วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม
เผยเชียนนอนอยู่ในโรงแรมจนถึงสิบเอ็ดโมงเช้า หลังจากเช็กเอ้าต์ เขาก็ไปหาอะไรกินแล้วมุ่งหน้าไปสถานีรถไฟความเร็วสูงเพื่อกลับจิงโจว
อู๋เยว่กับผู้จัดการลู่อยากเลี้ยงมื้อเที่ยง แต่เผยเชียนปฏิเสธไป
งานแข่งขันสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาคือฝันร้ายสำหรับเผยเชียน ที่เขาอยากทำตอนนี้คือออกจากเซี่ยงไฮ้และกลับจิงโจว จากนั้นก็ห่อตัวด้วยผ้าห่มและเล่นเกมอยู่ในห้อง
เผยเชียนปรับสภาพจิตใจบนรถไฟฟ้าความเร็วสูงขากลับจิงโจว เขาเพิ่งจะหยิบมือถือมาเช็กดูว่าชาวเน็ตคิดเห็นยังไงกับการแข่งขันเมื่อวาน
หลังชมการแข่งขันเมื่อคืนจบก็เกือบเที่ยงคืน เผยเชียนพุ่งไปที่เตียงทันทีหลังกลับถึงโรงแรม ไม่ได้เช็กดูความคิดเห็นบนโลกออนไลน์เลยจนถึงตอนนี้
เขาเห็นโพสต์ยอดนิยมทันทีที่เปิดเว็บบอร์ด มีคอมเมนต์ใต้โพสต์เกือบพัน ตอนนี้ได้รับความนิยมสุดๆ
หัวข้อโพสต์เรียบง่ายมาก ‘ภาพระดับโลก’
เผยเชียนงงเล็กน้อยเมื่อเห็นชื่อหัวข้อ
โพสต์นี้ถูกขุดขึ้นมาอีกแล้วเหรอ
ตอนนี้มีภาพระดับโลกอยู่ทั้งหมดสามภาพ ทั้งหมดถ่ายโดยชาวเน็ตหน้ามึน โดยตั้งชื่อว่า ‘บอสเผยที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู’ ‘บอสเผยที่โมหยูเดลิเวอรี่’ และ ‘บอสเผยตอนกำลังทำงาน’
ภาพแรกถ่ายตอนร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู 3.0 เปิดกิจการ ภาพที่สองถ่ายตอนเขากินข้าวอยู่โมหยูเดลิเวอรี่แล้วนักข่าวเข้ามาสัมภาษณ์ลูกค้า ภาพที่สามถ่ายตอนเขากำลังจัดการแผนผังความสัมพันธ์อยู่ในร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขามหาวิทยาลัยฮั่นตง
แต่โพสต์นี้หายไปนานแล้วนี่
เหตุการณ์ตอนภาพตัวเขากำลังจัดการแผนผังความสัมพันธ์ในร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเป็นกระแสร้อนแรงไปทั่วโลกออนไลน์ก็จริง แต่ชาวเน็ตความจำเหมือนปลาทองน่าจะลืมกันไปนานแล้ว ทำไมถึงกลับมาคุยเรื่องนี้กันอีก
เผยเชียนดูเวลาโพสต์
แปลกแฮะ เหมือนจะเพิ่งโพสต์เมื่อคืน
โพสต์แค่คืนเดียวแต่มีคนคอมเมนต์เกินพันแล้วเหรอ
เผยเชียนรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีจึงรีบกดเข้าไปดู
บนสุดของโพสต์เป็นภาพงานแข่งขัน IOI รอบคัดเลือกเมื่อคืน ครึ่งบนของภาพดูปกติดี นักกีฬายืนเรียงแถวเป็นระเบียบ สมาชิกทีม FV ทั้งห้ายืนอยู่ตรงกลาง พร้อมเป็นตัวแทนเข้าไปแข่งรอบชิงแชมป์โลก IOI แต่ครึ่งล่างของภาพทำเอาอึ้งสุดๆ มีผู้ชมแค่คนเดียวนั่งอยู่ตรงแถวหน้าที่ว่างทั้งแถว!
เผยเชียนเพ่งดูดีๆ นั่นฉันเหรอ
“ถ่ายตอนไหนเนี่ย!”
เผยเชียนงงมาก หลังจากคิดดูอย่างละเอียด เขาก็ตระหนักว่าน่าจะถ่ายตอนผู้ชมทยอยออกจากสนามแข่ง ผู้ชมไปอออยู่ทางออกกันเยอะมาก เผยเชียนขี้เกียจไปเบียดเลยนั่งลงสุ่มๆ จึงเข้าองค์ประกอบภาพนี้
เอาเข้าจริง คนถ่ายภาพนี้เหลี่ยมจัดทีเดียว เพราะสิ่งที่เขาถ่ายไม่ใช่ความจริงทั้งหมด
ความจริงคือหลายคนออกจากสนามแข่งไปแล้วก่อนภาพถูกถ่าย เผยเชียนเป็นคนสุดท้ายของแถวแรกที่ออกจากสนามแข่ง เพราะเขาพักอยู่ใกล้สนามแข่งที่สุดและรีบร้อนน้อยที่สุด
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ชมกลับออกไปหมดก่อนการแข่งขันจบ ปล่อยให้บอสเผยนั่งดูจนจบอยู่คนเดียว
อีกอย่าง แถวหลังก็มีคนนั่งรอเหมือนเผยเชียนตั้งเยอะ พวกเขาก็ไม่ได้รีบกลับเหมือนกัน
แต่คนถ่ายภาพจงใจถ่ายให้ติดแค่สามสี่แถวหน้า ไม่ได้ถ่ายให้เห็นผู้ชมในแถวหลัง ดังนั้นด้วยองค์ประกอบบ้าบอพวกนี้ จึงทำให้รู้สึกเหมือนว่าเหลือบอสเผยคนเดียวในสนามแข่งอันกว้างใหญ่
เขาอ่านคอมเมนต์ใต้ภาพ
เจ้าของโพสต์ลงแค่ภาพ ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม แต่ก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรมากนัก
ทุกคนมองออกว่ามีนักกีฬาสิบห้าคนอยู่บนเวทีและบอสเผยนั่งอยู่ล่างเวที
มองผิวเผินดูไม่มีอะไรให้ถกกันมากนัก แต่ต้องบอกเลยว่าพลังมโนของชาวเน็ตนั้นไร้ขีดจำกัด คอมเมนต์ยอดนิยมใต้โพสต์ซึ่งเขียนโดยชาวเน็ตมากหน้าหลายตารวมกันเป็น ‘บทวิจารณ์ผลงานชิ้นเอก’!
…
“ภาพระดับโลก: ผู้ชมคนสุดท้าย
“นี่คือผลงานชิ้นล่าสุดในบรรดาภาพระดับโลกของบอสเผย และในไม่ช้าจะกลายเป็นผลงานอันทรงเกียรติที่สุดในบรรดาผลงานทั้งหมด ภาพนี้ถือเป็นผลงานที่ไม่เคยมีมาก่อน แนวคิดเบื้องหลังผลงานนั้นชาญฉลาดมาก การจัดวางองค์ประกอบยอดเยี่ยมด้วยรายละเอียดสมจริง มีความหมายแฝงลึกซึ้งและน่าหลงไหล
“ในภาพ ความปีติยินดีของสมาชิกสโมสร FV สองสโมสรในพื้นหลัง และสนามแข่งอันว่างเปล่านำเสนอความแตกต่างที่สมบูรณ์แบบกับแผ่นหลังตรงกลางภาพ ถ่ายทอดให้เห็นถึงเนื้อหาทางจิตวิทยาที่เข้มข้นและเป็นผลงานชิ้นเอกที่หาได้ยากยิ่ง”
…
“เกริ่นนำ:
“‘ผู้ชมคนสุดท้าย’ บอกเล่าเรื่องราวของบอสเผยซึ่งออกศึกคนเดียวในเมืองปีศาจตอนปลายปี 2011
“ดายัก บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกจับมือกับหลงอวี่คอร์เปอเรชันจัดงานแข่งขันรอบคัดเลือกในเมืองปีศาจ พวกเขาหมายจะใช้การแข่งขันรอบคัดเลือกแสดงอำนาจและขยี้เถิงต๋า สโมสรอีสปอร์ตแปดแห่งตอบรับและมารวมตัวที่เซี่ยงไฮ้ ธงศึกปลิวไสว กองทัพรวมพล แลดูเหมือนจะกำราบอิทธิพลของเถิงต๋าได้
“มีกลุ่มชั่วร้ายพยายามบิดเบือนกระแสสังคมด้วยการแพร่ข่าวลือทุกหนแห่ง
“ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ สถานการณ์แสนเร่งรัด เหล่าแม่ทัพแห่งเถิงต๋าต่างตื่นตระหนัก พวกเขาถามบอสเผย: ศัตรูแข็งแกร่งมาก ควรทำอย่างไรกันดี
“บอสเผยยิ้มอย่างไม่ยี่หระ: พวกนั้นก็แค่ฝูงแมลงวันพยายามสำแดงอำนาจ มีอะไรให้ต้องกลัว ศัตรูจักแตกพ่ายภายในสามวันโดยไม่ต้องประมือ
“ได้ยินเช่นนั้น พวกเขาก็ต่างรู้สึกกังขา
“ถึงเวลาเดินทางสู่สนามรบ
“บอสเผยเดินทางไกลมาถึงเซี่ยงไฮ้ตัวคนเดียวและออกศึกเพียงลำพัง เหล่าแม่ทัพเถิงต๋าต่างตื่นตกใจ เหตุใดแม่ทัพใหญ่จึงเอาตัวเองไปเสี่ยงภัยเช่นนั้น แต่บอสเผยแอบส่งสายลับมากความสามารถห้านายแฝงตัวไปในการแข่งขันรอบคัดเลือกเรียบร้อย หากทั้งหมดร่วมมือกันก็ไม่มีใครหยุดยั้งพวกเขาได้ ฝั่งศัตรูแข็งแกร่งมาก แต่กลับไม่รู้ว่าสถานการณ์ในเมืองปีศาจอยู่ในมือของบอสเผยเรียบร้อย
“วันถัดมา ทหารกล้าห้านายต่อสู้กับสโมสรอื่นอย่างไม่ลดละ ศึกปะทุเดือดตั้งแต่ตะวันขึ้นยันตะวันตก ศพนับล้านกองเกลื่อนกลาด เลือดไหลรินรวมเป็นสายน้ำ บอสเผยที่บัญชาศึกอยู่แถวหน้านิ่งสงบท่ามกลางความโกลาหล ยังคงมั่นใจในกำลังพลของตนเอง ทหารทั้งห้าเปี่ยมความกล้ายิ่งขึ้น ทัพศัตรูแตกพ่ายภายใต้รอยยิ้มนิ่งเรียบ
“หลังจบศึก ชื่อเสียงของทหารทั้งห้าในรอบคัดเลือกก็เป็นที่เลื่องลือไปทั่ว ปีศาจและฝูงแมลงวันหายไปกับสายลม แตกพ่ายโดยไม่ต้องประมือ บอสเผยบุกลึกเข้าไปในรังศัตรูคนเดียว ทุกสโมสรในเมืองปีศาจกลัวจนหัวหด แม้แต่เด็กเล็กยังไม่กล้าร้องกลางดึกเมื่อได้ยินชื่อของบอสเผย
“มีบทกลอนยกย่องว่า
“ความเฉลียวฉลาดของบอสเผยหาได้ยากยิ่งในโลกหล้า เขากล้าเล่นงานศัตรูกลับโดยบุกเข้าถึงรังเพียงลำพัง เรือเล็กแล่นไกลหลายพันลี้ ทหารล้านนายปลดเกราะประกาศชัย”
…
“บทวิจารณ์ภาพ:
“ภาพนี้ใช้การออกแบบที่สมมาตร แบ่งองค์ประกอบออกเป็นสามส่วน ได้แก่ ส่วนกลางด้านบน ส่วนข้างด้านบน และส่วนล่าง
“ส่วนกลางด้านบนคือนักกีฬาห้าคนของสโมสร FV พวกเขาเพิ่งชนะรอบคัดเลือกหลังเล่นมาราธอนสิบเกมและคว้าอันดับหนึ่งเข้าสู่รอบชิงแชมป์โลก ทั้งห้าต่างเปี่ยมไปด้วยกำลังใจและครองตำแหน่งหลักในภาพ пᴏᴠᴇʟɢu.ᴄoᴍ
“สองข้างด้านบนคือสองทีมที่ได้โควตาเข้ารอบชิงแชมป์โลก สองทีมที่ได้อันดับสองและสามดูสงบกว่าเล็กน้อย ทำหน้าที่เป็นขั้วตรงข้ามของสมาชิกสโมสร FV ที่อยู่ตรงกลาง
“ส่วนล่างคือสนามแข่งอันว่างเปล่าและมุมมองด้านหลังของบอสเผยที่นั่งอยู่ตรงกลางแถวหน้า
“สนามแข่งอันว่างเปล่าแสดงให้เห็นถึงบรรยากาศอ้างว้างและเปล่าเปลี่ยว มีความหมายอยู่สองอย่าง หนึ่งคือ การจัดการแข่งขันของหลงอวี่คอร์เปอเรชันไม่เหมาะสมและผู้ชมก็ไม่พอใจกับกระบวนการแข่งขัน ทุกคนกลับออกไปก่อนที่การแข่งขันจะจบลงอย่างเป็นทางการ สองคือ ก่อนการแข่งขันจบนั้นเต็มไปด้วยความวุ่นวาย แต่พอจบการแข่งขันก็ไม่เหลืออะไร พวกเขาพ่ายแพ้ให้กับบอสเผยที่มาตัวคนเดียว
“ถึงจะจับภาพได้แค่ด้านหลังของบอสเผย แต่ฉันก็พอจะสัมผัสได้ถึงสภาพจิตใจในช่วงเวลานั้นจากท่านั่งที่ผ่อนคลายและมั่นใจของเขา
“ในแง่หนึ่ง นักกีฬาทั้งห้าคนของสโมสร FV กับบอสเผยกำลังสบสายตากันจากตำแหน่งของพวกเขา แสดงให้ว่าบอสเผยเป็นผู้นำและรักทหารของตัวเองเหมือนลูก อีกแง่หนึ่ง สนามแข่งร้างผู้คนแล้ว แต่บอสเผยยังอยู่จนจบ แสดงให้เห็นว่าบอสเผยให้ความเคารพการแข่งขัน เวที และคู่ต่อสู้ นอกจากนั้นบอสเผยยังสงบนิ่ง แสดงให้เห็นว่าทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา
“คนทั้งสิบห้าคนในภาพมีการแสดงออกแตกต่างกันเล็กน้อยเพราะบุคลิกและตัวตนที่ต่างกัน จึงทำให้รู้สึกถึงความสะเปะสะปะอยู่บ้าง แต่มุมมองด้านหลังบอสเผยเชื่อมโยงการแสดงออกของทั้งสิบห้าคนเข้าไว้ด้วยกัน โดยสะท้อนถึงกันและกันและเชื่อมต่อถึงกัน ทำให้ความรู้สึกของตัวละครในผลงานชิ้นเอกนี้ดูไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป
“บนและล่างเวที มุมมองด้านหน้าและด้านหลัง ฝั่งหนึ่งสว่าง ฝังหนึ่งมืดมิด ฝั่งหนึ่งเคลื่อนไหว ฝั่งหนึ่งนิ่งเงียบ เกิดเป็นความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ความหมายแสนลึกซึ้ง จัดวางองค์ประกอบได้ยอดเยี่ยม ควรค่าแก่การยกให้เป็นผลงานชิ้นเอก!”
…
เผยเชียนตะลึงงันไปหลังอ่านคอมเมนต์ยอดนิยมในโพสต์
อะไรวะเนี่ย!
ใครเป็นคนถ่าย ถ่ายไปทำไม
คอมเมนต์ใต้โพสต์ยิ่งโคตรบ้า อะไรกันวะ
ทำไมถึงกลายเป็นภาพระดับโลกได้
ถึงขั้นเล่าเรื่องแบบนิยายจีนย้อนยุค แถมยังแต่งกลอนบ้าๆ ให้อีก!
ที่บ้าบอที่สุดคือ คนพวกนี้แต่งเรื่องทั้งหมดเพื่อสร้างคุณค่าทางศิลปะกับโลกภายในของแต่ละคนให้กับไอ้ภาพนี่ด้วยพลังมโนล้วนๆ!
ชาวเน็ตหน้ามึนพวกนี้ประสาทเสียกันไปหมดแล้ว
เห็นได้ชัดว่าชาวเน็ตเข้าใจทริปเซี่ยงไฮ้ของเผยเชียนผิดเพี้ยนไปโดยสิ้นเชิง
ตอนแรกเผยเชียนไม่ได้คิดอะไรมาก เขาแค่ไม่อยากดู GPL และอยากไปดู FV แพ้ยับเยินที่เซี่ยงไฮ้เพื่อผ่อนคลายจิตใจ เขาสวมแมสก์ไปที่งานคนเดียว ตั้งใจจะไม่ทำตัวเป็นจุดเด่น
ไม่รู้ทำไมผู้จัดงานถึงจำเขาได้และยืนกรานจะเก็บภาพมุมใกล้ของเขา พอการแข่งขันเป็นไปได้ด้วยดี ก็เกิดกระแสยกใหญ่ในอินเทอร์เน็ต
เยี่ยม ทั้งโลกรู้แล้วว่าบอสเผยไปดูงานแข่งขัน IOI รอบคัดเลือกด้วยตัวเอง!
ถ้าสโมสร FV แพ้ก็คงไม่เป็นไร เพราะ IOI จะได้กระแสทั้งหมดไป แต่เขาไม่คิดว่าสโมสร FV จะอั้นฉี่กันเก่งขนาดนี้ พวกเขาเล่นกันสิบเกม ยิ่งเล่นก็ยิ่งกล้าหาญมากขึ้น ทุกครั้งที่ชนะ ก็เหมือนมีมีดทิ่มเข้าที่กลางใจบอสเผย
เผยเชียนรู้ดีว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นยังไง แต่ชาวเน็ตไม่รู้อะไรเลย!
จากมุมมองของคนนอก บอสเผยต้องมีกลยุทธ์อะไรดีๆ อยู่เสมอใช่มั้ย
สโมสร FV ผงาดขึ้นมาใหม่ได้เพราะเงินลงทุนของบอสเผยใช่มั้ย
บอสเผยไปกำกับดูแลการแข่งขันเองที่นั่นตั้งแต่ต้นจนจบใช่มั้ย
ไม่ว่าจะยังไง ผลสุดท้ายกระแสทั้งหมดก็ตกเป็นของสโมสร FV กับลีก GPL
ในแง่หนึ่ง ทุกคนรู้สึกว่าการแข่งขัน IOI นั้นจัดได้ไม่ดี ถ้าอยากดูงานแข่งดีๆ ควรไปดู GPL อีกแง่หนึ่ง เมื่อพูดถึงทีม IOI ที่แข็งแกร่งที่สุดในปัจจุบัน คนส่วนใหญ่ก็จะนึกถึงสโมสร FV เป็นอันดับแรก
ถึงสโมสรนี้จะไม่มีมูลค่าแบรนด์มากนัก แต่ก็มีนักกีฬาดาวเด่นที่แข็งแกร่งและผลงานที่โดดเด่น จึงมีกระแสมากที่สุดใน IOI
เขาลองวิเคราะห์ถึงสาเหตุและผลลัพธ์
บอสเผยมีบทบาทอะไรในเรื่องราวทั้งหมด ทุกอย่างก็อธิบายด้วยตัวเองแล้วนี่
บอสเผยเป็นคนแบกงานแข่งขัน IOI รอบคัดเลือกและการคว้าแชมป์ของสโมสร FV ไม่ใช่เหรอ
ใครจะปฏิเสธได้ ใครจะกล้าปฏิเสธ
ถ้าเป็นแบบนั้น ก็สมเหตุสมผลที่จะใส่สีใส่ไข่เข้าไปในเรื่องราวเพื่อเสริมองค์ประกอบทางศิลปะและเพิ่มความตื่นเต้นเข้าไป และเจาะถึงเหตุผลเบื้องหลังเพื่อการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
เพราะยังไง เรื่องราวในตำนานส่วนใหญ่ก็ใส่ไข่กันให้เว่อร์อยู่แล้ว ยิ่งเว่อร์เท่าไหร่ ก็ยิ่งดังเท่านั้น
เพราะงั้นหลังจากร่วมมือกันตลอดทั้งคืน นักเขียนในอินเทอร์เน็ตก็ได้เรียงร้อยเรื่องราว ‘บอสเผยออกศึกที่เซี่ยงไฮ้เพียงลำพัง’ ออกมา
ยิ่งได้บทกวี ‘เรือเล็กแล่นไกลหลายพันลี้ ทหารล้านนายปลดเกราะประกาศชัย’ เสริมเข้าไปก็ยิ่งจับใจมากขึ้น
ความหมายของบทกวีนี้คือ เถิงต๋ามีทหารแกร่งหนึ่งล้านนายที่พร้อมเคียงข้างเดินทัพไปเมืองปีศาจเพื่อทำศึกกับหลงอวี่คอร์เปอเรชัน แต่บอสเผยที่ล่องเรือไปเพียงลำพังกลับทำให้กองทัพศัตรูแตกพ่ายทันที ทัพทหารหนึ่งล้านนายของเถิงต๋าไม่จำเป็นต้องออกศึกและสามารถปลดเกราะประกาศชัยได้
บอสเผยแค่คนเดียวเทียบเท่ากับทหารหนึ่งล้านนาย!
นอกจากจะเก่งกาจด้านกลยุทธ์แล้ว บอสเผยยังมีความกล้าหาญที่ไม่ธรรมดาด้วย ถือเป็นคุณสมบัติที่หาได้ยากยิ่งในโลก!
เรื่องราวทั้งหมดบ้าเกินจริงขึ้นไปเรื่อยๆ
