้นรถม้า!”

“ได้ รบกวนใต้เท้านายอำเภอแล้ว!”

“ไม่หรอกๆ!”

ยามนายอำเภอกับชายร่างท้วมคนนั้นกล่าวมากพิธี บังเอิญเห็นจี้หยวนซึ่งกำลังประสานมือกับอิ๋นจ้าวเซียนอยู่ห่างไกล

ในฐานะตัวหลักของเรื่องแปลกในอำเภอช่วงก่อนหน้านี้ นายอำเภอก็รู้จักจี้หยวน กอปรกับอีกฝ่ายอยู่เรือนสันติมานาน ทำให้ภาพจำยิ่งฝังลึก ยามนี้จึงอดมองถึงสองครั้งไม่ได้

“ใต้เท้านายอำเภอมองอะไรหรือ สองคนนี้คือ?”

ชายสวมชุดแขนกว้างร่างท้วมคนนั้นมองตามสายตาของนายอำเภอ เห็นเหตุการณ์นอกสำนักศึกษาซึ่งอยู่ห่างไปไม่ไกล

“อ้อ ไม่มีอะไร ผู้สวมชุดขาวประดับเกี้ยวบัณฑิตคนนั้นคืออาจารย์อิ๋นแห่งสำนักศึกษาประจำอำเภอ ค่อนข้างมีความรู้ ผู้สวมชุดเขียวคือยอดบุคคลสง่างามผู้หนึ่งของอำเภอนี้”

ชายร่างท้วมหันมองนายอำเภอ

“ยอดบุคคล?”

นายอำเภอพยักหน้ากล่าว

“ยอดบุคคล!”

ไม่นานนายอำเภอยิ้มพลางลูบเครา อธิบายเรื่องจิ้งจอกแดงกราบคนให้ชายสวมชุดแขนกว้างฟังง่ายๆ ทั้งสามคนฟังจนรู้สึกสนใจอยู่บ้าง

“จิ้งจอกแดงกราบคนขอความช่วยเหลือ หมาบ้าฟังแล้วยอมถอย? มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ!”

“ฮ่าๆๆ ข่าวลือร้านตลาด จริงหรือเท็จย่อมต้องมีคำกล่าวเกินจริง ในเมื่อใต้เท้านายอำเภอยอมบอกเล่า จี้หยวนคนผู้นี้ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่”

ยามทั้งสองคนพูดคุยพลันเห็นว่าทางเข้าสำนักศึกษาที่ห่างไปไม่ไกล จี้หยวนหันหน้ามาทางพวกเขา แต่แค่ปราดเดียวก็เคลื่อนสายตาพาอิ๋นชิงจากไป

นายอำเภออึ้งไปราวหนึ่งลมหายใจ จากนั้นค่อยนึกถึงว่ายังมีงานหลัก

“เชิญผู้นำตระกูลเว่ย พวกเราไปหอนอกศาลกัน!”

“เอ่อ ได้ เชิญใต้เท้านายอำเภอก่อน!”

Facebook Twitter Telegram Pinterest
เซียนหมากข้ามมิติ

เซียนหมากข้ามมิติ

ChronoGo, Lan Ke Qi Yuan, Lạn Kha Kỳ Duyên, Special Destiny Of Rotten Ke, The Board of Lanke, Kismet of the Lanke Piece, Lanke Chess Edge, The Board Of Lanke, 烂柯棋缘, 난가기연
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ต้นฉบับ: 1021 Chapters (จบแล้ว)
จี้หยวน พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งไปร่วมกิจกรรมค่ายพักกลางแจ้ง ระหว่างเดินชมต้นไม้ไปเรื่อยๆ เขาพบกระดานหมากบนตอไม้กลางป่า พอจะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปกลับปลดล็อกหน้าจอไม่ได้ คิดว่าแบตหมดแล้วจึงรีบกลับไปหาแบตสำรองที่ค่าย แต่พอกลับไปถึงที่ตั้งค่าย กลับไม่มีคนในบริษัทอยู่สักคน แม้แต่เต็นท์ก็หายไปหมด.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset