📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี บันทึกตำนานราชันอหังการ – ตอนที่ 550

บทที่ 550 - พายุก่อตัวอย่างรวดเร็ว
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

บนเชิงเขาจากที่ไกล ๆ มีร่างร่างหนึ่งปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน รอบกายมีแสงเรืองราง ๆ

ตูม!

หมอกสีเลือดระเบิดก่อนปกคลุมไปทั่วเชิงเขาในระยะสิบจั้ง ทั้งก้อนหิน ต้นไม้และใบหญ้าล้วนถูกกัดกร่อนจนเสียหายอย่างมาก

สายตาของซูอี้และคนอื่น ๆ จับจ้องไปยังร่างนั้นในทันที

เป็นชายหนุ่มคนหนึ่งสวมชุดขนสัตว์สีดำ ผิวขาวประดุจหยก ใบหน้าเย็นเฉียบราวกับหิน

รูปร่างของเขาแข็งแกร่งมาก กลิ่นอายดุดันและเย็นชา ในมือถือธนูคันใหญ่ที่ทำมาจากกระดูกสัตว์และกระดูกคนครึ่งหนึ่ง ตรงเอวห้อยซองธนูที่ทำจากหนังสัตว์เอาไว้

ดวงตาของเขาเป็นประกายสีน้ำตาลอมเทาอ่อน ๆ และยามที่จดจ้องมาช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่ง!

“เฟิงจื่อตู!”

เหวินซินจ้าวและคนอื่น ๆ จำตัวตนของชายหนุ่มในชุดขนสัตว์ได้ในทันที

เฟิงจื่อตูเป็นบุคคลชั้นนำอันดับต้น ๆ ในหมู่ตัวตนยุคโบราณ และติดอันดับที่หกของชุมนุมมวลพฤกษา

ว่ากันว่าเขาเป็นทายาทของตระกูลเฟิงซึ่งเป็นตระกูลผู้ฝึกฝนปีศาจเมื่อสามหมื่นปีก่อน และมีสายเลือดของ ‘นกกระจอกทะยานสวรรค์’ ที่ไม่มีผู้ใดเทียบเทียมได้

ส่วนบรรพบุรุษของเขาคือ ‘จักรพรรดิโลหิตทะยานสวรรค์’ ซึ่งมีชื่อเสียงไปทั่วโลกเมื่อสามหมื่นปีก่อน และเป็นที่รู้จักกันในเรื่องความว่องไวและการลอบสังหาร

เฟิงจื่อตูกะพริบตา มองซูอี้จากระยะไกล “ข้าไม่คาดคิดเลยว่าจิตสัมผัสของเจ้าจะแข็งแกร่งจนสามารถจับ ‘ศรโลหิตไร้ร่องรอย’ ได้ หรือเจ้าก็เป็นผู้ฝึกจิตวิญญาณ?”

น้ำเสียงของเขามีความประหลาดใจ

ศรโลหิตไร้ร่องรอยเป็นหนึ่งในไพ่ตายของเขา ซึ่งทำจากเขี้ยวพิษของสัตว์ร้ายโบราณอย่าง ‘อสรพิษเงียบงัน’

ตอนที่มันพุ่งออกไป จะไร้เสียง ไร้กลิ่นอาย ไร้สี ไร้การเผชิญหน้า และป้องกันได้ยากที่สุด

ในจังหวะที่โจมตีอย่างกะทันหัน มันสามารถสังหารผู้ฝึกตนขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณได้อย่างง่ายดาย!

เฟิงจื่อตูคิดว่า แม้ซูอี้จะสามารถสกัดการโจมตีนี้ได้ ก็ต้องได้รับบาดเจ็บอยู่ดี แต่กลับคาดไม่ถึงเลยว่าซูอี้จะสามารถจับกลิ่นอายของศรโลหิตไร้ร่องรอยได้!

ซูอี้คร้านเกินกว่าจะพูดเรื่องไร้สาระ เขายื่นมือออกมาเป็นปราณดาบ แล้วฟันออกไป

ฟึ่บ!

ปราณดาบสีใสพุ่งไปในอากาศแล้วหายไป

ณ เชิงเขาจากที่ไกล ๆ เปลือกตาของเฟิงจื่อตูกระตุก ก่อนร่างที่เหมือนกับสายฟ้าสีดำจะหลบไปอีกด้านหนึ่ง

ตูม!

บริเวณที่เขาเคยยืนอยู่เกิดเหวลึกขึ้น ทำให้เจ้าตัวตื่นตกใจเป็นอย่างยิ่ง!

ไม่รอให้เฟิงจื่อตูยืนดี ๆ ปราณดาบอีกเส้นก็พุ่งเข้าหาด้วยความเร็วไม่น่าเชื่อ ความคมกริบไร้สิ่งใดเปรียบทำผิวกายลุกชัน รูม่านตาหดแคบลงทันที

วืด!

เฟิงจื่อตูหลบอีกครั้ง

ปราณดาบเฉียดผ่านหูไป ตัดเส้นผมออกเป็นปอย ๆ และยามที่มันฟันยอดเขาที่อยู่ด้านหลัง หินผาขนาดใหญ่ก็ถูกตัดขาดราวกับเต้าหู้

เฟิงจื่อตูตกตะลึง แผ่นหลังเย็นเฉียบ ระดับวิถีดาบของชายคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว!

“ที่แท้ก็เป็นสายเลือดที่มีความเกี่ยวข้องกับวิถีแห่งเงาลม…”

เมื่อเห็นว่าเฟิงจื่อตูหลบเลี่ยงที่จะถูกสังหารทางอากาศ ซูอี้ก็แปลกใจเล็กน้อย

แค่มองก็รู้ได้ในทันทีว่าสิ่งที่เฟิงจื่อตูเชี่ยวชาญคือ ‘วิถีแห่งเงาลม’ ซึ่งเกิดขึ้นจากการผสมผสานระหว่างจังหวะวิถีแห่งลมกับจังหวะวิถีแห่งเงา

นี่คือจังหวะวิถีพิเศษชนิดหนึ่งที่มีความเกี่ยวข้องกับความว่องไว!

เมื่อรวมจังหวะเช่นนี้เข้ากับการเคลื่อนไหวลึกลับบางอย่าง ก็สามารถทำให้ความว่องไวของผู้ฝึกตนไปถึงระดับที่น่าเหลือเชื่อได้!

“ซูอี้ ข้าไม่ต้องการเป็นศัตรูกับเจ้าหรอกนะ แต่ก่อนที่จะลงมือแค่อยากเตือนให้พวกเจ้ารู้สักหน่อย ว่าตัวข้าเฟิงจื่อตูเป็นคนแรกที่ค้นพบสถานที่แห่งนี้”

เฟิงจื่อตูถือธนูกระดูกในมือ ยืนบนก้อนหินและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “หากพวกเจ้าออกไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ ข้าจะถือว่าเมื่อสักครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่เช่นนั้น…”

แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ ซูอี้ก็ขัดเสียก่อน “ก็แค่ต่อสู้เพื่อแย่งชิงโอกาสเท่านั้น ไฉนถึงต้องพูดจาไร้สาระด้วย?”

“เหอะ!”

เฟิงจื่อตูยิ้มเยาะ ดวงตาสีน้ำตาลอมเทาของเขาประกายจิตสังหาร

เขาหยิบลูกธนูสีดำอันเล็กขนาดเจ็ดชุ่นขึ้นมา ง้างธนูกระดูกคันใหญ่ขึ้นแล้วยิงออกไปอย่างแรง

ฉึก!

ลูกธนูสีดำอันเล็ก หายไปในอากาศอันบางเบา ไร้สุ้มเสียง

ซูอี้ไม่แม้แต่จะมองดู แล้วยื่นมือไปคว้ามันไว้

ในอากาศเกิดความปั่นป่วนอย่างรุนแรง มันห่างจากร่างของเหวินซินจ้าวไปเพียงสามชุ่นเท่านั้น แล้วลูกธนูสีดำอันเล็กขนาดเจ็ดชุ่นก็ถูกฝ่ามือของซูอี้จับไว้แน่น

ฉากนี้ทำให้แผ่นหลังของเหวินซินจ้าวเย็นวาบ

แม้ก่อนหน้านี้นางจะเตรียมตัวมาพอแล้ว แต่คาดไม่ถึงว่าลูกธนูดอกนี้จะพุ่งเข้าใส่นางแทน!

กระทั่งซูอี้ยื่นมือออกมา นางถึงสัมผัสกลิ่นอายอันตรายถึงตายโดยสัญชาตญาณได้

และในตอนที่นางกำลังจะสกัดไว้ ศรโลหิตไร้ร่องรอยก็ถูกซูอี้ปราบลงด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว!

ผ่านไปไม่ถึงพริบตา แต่อันตรายที่ซ่อนอยู่ในนั้นเรียกได้ว่าชวนสั่นผวา

เยว่ซือฉานและเก๋อเฉียนที่เห็นฉากนี้ก็อดใจเต้นถี่ไม่ได้ ศรโลหิตไร้ร่องรอยแปลกประหลาดและอันตรายอย่างไม่ต้องสงสัย!

หากครั้งนี้ไม่มีซูอี้อยู่ด้วย ด้วยความสามารถของพวกเขาแล้วเกรงว่าคงทำได้เพียงหลบความแหลมคมของมันเท่านั้น และไม่สามารถเผชิญหน้าตรง ๆ ได้

ฝ่ายตรงข้ามเป็นเหมือนดั่งมือสังหารลอบเร้นที่ไม่คิดเผชิญหน้าด้วยเลย ทว่าเพียงแค่ใช้ลูกธนูและความว่องไวของมันก็สามารถทำให้เกิดอันตรายถึงตายได้

“หึ!”

เฟิงจื่อตูที่อยู่ไกล ๆ พ่นลมหายใจเย้ยหยัน แววตาเป็นประกาย เขาหยิบศรโลหิตไร้ร่องรอยเก้าดอกขึ้นมาแล้วยิงออกไปในคราวเดียวโนlวลกูดอทคoม

ฉึก! ฉึก! ฉึก! ฉึก!

ศรโลหิตไร้ร่องรอยเก้าดอกหายไปในอากาศ

หากเป็นผู้ฝึกตนคนอื่นคงหลบไปตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะจับวิถีและกลิ่นอายต่าง ๆ ของลูกธนูทั้งเก้าดอกนี้ได้

แต่จากจิตสัมผัสของซูอี้ ร่องรอยของลูกธนูทั้งเก้านี้มองเห็นได้ชัดเจน!

ลูกธนูแปดดอกถูกแบ่งออกเป็นดอกละสี่คู่ โดยยิงใส่เหวินซินจ้าว เยว่ซือฉาน และเก๋อเฉียน

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ แต่ละคนจะโดนศรโลหิตไร้ร่องรอยสองดอก!

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือวิถีของลูกธนูแต่ละดอกไม่เหมือนกัน บ้างก็ตรง บ้างก็วงกลม บ้างก็วาดขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วตกลงมา บางอันก็เหมือนนกนางแอ่นช้อนน้ำที่พุ่งเข้าใกล้พื้นแล้วเสยขึ้นฟ้า

และดอกสุดท้ายถูกยิงไปทางบงกชเพลิงของสองเทพผู้ขับไล่โรคภัยที่อยู่ตรงกลางสระบัว

ลูกธนูทั้งเก้านั้นรวดเร็วมาก มีวิถีที่แตกต่างกัน ทำให้ไม่มีโอกาสได้คิดสักนิด

การโจมตีครั้งนี้ไร้ปรานีถึงตาย!

ทว่าเขากลับเห็นแขนเสื้อของซูอี้สะบัด แล้วพุ่งไปในอากาศทันที

ตูม!

ม่านดาบที่เหมือนกับสายน้ำพุ่งออกมา

ปัง! ปัง! ปัง!

ทันทีที่ศรโลหิตไร้ร่องรอยสามดอกถูกม่านดาบขวางเอาไว้ เสียงระเบิดก็ดังขึ้น ก่อนตามมาด้วยแสงสาดส่อง

เมื่อมองไปที่ซูอี้อีกครั้ง เขาก็ขึ้นไปในอากาศแล้ว ก่อนฝ่ามือจะชี้ ฟัน แทง และผ่า ทุก ๆ การโจมตี จากนั้นศรโลหิตไร้ร่องรอยถึงระเบิด

เพียงชั่วพริบตาที่ซูอี้ลงมือราวกับสายฟ้า และศรโลหิตไร้ร่องรอยทั้งเก้าดอกก็ถูกจัดการไปในคราวเดียว!

หลังจากนั้น แขนเสื้อของเขาก็โบกสะบัดอย่างรุนแรง

ตูม!

พายุแห่งพลังอันน่าสะพรึงกลัวได้พัดผ่านไป

หลังจากที่ศรโลหิตไร้ร่องรอยทั้งหมดระเบิด หมอกสีเลือดที่ปกคลุมท้องฟ้าก็ถูกกวาดออกไปด้วย

เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในชั่วเวลาพริบตาเดียว!

ฉากนั้นทำเหวินซินจ้าวและคนอื่น ๆ ตื่นตระหนก ตกใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ในตอนนั้นเองเฟิงจื่อตูที่ยืนอยู่ไกล ๆ ตะโกนออกมาว่า “ลงมือ!”

เสียงยังคงก้องกังวาน

ตูม!

บริเวณใกล้กับสระบัว มีชั้นน้ำแข็งแผ่นหนาที่อยู่ใกล้กับร่างซูอี้ระเบิดออก เศษน้ำแข็งกระจายไปในอากาศ หอกแหลมคมไร้สิ่งใดเปรียบแทงออกไปในทันที

การลอบสังหารนี้สามารถบรรยายได้ด้วยสามคำ นั่นคือ ‘เร็ว’ ‘แม่นยำ’ และ ‘อำมหิต’!

ในตอนที่เหวินซินจ้าวและคนอื่น ๆ สังเกตเห็น หอกก็แทงเข้าไปในร่างกายของซูอี้เสียแล้ว

หัวใจของคนทั้งสามบีบรัด สีหน้าเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

“ศิษย์พี่ซู!”

“ศิษย์พี่ซู!”

“คุณชายซู!”

ฉากนี้เกิดขึ้นเร็วเกินไป ใครจะคิดว่าชั้นน้ำแข็งในสระบัวแห่งนี้…

ข้างใต้จะมีคู่ต่อสู้ที่ร้ายกาจและน่าสะพรึงกลัวซ่อนตัวอยู่?

“จะเรียกหาอะไรดังขนาดนั้นเล่า ข้ายังไม่ตายเสียหน่อย”

ไม่รอเหวินซินจ้าวและคนอื่น ๆ ได้ตอบสนอง น้ำเสียงที่เฉยเมยอันคุ้นเคยก็ดังขึ้น

ในครรลองสายตาที่พวกเขาเห็น ร่างของซูอี้ที่ถูกหอกแทงเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น ไม่ใช่ร่างจริงของเขา

ซูอี้ในตอนนี้ยืนอยู่บนพื้นดินห่างออกไปจากจุดเดิม และเมื่อชั้นน้ำแข็งได้แตกออกแล้ว เขาพลันคว้าหอกที่พุ่งมาแทงด้วยมือข้างเดียวก่อนดึงออกมา

ตูม!

ร่างร่างหนึ่งพร้อมกับหอกถูกดึงออกมาสุดแรง

เป็นชายชุดดำรูปร่างผอมสูง ทันทีที่ตัวเขาถูกดึงขึ้นมาก็ทิ้งหอกในมือทันที และหันหลังเตรียมหนี

ทว่าคอกลับเจ็บแปลบขึ้นมากะทันหัน เป็นเพราะถูกฝ่ามือใหญ่กดไว้แน่น ก่อนพลังอันน่าสะพรึงกลัวจะปล่อยออกมาจากฝ่ามือคู่นั้นกักขังร่างเขาไว้ในทันที

ชายชุดดำอ่อนแอมาก แม้กระทั่งนิ้วก็ยังยกไม่ขึ้น สิ่งนี้ทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ตกใจกลัวสุดขีดจนวิญญาณเกือบหลุดออกจากร่าง

“ช่วยข้าด้วย!” ชายชุดดำตะโกนสุดเสียง

ทว่าเขากลับเห็นซูอี้หมุนหอกในมือขวา แล้วหอกก็แทงกลับเข้าไปในชั้นน้ำแข็งอย่างรุนแรง!

ตูม!

ชั้นน้ำแข็งระเบิด เศษเล็กเศษน้อยกระเด็นดั่งฝนธนู

ภายใต้ชั้นน้ำแข็งมีเสียงกรีดร้องโหยหวน

แล้วเสียงร้องนั้นก็หยุดลงทันที

เมื่อมองดูใกล้ ๆ จะเห็นว่ามีคนซ่อนอยู่ใต้ชั้นน้ำแข็งอีกคน โดยคนผู้นั้นกำลังโค้งลำตัว ถือมีดสั้นอยู่ในมือ เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายวางแผนออกมาลอบโจมตี

แต่ตอนนี้หอกที่ซูอี้แทงลงมาได้ทะลุลำคอของเขา และถูกปักบนพื้น ทำให้เจ้าตัวได้แต่เผยรูม่านตาซึ่งเบิกกว้าง และแสดงสีหน้าอันเต็มไปด้วยความสับสนออกมา

ราวกับไม่ได้คาดไว้ว่าภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ซูอี้จะรู้ถึงการมีอยู่ของเขาด้วย!

เลือดสาดกระจาย ในบริเวณเกิดความเงียบสงัด

ชายชุดดำที่ถูกซูอี้บีบคออยู่ ตกใจกลัว ตัวแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น

เหวินซินจ้าว เยว่ซือฉาน และเก๋อเฉียนที่อยู่ไม่ไกลออกไปมีเหงื่อเย็น ๆ ไหลออกมา สีหน้าเปลี่ยนไป

ฉากเมื่อครู่เกิดขึ้นไวมาก และอันตรายมากเช่นกัน

อย่างแรกคือลูกธนูเก้าดอกของเฟิงจื่อตูที่พุ่งผ่านอากาศมาสังหารด้วยความรวดเร็ว ฉากฆาตกรรมเพิ่งจะคลี่คลายไป ชายชุดดำก็พุ่งออกมาจากใต้ชั้นน้ำแข็งทันทีโดยเล็งหอกไปที่ซูอี้โดยตรง

มันเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายและทำให้ผู้คนไม่ทันระวัง ทว่าราวกับซูอี้รู้ล่วงหน้าและหลบไปได้ก่อนหนึ่งก้าว เพื่อให้หอกเล่มนั้นแทงไปยังภาพลวงตาของเขา

ก่อนชายชุดดำจะถูกซูอี้จับในคราวเดียว

แต่ใครจะไปคาดคิดว่ายังมีอีกร่างหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ชั้นน้ำแข็งนั่น!

การสังหารกลายเป็นกับดัก และทุกครั้งที่เกิดสถานการณ์อันตรายถึงชีวิต เหวินซินจ้าวและคนอื่น ๆ ก็จะถามตัวเองว่า หากเป็นพวกเขาก็คงจบสิ้นไปนานแล้ว

แต่สำหรับซูอี้ ทุกอย่างดูเหมือนไม่มีอันตรายอันใด และในชั่วพริบตาภัยการลอบสังหารก็พลันถูกปัดเป่าให้หายไปราวหมอกควันในยามเช้าต้องแสงสุริยัน!

ท่วงท่าที่ผ่อนคลายทำให้ความรู้สึกภายในใจทุกคนที่อยู่ตรงนี้ตกตะลึงอย่างมาก!

“เป็นไปได้อย่างไร…”

เฟิงจื่อตูที่ยืนอยู่บนก้อนหินจากเชิงเขาไกล ๆ เบิกตากว้างและพึมพำอย่างไม่เชื่อ

ก่อนหน้านี้เขามั่นใจว่ากับดักที่วางเอาไว้ต้องมีอานุภาพมากพอที่จะทำให้คนแข็งแกร่งอย่างซูอี้ หวนเฉ่าโหยว เยี่ยนจิงอวิ๋น จิงหลิงเจิน และโม่ซิงเจ๋อไม่ตายก็เจ็บหนัก

แต่ใครจะไปคาดคิดว่าซูอี้ที่ชอบหลบหลีกปัญหา จะจัดการกับดักและรับมือการซุ่มโจมตีพวกนี้ได้!

“ยังมีอย่างอื่นอีกหรือไม่?”

ซูอี้มองไปยังเฟิงจื่อตูที่อยู่ไกล ๆ พูดด้วยความสนอกสนใจ

ขณะที่พูดก็บีบมือไปด้วย

กึก!

ชายชุดดำคอหัก ศีรษะบิดเบี้ยว

พลังอันน่าสะพรึงกลัวได้บดขยี้จิตวิญญาณและร่างกายจนแหลกละเอียด

โครม!

และในที่สุดร่างกายของเขาก็ถูกซูอี้โยนทิ้ง โดยชายหนุ่มไม่แม้แต่จะปรายตามองด้วยซ้ำ

Facebook Twitter Telegram Pinterest
บันทึกตำนานราชันอหังการ

บันทึกตำนานราชันอหังการ

First Immortal of The Sword, Fis, Jiandao di yi xian, Supreme sword god (donghua), 剑道第一仙
Score 8.8
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังเลือนลั่นฟ้า การจากไปของผู้ยิ่งใหญ่นำมาซึ่งความโกลาหนทั่วเก้ามหาแดนดิน เหล่าคนละโมบต่างคิดหมายแย่งชิงสิ่งวิเศษที่ผู้เป็นยอดปรมาจารย์เคยปกครองยุคสมัยครอบครอง ทว่านั่นหาใช่จุดจบ แต่มันคือจุดเริ่มต้น! แท้จริงแล้วภายในโลงสัมฤทธิ์ มันว่างเปล่า! ไร้ศพ ไร้คน และไร้ซึ่งดาบเก้าคุมขัง!!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset