📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ยอดวิถีแห่งปีศาจ – ตอนที่ 404

บทที่ 404 - ไพ่ตาย (2)
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

ฉยงซังใช้วิธีการพิเศษ ‘ทำลายรูปโฉม’ ตอนนี้จึงไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใคร เพียงรู้ว่าเป็นเด็กน้อยธรรมดาที่มีท่าร่างไม่เลวคนหนึ่ง นอกจากนี้คล้ายมีสายเลือดสุดหยั่งส่วนหนึ่งด้วย

ฉยงซังเหนื่อยล้าอยู่บ้างขณะเข่นฆ่าไปยังเนินเขาลูกนั้น สู้มาติดต่อกันสามชั่วยามกว่าๆ ล้วนทุ่มเทสุดกำลัง ต่อให้มีกำลังกายที่แข็งแกร่งกว่านี้ เขาก็มีพลังฝึกปรือไม่สูงพอ การที่ทนไม่ได้จึงถือว่าปกติเช่นกัน

“เป็นอย่างไร” เด็กหนุ่มผมสีทองและดูหล่อเหลาคนหนึ่งเข่นฆ่าออกมาจากกลางฝูงมาร ก่อนจะคว้าไหล่ของเขา แล้วกระโดดขึ้นทันที

ทั้งสองหมุนตัวข้ามศีรษะมารกลุ่มใหญ่ แล้วทิ้งตัวลงด้านหน้าเนินเขาแห่งนั้นได้อย่างง่ายดาย

“ไม่เป็นไร แค่เหนื่อยนิดหน่อยเท่านั้น” ฉยงซังรีบก้มตัวลงหอบหายใจเพื่อฟื้นฟูกำลังกาย เด็กหนุ่มผมทองผู้นี้คืออันจิ่ว สหายที่เขาคบหาในการสู้รบช่วงนี้

“ระวังหน่อย ทางพวกเรามีคนเหลือไม่มากแล้ว ทัพมารยังมีกำลังสนับสนุนอยู่อีก…” อันจิ่วเตือนอย่างจริงจัง

“อือ” ฉยงซังเงยหน้าขึ้น หมุนตัวไปมองหุบเขาที่อยู่ห่างออกไปด้านหลัง ด้านในหุบเขาสีแดง ผู้เหี้ยมหาญที่สวมชุดคลุมสีเหลืองกับอาภรณ์สีดำหลายกลุ่มกำลังขวางมารกลองที่คิดจะบุกเข้าหุบเขา

มารที่พวกเขาสู้รบด้วยเป็นมารไม่กี่ตนที่หลงกลุ่มมา กำลังหลักที่แท้จริงกับแม่ทัพมารถูกสามสำนักใหญ่ที่อยู่ตรงปากหุบเขาด้านหน้าสกัดเอาไว้

“นั่นคือยอดฝีมือของสามสำนัก เมื่อกี้ได้ยินเหล่าหลิวบอกว่ามีแม่ทัพมารถูกฆ่าไปไม่น้อยแล้ว แต่ก็มียอดฝีมือสามสำนักหลายคนเสียชีวิตเช่นกัน การสู้รบดุเดือดจริงๆ” อันจิ่วรำพึง

ฉยงซังทอดตามองไกล เห็นกลุ่มคนสีเหลืองกับสีดำกั้นกระแสคลื่นสีดำด้านหน้าไว้อย่างแน่นหนาอยู่ด้านหน้าปากหุบเขาสีแดงเหมือนกับทำนบ เลือดเนื้อและแขนขากองสุมกันเป็นภูเขาเลากา

แสงสีขาวและแสงสีทองหลายสายระเบิดขึ้น ห่อหุ้มหมอกควันสีดำกับเปลวไฟไว้พร้อมกับหายไปด้วยกัน

“แม่ทัพโจวแห่งทัพอักขระมืดเพิ่งถ่ายทอดคำสั่งลงมาว่า ต้องการให้เราป้องกันอีกครึ่งชั่วยาม ครึ่งชั่วยามให้หลังจะต้องมีการสนับสนุนแน่” อันจิ่วกล่าวเสียงแผ่ว

“ครึ่งชั่วยามหรือ” ฉยงซังเป็นพระโอรส จึงได้รับการสั่งสอนศาสตร์การรบพื้นฐาน เวลานี้เขามองสมาชิกกลุ่มที่อยู่รอบๆ ตนเองด้วยรอยยิ้มขื่นขม บวกกับเขาแล้วมีทั้งหมดสิบสองคน สิบสองคนเฝ้าบนที่ราบแบบนี้ ทนได้ถึงครึ่งก้านธูปก็ไม่เลวแล้ว

มารอย่างน้อยหลายร้อยตนลอบโจมตีจากด้านล่างขึ้นด้านบน คิดจะสังหารคนบนเนินเขาให้หมด

เสียงประหลาดเหมือนเสียงสุนัขเห่าและเสียงกะทิงคำรามดังสลับกันอยู่ข้างหู ทำให้รู้สึกกระสับกระส่าย สงบจิตใจไม่ได้

ฉยงซังยิ้มฝาดเฝื่อน ยื่นมือไปลูบรอยนูนระหว่างทรวงอกกับช่องท้องของตัวเอง

นั่นเป็นที่ที่อาวุธเทพหมื่นแปรผันอยู่ และเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาถูกขับออกจากราชสำนัก และโดนใส่ร้ายป้ายสี

ก่อนออกเดินทาง เทียนเหอเต้าจ่างได้อธิบายสถานการณ์ในตอนนี้อย่างละเอียด ฉยงซังรู้ว่าใครบ้างที่ไม่ได้วางแผนการเล่นงานเขา ใครบ้างเป็นคนร้ายที่ไล่ตามไม่ยอมลดละ และคอยจับตามองเขาเหมือนสุนัขล่าเนื้อ

“เจ้ายังลังเลอยู่อีกหรือ…กลัวว่าหลี่ซุ่นซีจะหลอกเจ้าใช่หรือไม่” เสียงบุรุษหนุ่มที่สงบราบเรียบดังขึ้นในหัวสมองของเขา “หรือกลัวว่าคนที่เขาแนะนำให้เจ้าจะมีปัญหา”

“ล้วนไม่ใช่ ข้าเพียงกำลังคิดว่า ถ้าตายลงที่นี่ บางทีอาจจะเป็นเรื่องดีก็ได้ จะได้สลัดหลุดจากทุกสิ่ง แค้นของน้อง แค้นของท่านแม่ และคนที่ทำร้ายข้าเหล่านั้น…ไม่ต้องสนใจอะไรอีกแล้ว” ฉยงซังหลับตา “ข้าเหนื่อยมาก…”

“ในเมื่อยังเชื่ออยู่ อย่างนั้นเจ้าจำคำพูดที่หลี่ซุ่นซีเคยบอกกับเจ้าได้หรือไม่” เสียงนั้นกล่าวอย่างราบเรียบ “คนอ่อนแอกลายเป็นคนแข็งแกร่ง ก่อนจะมีพลังปกป้องตัวเอง จะต้องคิดหาวิธียืมพลังและสภาวะให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ การที่เจ้ามีข้า เป็นทั้งโชคร้ายและโชคดี ทุกคนมีสิทธิ์บอกว่าเหนื่อยได้ มีแต่เจ้าเท่านั้นที่ไม่มีสิทธิ์”

“ข้ารู้…ข้าเพียงแค่กังวลว่า…คนคนนั้นจะยินดีช่วยพวกเราจริงๆ หรือ” ฉยงซังเอ่ยด้วยรอยยิ้มขื่นขม

“ผู้ใดทราบเล่า ในเมื่อหลี่ซุ่นซีทำนายแล้ว อย่างนั้นนี่ก็เป็นโอกาสเพียงหนึ่งเดียวของเจ้าในตอนนี้ เห็นแก่ที่เขาเคยมีความสัมพันธ์เก่าๆ กับมารดาของเจ้า เขาไม่ควรเห็นความตายโดยไม่ช่วยเหลือแน่” เสียงบุรุษกล่าวอย่างสงบนิ่ง

“ท่านลุงหมื่นแปรผัน…ถ้าหากเขาเกิดความโลภ…”

“อย่างนั้นพวกเราก็ไปตายด้วยกัน” เสียงของบุรุษเอ่ยอย่างไม่นำพา คล้ายกับไม่สนใจความเป็นความตายแม้แต่น้อย มันก็คืออาวุธเทพหมื่นแปรผัน อาวุธเทพระดับสุดยอดที่ก้าวข้ามขอบเขตเทวปัญญาในตำนาน สำหรับผู้ถืออาวุธ มันมีพลังน่ากลัวถึงขีดสุด ใกล้เคียงกับอริยะเจ้า สำหรับอริยะเจ้า พลังของมันมีคุณค่ามหาศาลให้พิจารณาศึกษา

ถึงขั้นที่มีค่าอยู่บ้างสำหรับเจ้าแห่งอาวุธ

แต่สหายที่มันยอมรับกลับเป็นองค์ชายที่ธรรมดาๆ และอ่อนแอเกินบรรยายอย่างฉยงซัง

“พอแล้ว ส่งสัญญาณเถอะ อย่าเสียเวลา” หมื่นแปรผันเร่ง

ฉยงซังได้แต่หาข้ออ้างกับอันจิ่วอย่างจนปัญญา แล้วพุ่งลงไปเข่นฆ่าต่อ กลับไม่ทราบว่าในมือของเขามีหยกสีดำชิ้นหนึ่งโผล่มาตอนไหน

หยกชิ้นนั้นกะพริบแสงสีดำอ่อนๆ มีอีกาที่เหมือนมีปากงอกตรงหน้าอกตัวหนึ่งอยู่ด้านบน ดวงตาสีแดงฉานเรืองแสงสีแดงจางๆ

ฉยงซังยิ่งฆ่ายิ่งออกห่าง ค่อยๆ ผละจากเนินเขาแห่งนั้น จนกระทั่งทะลวงทัพมารกลุ่มนี้เข้าไปซ่อนตัวในป่าเล็กที่อยู่ท่ามกลางความมืด

เขาหยิบหยกขึ้นมา กัดนิ้วชี้และหยดเลือดหยดหนึ่งลงใส่ผิวของมัน

ฉ่า…

เลือดพลันกลายเป็นควันดำลอยขึ้น ก่อนจะสลายไปกลางอากาศ

ไม่นานนักก็มีเงาดำพร่ามัวพุ่งมาจากที่ไกล

พรึ่บ

เงาดำพลันทิ้งตัวลงด้านหน้าฉยงซัง กลายเป็นหญิงสาวงดงามที่ผิวราวกับสลักเสลาจากหยก

นางสวมกระโปรงรัดเอวสีดำที่แขวนไข่มุกไว้เต็มไปหมด ผมยาวถึงไหล่ ดวงตาดุจดวงดาว ผิวขาวผ่องดูบริสุทธิ์หมดจดกว่าเดิมภายใต้การขับเน้นของกระโปรงสีดำ

“อะไรน่ะ เป็นเพียงสุกรตัวหนึ่งหรือนี่!” หลังจากเห็นว่าคนตรงหน้าเป็นมนุษย์ ดวงตางดงามที่ตอนแรกมีความคาดหวังอยู่บ้างของหญิงสาวพลันเปลี่ยนเป็นผิดหวังอย่างมาก

“ข้านึกว่าคนที่ท่านพ่อให้มารับตัวเป็นบุคคลสำคัญใด นึกไม่ถึงว่าจะเป็นมนุษย์สุกรคนหนึ่ง น่าเบื่อ!”

ฉยงซังค่อยสังเกตเห็นเขาสีน้ำตาลที่โค้งงอเหมือนกับแพะภูเขาบนศีรษะของหญิงสาว แสดงว่านางไม่ใช่มนุษย์ หากเป็นเผ่ามาร

“ข้า…ข้า…” เขาพูดอึกอัก เดิมภาษาพิภพมารก็ไม่ดีเท่าไหร่ กอปรกับตอนนี้ถูกดูถูก จึงรู้สึกคับข้อง เป็นเหตุให้ติดอ่าง

“เป็นคนติดอ่างอีก! ล้อเล่นหรืออย่างไร เพื่อสุกรติดอ่างตัวหนึ่ง ท่านพ่อถึงกับให้ข้ามารับด้วยตัวเอง จะไม่ทำลายแผนการใหญ่ของท่านตาหรอกหรือ!?” หญิงสาวตบหน้าฉยงซังอย่างแรง

เพี๊ยะ!

แก้มขาวผ่องของฉยงซังพลันบวมขึ้นมา เขาโซเซถอยหลังหลายก้าว แสดงสีหน้าอัปยศอดสู

“น่ารำคาญๆๆ! น่ารำคาญจริงๆ! ไปแล้ว!” หญิงสาวหมุนตัวเดินไป โบกมือเล็กทีหนึ่ง พลันปล่อยหมอกสีดำออกมาห่อหุ้มฉยงซังอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพุ่งไปยังที่ไกล

แต่บินไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่

ตุบๆ!

เสียงหัวใจขนาดยักษ์ที่เต้นอย่างรุนแรงเหมือนใกล้แค่คืบก็ดังขึ้นข้างหูทั้งสองพร้อมกัน

“แย่แล้ว! พวกระดับสุดยอดกำลังสู้กัน รีบใช้วิชาด้ายทองผนึกหทัยเร็ว!” อาวุธเทพหมื่นแปรผันหน้าเปลี่ยนสี รีบกล่าวเร่ง

ฉยงซังไม่กล้าประมาท หลับตาทำสมาธิ ปิดกั้นจิตใจ ปิดกั้นประสาทสัมผัสทั้งห้า ปิดกั้นวิญญาณทันที พร้อมกับนั่งขัดสมาธิอยู่กับที่เหมือนคนตาย

หญิงสาวกระโปรงดำก็ทราบถึงอันตรายเช่นกัน ใบหน้าเล็กซีดขาว นั่งขัดสมาธิตามอย่างรวดเร็ว หมอกสีดำรอบๆ ตัวห่อหุ้มนางไว้

ตุบๆ! nᴏᴠᴇʟɢu.cᴏm

เสียงหัวใจขนาดยักษ์ดังขึ้นอีกครั้ง ดังไปทั่วเนินเขาหลายสิบลูกที่อยู่ใกล้ๆ ดังไปทั่วสนามรบรัศมีหลายสิบลี้

“ข้ามาถึงแล้ว เซียวจื่อจู๋ ไสหัวออกมา!” เสียงบุรุษทุ้มต่ำที่ทั้งยิ่งใหญ่และสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงดังไปถึงที่ซึ่งอยู่ห่างไปหลายร้อยลี้ราวกับอัสนีบาต

ท้องฟ้ายามราตรีเหมือนกับมีไฟเผาไหม้เมฆ นภามากกว่าครึ่งถูกแสงสีแดงทองอาบย้อมจนกลายเป็นสีแดง

อุณหภูมิในอากาศสูงขึ้นจนร้อนลวก หากแต่อากาศชื้นขึ้นเร็วกว่า

ต่อให้ฉยงซังกับหญิงสาวกระโปรงดำจะปิดกั้นประสาทสัมผัสแล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงถูกความรู้สึกกดดันอันยิ่งใหญ่และน่าสะพรึงกลัวนั้นบีบอัดส่วนลึกของสายเลือดอย่างต่อเนื่อง จนเหงื่อกาฬไหลซึมออกมาจากบนใบหน้าและร่างกายอยู่ดี

ทว่าสิ่งที่แตกต่างก็คือ ความกดดันนี้ส่งผลไปที่เผ่ามารมากกว่า ในเหงื่อบนร่างหญิงสาวถึงขั้นเริ่มมีกลิ่นคาวเลือดแทรกอยู่

“ดูเถอะ นี่ก็คือเจ้าในอนาคต เป็นขอบเขตที่เจ้าต้องไปให้ถึง…” เสียงทุ้มต่ำของหมื่นแปรผันดังสะท้อนในใจฉยงซังเช่นกัน

แม้เขาจะปิดกั้นการรับรู้ แต่ก็ยังมีภาพและเสียงที่ถูกหมื่นแปรผันส่งเข้ามา จึงเห็นภาพด้านนอกได้อย่างชัดเจน

“ถ้าหากเจ้าสำเร็จขอบเขตนี้ ต่อให้เป็นทั่วทั้งต้าอิน ก็ไม่มีที่ใดที่ไปไม่ได้ แม้แต่การครอบครองร่างหลักของข้า ก็เป็นแค่เรื่องเล็กๆ ที่ยุ่งยากเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จัดการนิดเดียวก็สำเร็จได้แล้ว…” หมื่นแปรผันรำพึง นี่คือการเปลี่ยนแปลงทางคุณสมบัติที่พลังนำมา

ความกดดันในท้องฟ้าสีแดงก่ำหนักหน่วงมากขึ้นเรื่อยๆ มารที่อยู่บนเนินเขาด้านล่างเกิดตุ่มพุพองจากความร้อนผุดขึ้นทั่วทั้งตัว เกลือกกลิ้งพลางส่งเสียงร้องโหยหวนบนพื้น มนุษย์ดีกว่าเล็กน้อย ขอแค่นั่งขัดสมาธินิ่งๆ ก็จะไม่ได้รับอันตราย

หลังสัมผัสได้ว่าไม่เป็นไร ฉยงซังจึงค่อยๆ ปลดผนึก แล้วใช้ประสาทสัมผัสของตัวเองมองดูเหตุการณ์ด้านนอก

เขาเงยหน้ามองท้องฟ้าสีแดง ไอหมอกยักษ์สีทองผสมสีแดงกลุ่มหนึ่งพลิกม้วนอยู่กลางอากาศ กลายเป็นรูปงูมีปีกขนาดหลายร้อยหมี่ พร้อมกับคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวไปยังที่ไกล

มีเงาคนเล็กๆ ยืนอยู่บนหัวงูมีปีก ทอดตามองไปไกลเช่นกัน

พายุโหมกระหน่ำ ไม่ทราบว่าในอากาศมีกลีบดอกไม้สีดำเล็กๆ กระจัดกระจายอยู่ตั้งแต่เมื่อใด

กลีบดอกไม้พลิกตัวบินฉวัดเฉวียน ลอยผ่านศีรษะของพวกฉยงซัง ข้ามผืนป่า ข้ามร่องน้ำ ข้ามทัพมารสนับสนุนกลุ่มใหญ่ที่เร่งรุดมาถึง แล้วตกลงไปในมือบุรุษผมยาวคนหนึ่งอย่างแผ่วเบา

บุรุษผมยาวเงยหน้ามองงูมีปีกสีแดงทองที่อยู่ไกลออกไป เขาสวมชุดคลุมสีดำซึ่งด้านหลังปักลวดลายตะขาบสีขาวตัวใหญ่

“ก็มาแล้วไม่ใช่หรือ” เงามืดบนใบหน้าบุรุษค่อยๆ ถูกแสงสีแดงสาดส่อง เผยให้เห็นใบหน้าที่หล่อเหลาหมดจดจนสง่างามอยู่บ้าง

แม้ว่าใบหน้าของเขาจะแตกต่างจากร่างหยินของเซียวจื่อจู๋ซึ่งลู่เซิ่งเคยเห็น ทว่าทั้งสองฝ่ายที่หันหน้าเข้าหากันโดยอยู่ห่างกันหลายสิบลี้ กลับจดจำออกทันทีว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่ตนต้องการตามหา

“ดาบจงมา!” เขาพลันตวาด

ด้านหลังมีแม่ทัพมารเดินประคองดาบฟันม้าขนาดยักษ์ที่ยาวถึงสี่หมี่กว่าๆ เล่มหนึ่งเข้ามาให้

นางสนมเผ่ามารสองนางถอดเสื้อคลุมบนร่างเขาลงอย่างแผ่วเบา เผยให้เห็นเกราะดำน่ากลัวที่สวมใส่อย่างเรียบร้อยกับผ้าคลุมยาวตัวหนาข้างใน

พอเซียวจื่อจู๋กำดาบฟันม้า ร่างกายก็สั่นไหวทีหนึ่ง

ครืน!

กรวดหินดินทรายทั่วฟ้าพลันกระจัดกระจาย ไอดำพลิกม้วน ตะขาบยักษ์สีดำสนิทที่สวมเกราะศิลามุดดินออกมา แบกเขาพุ่งสู่ฟากฟ้า แล้วพุ่งไปยังทิศทางของลู่เซิ่ง

“ตาย!”

เซียวจื่อจู๋ฟันดาบออกไป ปราณมารอันบ้าคลั่งพลิกม้วนออกมารวมตัวเป็นดาบยักษ์ยาวหลายร้อยหมี่ที่มีรูปลักษณ์ภายนอกเหมือนกัน ก่อนจะฟันใส่ลู่เซิ่งอย่างสะเทือนเลื่อนลั่น

“คนที่ควรตายคือเจ้า!” ลู่เซิ่งหัวเราะลั่น ร่างขยายใหญ่ขึ้นอย่างฉับพลัน เปลวไฟสีแดงทองนับไม่ถ้วนระเบิดออกมาจากบนร่าง ไฟสีทองจำนวนมากหดตัวกลายเป็นยักษ์เพลิงที่สูงมากกว่าร้อยหมี่ตนหนึ่ง

ยักษ์เพลิงคว้าแขนสี่ข้างเข้าหาดาบยักษ์จากสี่ทิศทาง

เปรี้ยง!

สองฝ่ายปะทะกัน ดอกบัวขนาดมหึมากึ่งโปร่งแสงพลันระเบิดออกมา ค่อยๆ บานออกรอบๆ คนทั้งสอง

ท้องฟ้าสั่นสะเทือน เมฆโลหิตระเบิดเป็นรูกลมขนาดต่างๆ นับไม่ถ้วน

“ท้องฟ้า ผืนดิน ฝนเลือด เสียงโหยหวน! จงร้องไห้ จงร้องไห้ จงร้องไห้เถอะ!” แขนสี่ข้างของลู่เซิ่งจับดาบฟันม้าไว้ ร่างถูกฟันแยกเป็นรอยเลือดขนาดใหญ่ แต่เขาไม่สะทกสะท้าน เพียงหัวเราะลั่นพลางท่องบทสวดที่ไม่ทราบเอามาจากไหนเสียงดัง

แกร๊ก

อยู่ๆ ก็เกิดเสียงแตกร้าวดังขึ้นเบาๆ

เซียวจื่อจู๋สีหน้าเปลี่ยนไป ในที่สุดก็เกิดสังหรณ์ร้าย เขากวาดตามองรอบๆ กลับพบฝ่ามือสี่ข้างของคนร่างยักษ์จับคันฉ่องแตกหลายชิ้นไว้แน่น

“เจ้าถึงกับกล้า!”

แกร๊ก

เกิดเสียงแตกร้าวดังมาอีกรอบ

ตูม!

แสงสีเทาแยงตากลุ่มหนึ่งพลันขยายตัว พริบตาเดียวก็ห่อหุ้มคนทั้งสองไว้พร้อมกัน ก่อนจะหายไปในอากาศ

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Way of the Devil, Cực Đạo Thiên Ma, Extreme Dao Heavenly Demon, WoD, 极道天魔
Score 9.3
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , ต้นฉบับ: 1213 Chapters (จบแล้ว)
ลู่เซิ่งพนักงานรัฐวิสาหกิจ พบว่าตัวเองมาอยู่ในโลกที่ไม่คุ้นเคย กลายเป็นคุณชายร่ำรวยมีเงินทอง แต่ละวันมีกับข้าวสามมื้อ มีสาวใช้อุ่นเตียง เดิมทีเขาคิดจะใช้ชีวิตสบายๆ แบบนี้ไปจนตาย จนกระทั่งว่าที่น้องเขยของเขาตายอย่างลึกลับหลังจากตรวจสอบคดีประหลาด ทั้งยังถูกฆ่าล้างตระกูล!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset