📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี เซียนหมากข้ามมิติ – ตอนที่ 36

บทที่ 36 - วิวัฒน์ฟ้าดิน
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

เนื่องจากอ่อนเพลีย จี้หยวนพิงโต๊ะหินหลับไปโดยไม่รู้ตัว ระหว่างพักผ่อนร่างกายราวต้นไม้แผ่กิ่งก้านในฤดูใบไม้ผลิ กระดูกเส้นลมปราณอวัยวะตันห้ากลวงหก[1]ล้วนเหยียดขยาย ปราณวิญญาณที่เกินความจำเป็นกระจายออกจากตัวเหมือนกลุ่มควัน ทำให้จี้หยวนกลับสู่ความผ่อนคลาย

“ท่านจี้ ข้านำตำรามาส่งให้ท่านแล้ว!”

เสียงแผ่วเบาดังมาจากนอกเรือน จี้หยวนซึ่งกึ่งหลับกึ่งตื่นหรี่ตามองไปทางประตูเรือน

“ผู้ลาดตระเวนหลิวใช่หรือไม่ เชิญเข้ามา ข้าเหนื่อยล้าอยู่บ้าง ขอไม่ออกไปเปิดประตู”

ถึงอย่างไรก็เป็นผี เดินเข้ามาเลยก็ได้ ทั้งจี้หยวนยังคิดว่าตนสนิทสนมกับ ‘เหล่าหลิว’ แล้วด้วย

นอกเรือนผู้ลาดตระเวนสองคนกับยมทูตดำกางร่มใหญ่สีดำสี่คนมองกันไปมา จากนั้นจึงชะลอก้าวย่างผ่านประตูเรือนสันติ ใต้เท้าหลักเมืองออกคำสั่งด้วยตัวเอง ยมทูตดำอำเภอนี้ห้ามรบกวนความเงียบสงบของเรือนสันติ ทั้งต้องเคารพนบนอบต่อเจ้าของเรือนด้วย

จี้หยวนนั่งมองยมทูตกลุ่มนี้เข้ามาในเรือนเล็ก มาเยอะขนาดนี้เชียว!

จี้หยวนมองดวงอาทิตย์บนฟ้า ผู้ลาดตระเวนสองคนน่าจะมีความสามารถตามตำแหน่งของตนอยู่บ้าง คนอื่นคงต้องอยู่ภายใต้ร่มใหญ่คันนั้นกระมัง

ยมทูตดำสี่คนด้านหลังภายใต้ร่มแบกหีบไม้ไผ่ตามพวกเขาเข้ามา เห็นชัดว่าในเรือนเล็กอึมครึมลงมาก

“ท่านจี้ นี่คือตำราที่ใต้เท้าหลักเมืองสั่งให้พวกเรานำมา ท่านว่าวางตรงไหนจึงเหมาะสม”

จี้หยวนอดรนทนไม่ไหวอยู่บ้าง ชี้ไปข้างโต๊ะหินพลางกล่าว

“วางตรงนี้เถอะ”

แต่หีบหนังสือกับตำราพวกนี้ล้วนทะลุผ่านประตูตามพวกยมทูตเข้ามา ใช่ว่าไม่มีแก่นสารกระมัง

ยังดีที่ความจริงพิสูจน์ว่าจี้หยวนกังวลมากไป ยมทูตดำสี่คนวางหีบหนังสือซึ่งแบกอยู่ลง ผู้ลาดตระเวนสองคนยื่นมือหยิบหีบหนังสือวางข้างโต๊ะภายใต้ร่มเบาๆ

จี้หยวนได้ยินเสียงสัมผัสพื้นยามวางหีบหนังสือ แน่นอนว่าเป็นเสียงของจริง คิดว่าเมื่อครู่คงเป็นวิชาผีย้ายของอย่างที่เล่าลือในชาติก่อน

“ท่านจี้ ส่งตำราแล้ว พวกเราขอลา!”

“เอ่อ ได้ ขอบคุณทุกท่าน!”

จี้หยวนดึงความสนใจกลับมาจากหนังสือ ประสานมือไปทางพวกยมทูตดำตามธรรมเนียม แน่นอนว่าอีกฝ่ายคารวะตอบโดยไม่กล้าละเลย จากนั้นค่อยทะลุผ่านประตูออกไป

ถึงอย่างไรก็เป็นผี ต่อให้เป็นคนจี้หยวนก็ไม่คิดจะรั้งตัวตามพิธีรีตอง

รอจนยมทูตดำทั้งหมดจากไปแล้ว จี้หยวนผ่อนคลายลงพลางมองหนังสือสี่หีบนั่น เดินไปยกหีบหนังสือหนึ่งในนั้นมาวางบนโต๊ะหินทันที

เมื่ออยู่ในมือค่อนข้างหนัก แต่จี้หยวนรู้สึกเหมือนหนักไม่พอ หีบตำราไผ่ใหญ่ขนาดนี้ถ้าบรรจุตำราจนเต็มควรหนักมากถึงจะถูก

เมื่อเปิดหีบหนังสือออก ในสายตาพร่ามัวมองไม่เห็นตำรากองพะเนินอย่างที่คิด แต่เป็นของที่ดูเหมือนทรงกระบอกบางส่วน

พอยื่นมือสัมผัสในใจพลันเกิดมโนทัศน์

‘ม้วนไม้ไผ่!’

จี้หยวนหยิบม้วนไม้ไผ่เล่มหนึ่งในนั้นออกมาชั่งน้ำหนักบนมือ จากนั้นค่อยเปิดออกช้าๆ

‘เทพหลักเมืองมีน้ำใจนัก!’

ม้วนไม้ไผ่พวกนี้ต่างจากตำราซึ่งใช้พู่กันเขียนอักษรทั่วไป ตัวอักษรบนนั้นทั้งหมดล้วนแกะสลักออกมา นิ้วมือจี้หยวนลูบผ่านม้วนไม้ไผ่เบาๆ ‘อ่าน’ เนื้อหาบนนั้นออกอย่างเป็นธรรมชาติมาก

ไม่ว่าเทพหลักเมืองตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ จี้หยวนล้วนรับน้ำใจ

‘ดูท่าว่าไม่ต้องหาคนมาช่วยโดยเฉพาะแล้ว!’

เวลาล่วงมาถึงยามดึก แต่จี้หยวนกลับไม่ง่วงนอนแม้แต่น้อย

ในฐานะที่เป็นผู้ซึ่งการมองเห็นตอนกลางวันกับกลางคืนไม่ต่างกันคนหนึ่ง แน่นอนว่าไม่ต้องจุดเทียนไข ตั้งแต่ช่วงบ่ายถึงตอนนี้ จี้หยวน ‘อ่าน’ หนังสืออยู่กลางลานตลอด

บ้างถือม้วนไม้ไผ่ บ้างวางม้วนไม้ไผ่แผ่บนโต๊ะหิน ใช้นิ้วชี้ลูบผ่านทุกตัวอักษรโดยละเอียด

ตัวอักษรที่แกะสลักบนม้วนไม้ไผ่เล็กและละเอียดมาก สิ่งนี้ทำให้ทุกม้วนไม้ไผ่รองรับตัวอักษรได้ไม่น้อย จี้หยวนอ่านอย่างละเอียดและเนิบช้านัก

เนื้อหาภายในนั้นคือเขตแดนที่จี้หยวนไม่เคยสัมผัส เป็นเนื้อหาซึ่งทำให้ชายหนุ่มจากยุคเปี่ยมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีคนหนึ่งจดจ่อนัก

ความจริงตอนนี้จี้หยวนตื่นเต้นจนไม่เป็นตัวเองแล้ว

‘เราแม่งอัจฉริยะจริงๆ ไม่นึกเลยว่าจะฉลาดขนาดนี้!!’

จี้หยวนพบว่าตนเข้าใจคำพูดลึกลับยากหยั่งถึงพวกนั้นทั้งหมด

ยามดูดซับปราณวิญญาณเขียวเข้าไปไหลวนในกายไม่กี่ครั้งก่อน สิ่งที่เรียกว่าจุดเส้นลมปราณจี้หยวนล้วนสัมผัสถึงอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง เรื่องไม่อาจระบุก็มีแค่ชื่อเรียกกับความเข้าใจต่อจุดเส้นลมปราณพวกนี้ แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนเรียนรู้ได้จากตำรา

จี้หยวนอ่านช้ามาก ไม่อยากเข้าใจความหมายผิดสักจุด เมื่ออ่านถึงช่วงหน้าสุดท้ายก็จะพลิกกลับมาทำความเข้าใจร่วมกับหน้าแรกอย่างต่อเนื่อง

หยินหยางห้าธาตุ แปดทิศหกประสาน สัมผัสรู้ถึงความปราดเปรื่องของภูผาธาราวารีสรรพสิ่ง ชักนำปราณวิญญาณแห่งฟ้าดิน ชะล้างตัวตนฝึกการบำเพ็ญเพียร!

ตำราในมือจี้หยวนคือวิชากำหนดปราณเล่มหนึ่ง ตั้งชื่อธรรมดามาก ทั้งเป็นตำราดาษดื่นทั่วไปจริงๆ สำหรับโลกผู้บำเพ็ญถือเป็นวิชาฝึกพื้นฐานธรรมดา แบบเดียวกันยังมีไม่น้อย ทั้งมีตำราชั้นสูงเฉพาะเจาะจงรายละเอียดเรื่องหยินหยางกับห้าธาตุด้วย

แต่สำหรับคนทั่วไปรวมถึงผู้ทรงอำนาจบนโลก ยังคงเป็นตำราสวรรค์อัศจรรย์ซึ่งไม่อาจเอื้อมถึง

สำหรับจี้หยวนสิ่งนี้ก็เป็นสมบัติล้ำค่ายิ่ง ถือเป็นตำราบุกเบิกสู่การฝึกปราณของเขา!

ในเมื่อมาถึงโลกใบนี้แล้ว ใครไม่อยากโดดเด่นไม่เหมือนใครบ้าง ใครไม่อยากอายุยืนเป็นอมตะเล่า

‘ที่แท้ครั้งแรกที่เห็นภาพทิวทัศน์ในกายตรงโรงเตี๊ยมไม่ใช่เพราะเราพิเศษเกินไป แต่ผู้ชักนำปราณวิญญาณครั้งแรกมีโอกาสเห็นลักษณ์ประหลาด’

แต่ละคนเห็นภาพภายในกายต่างกันไป เช่นมีคนเห็นเส้นปราณดุจสายน้ำ บ้างเห็นเป็นเปลวไฟลุกโชน สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติและสภาวะจิตของตน

ผู้เห็นลักษณ์ประหลาดในตัวเช่นนี้มีไม่มาก บ้างถูกอาจารย์ประเมินสูงว่ามีความหวังมากกว่าอยู่บ่อยครั้ง แม้ว่าไม่แน่นอน แต่ความสำเร็จของคนประเภทนี้มักจะมีความหวังมากกว่า

‘เราเป็นอัจฉริยะดังคาด!’

จี้หยวนอ่านถึงตรงนี้แล้วเผยรอยยิ้มอย่างอดไม่ได้ จากนั้นค่อยเก็บรอยยิ้มกลับหลังผ่านไปไม่กี่วินาที ด้วยตำราบอกว่าลักษณ์ประหลาดที่เห็นยิ่งบริสุทธิ์ยิ่งดี เห็นหิมะขาวเรืองรองหรือเปลวไฟลุกโชนล้วนดียิ่ง ยิ่งเห็นซับซ้อนยิ่งไม่เข้าที

เขาครุ่นคิดครู่หนึ่ง เหมือนว่าตนเห็นความงามของทิวทัศน์ฟ้าดิน ซับซ้อนจนไร้สิ้นสุดแล้วกระมัง…

ช่างเถอะๆ ไม่ไปคิดเรื่องพวกนี้แล้ว!

ค้นคว้าวิชากำหนดปราณถึงยามวิกาล จี้หยวนพอจะเข้าใจเนื้อหาวิชากำหนดปราณอย่างลึกซึ้งแล้ว ภายในหีบตำราสองสามหีบนอกจากมี ‘สรุปวิชา’ รวบยอดวิชาทั่วไปกับบันทึกวิชาเล็กน้อยบางส่วนแล้ว ก็ไม่มีตำราการบำเพ็ญเพียรอีก ม้วนไม้ไผ่ส่วนที่เหลือคือตำราลับวิชายุทธ์กับตำราหมากบางส่วน

“ลองดูเถอะ!”

จี้หยวนกล่าวเสียงเบากับตัวเองประโยคหนึ่ง นั่งตัวตรงบนม้านั่งหินก่อนผ่อนคลายกายใจ

นอกกายคือโลกกว้างใหญ่ ภายในกายคือโลกใบเล็ก ทุกจุดเส้นปราณย่อยถึงแต่ละอวัยวะภายในกายล้วนสอดคล้องกับนัยเร้นลับหยินหยางห้าธาตุดาราทั่วหล้ากลางฟ้าดิน สิ่งที่เรียกว่าการฝึกปราณก็คือการหยั่งรู้ฟ้าดินกว้างใหญ่ไพศาล ครองมหามรรคพลังฟ้าดิน

จี้หยวนหายใจแผ่วเบาเนิบช้า ลมหายใจผ่านทรวงอกลงสู่ท้อง ยามม้วนตัวภายในกายและแผ่ขยายไปทั่วร่าง ความรู้สึกนึกคิดเลือนราง คล้ายตามลมหายใจหมุนวนอยู่ในกาย ทั้งเหมือนตามลมหายใจออกนอกกาย แผ่กระจายรอบตัวทั่วรัศมีฟ้าดินกว้างใหญ่ อาศัยสิ่งนี้มาสัมผัสปราณวิญญาณกลางฟ้าดิน

วิชาลับกำหนดปราณ… วิวัฒน์ฟ้าดิน!

ไม่สนใจว่าฝึกปราณด้วยวิชาประเภทไหน ไม่สนใจว่าอยู่แดนอัศจรรย์จวนเซียนหรือในป่าเขาธรรมดา หรือพวกมุ่งหวังความอายุยืนเป็นอมตะ มีคนมากน้อยเท่าไหร่ติดอยู่ด่านแรกนี้!

แต่จี้หยวนกลับเข้าสู่ยอดขอบเขตโดยไม่รู้ตัว ไม่รู้สึกว่าด่านนี้ยากลำบากแม้แต่น้อย

จี้หยวนคิดว่าความรู้สึกตอนนี้อันที่จริงอัศจรรย์ใกล้เคียงยามชักนำปราณวิญญาณเข้าตัวครั้งแรกมาก แค่ตอนนั้นร่างกายกับฟ้าดินกว้างใหญ่ไร้สิ้นสุดคือภาพในตัว แต่การแผ่จิตรับรู้ตอนนี้คือการวิวัฒน์ภาพจริง

คล้ายมีคล้ายไม่มี อีกทั้งราวกับดำรงอยู่ทุกแห่งหน สิ่งที่เรียกว่าปราณวิญญาณมีสภาพล่องลอยกลางฟ้าดิน เป็นสิ่งที่ถูกจี้หยวนมองเห็นได้

ก็เหมือนความคิดกลายเป็นแม่เหล็กแผ่นหนึ่ง ปราณวิญญาณน้อยนิดกระจัดกระจายถูกดูดมารวมกัน สุดท้ายจึงห้อมล้อมอยู่ข้างกายจี้หยวน ซึมจากผิวหนังรอบตัวเข้าสู่ร่างกาย

ไม่ชาหนึบและไม่ปวดแสบ คล้ายฝนฤดูใบไม้ผลิตกลงสู่พื้นดิน โปรยปรายลงมายามจำเป็น ทำให้จี้หยวนมีแค่ความรู้สึกผ่อนคลายและสดชื่น

ภายในกายไม่ดึงดูดปราณมากเหมือนก่อนหน้านี้ แต่ผ่อนคลายผิดปกติและสอดคล้องกันผิดธรรมดา ถึงขั้นบริสุทธิ์ขึ้นด้วย จี้หยวนแอบรู้สึกว่าตอนนี้ต่างหากที่เป็นหนทางถูกต้องของการดูดซับปราณวิญญาณ!

แต่วิธีควบคุมซึ่งจี้หยวนตั้งเองกลับทำให้จี้หยวนยกระดับความมั่นใจเรื่องประสิทธิภาพการฝึกปราณ

[1] อวัยวะตันห้า ได้แก่ ตับ หัวใจ ม้าม ปอด ไต จัดว่าเป็นหยิน มีหน้าที่สร้างและเก็บสารจำเป็น แต่ไม่ทำหน้าที่กำจัด สะสมสารจำเป็นของชีวิตและควบคุมการไหลเวียนของพลังลมปราณและเลือด อวัยวะกลวงทั้งหก ได้แก่ ถุงน้ำดี ลำไส้เล็ก กระเพาะอาหาร ลำไส้ใหญ่ กระเพาะปัสสาวะ ซานเจียว จัดว่าเป็นหยาง ทำหน้าที่เกี่ยวกับการย่อย ดูดซึม และขับถ่าย

Facebook Twitter Telegram Pinterest
เซียนหมากข้ามมิติ

เซียนหมากข้ามมิติ

ChronoGo, Lan Ke Qi Yuan, Lạn Kha Kỳ Duyên, Special Destiny Of Rotten Ke, The Board of Lanke, Kismet of the Lanke Piece, Lanke Chess Edge, The Board Of Lanke, 烂柯棋缘, 난가기연
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ต้นฉบับ: 1021 Chapters (จบแล้ว)
จี้หยวน พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งไปร่วมกิจกรรมค่ายพักกลางแจ้ง ระหว่างเดินชมต้นไม้ไปเรื่อยๆ เขาพบกระดานหมากบนตอไม้กลางป่า พอจะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปกลับปลดล็อกหน้าจอไม่ได้ คิดว่าแบตหมดแล้วจึงรีบกลับไปหาแบตสำรองที่ค่าย แต่พอกลับไปถึงที่ตั้งค่าย กลับไม่มีคนในบริษัทอยู่สักคน แม้แต่เต็นท์ก็หายไปหมด.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset