เสิ่นโตวเดือดดาล แต่เขายังคงหวาดกลัวยันต์สองแผ่นนั้นอยู่
เขากล้ำกลืนมันไว้ ส่งสัญญาณให้ใครบางคนไปหาเก้าอี้บางส่วนมาให้
คุณชายลู่กวาดสายตา ก่อนกลับมาดูการต่อสู้บนลานประลองอีกครั้ง
บนลานประลอง เซียวเทียนถือกระบี่ยักษ์ไว้ในมือ สายตาจับจ้องเสิ่นซูเหยียนตรงหน้าราวกับจ้องคบเพลิง
จากร่างกายของเขา ปราณกระบี่แก่กล้าแผ่ซ่านออกไปรอบข้าง กระบี่ยักษ์สั่นไหวในพริบตา แรงกดดันอันยิ่งใหญ่ปกคลุมลานประลองทันที!
“เสิ่นซูเหยียน สามปีมานี้ข้าฝึกฝนทุกวัน เพื่อรอคอยวันนี้มาตลอด!”
“สามปีแห่งความอับอาย ข้าอยากชดใช้ทั้งหมดในวันนี้!”
คุณหนูเสิ่นที่เดิมสงบนิ่ง พอได้ฟังคำพูดของเซียวเทียน โทสะในใจก็ตีตื้นขึ้นมาถึงอก
เจ้านั่นคิดว่าตัวเองเป็นใคร?!
ตอนที่พรสวรรค์ยังไม่หายไป เขาก็พอดูมีอนาคตอยู่บ้าง
ตอนนี้พรสวรรค์ของเขาหายไปแล้ว ถึงจะไม่รู้ว่าใช้วิธีอะไรในการมีชีวิตรอดจนเข้าสู่ขั้นจักรพรรดิยุทธ์ แต่กล้ามาท้าข้าอย่างนั้นหรือ?!
เซียวเทียนคิดว่าตัวเองมีพรสวรรค์จริง ๆ จนใกล้เคียงกับคำว่าสัตว์ประหลาด สามารถเหนือกว่าสองระดับที่แตกต่าง และเอาชนะข้าได้อย่างนั้นหรือ?!
เสิ่นซูเหยียนยืนตัวตรง นางสะบัดมือขวา เจตจำนงกระบี่มหาศาลพลันแผ่ซ่านออกไปทันที รอบข้างนาง ปราณกระบี่พลุ่งพล่านอย่างบ้าคลั่ง พวกมันรวมตัวในมือของนางอย่างต่อเนื่อง หลังจากผ่านไปหลายอึดใจ กระบี่ยาวสามฉื่อก็ก่อตัวขึ้นในมือนาง
กระบี่ร่ำร้องออกมาทันทีที่ปรากฏขึ้น กระบี่ในมือของผู้คนจำนวนมากในพื้นที่คล้ายกับสัมผัสถึงกระบี่เล่มนี้ได้ และต่างพากันสั่นไหว
“ปราณกระบี่กลายเป็นกระบี่หรือ?”
เมื่อผู้คนที่อยู่ด้านข้างเห็นดังนี้ ก็อดถอนหายใจไม่ได้ “ข้าไม่คิดเลยว่าเสิ่นซูเหยียนจะเข้าถึงวิธีดังกล่าวด้วยอายุแค่นี้ได้ สมแล้วที่นางเป็นลูกสาวของเสิ่นโตว!”
“ตระกูลเสิ่นเลื่องชื่อในฐานะสำนักกระบี่แห่งแดนเหนือ พวกเขาเก่งในการใช้ปราณกระบี่แทนกระบี่ในมือ พวกเขาฝึกฝนจนประสบความสำเร็จครั้งใหญ่ในศาสตร์ปราณกระบี่แทนกระบี่ จนสามารถออกคำสั่งแก่กระบี่ในโลกได้ ตอนนี้เสิ่นซูเหยียนอยู่เพียงขั้นจักรพรรดิยุทธ์ แต่สามารถทำให้กระบี่ของผู้คนจำนวนมากในพื้นที่สั่นสะท้านได้ พรสวรรค์การใช้กระบี่ของคนผู้นี้นับว่าหาได้ยากในโลก”
“ใช่แล้ว! ตอนนี้ดูท่าว่าเสิ่นซูเหยียนจะมีโอกาสชนะค่อนข้างมาก!”
เมื่อเห็นดังนี้ ร่องรอยความโล่งอกก็ปรากฏในดวงตาของเสิ่นโตว ด้วยระดับการฝึกฝนเช่นนั้น เสิ่นซูเหยียนสามารถนับว่าเป็นอันดับหนึ่งของรุ่นหลังในตระกูลเสิ่น
ขอเพียงเติบโตเช่นนี้ต่อไป ตระกูลเสิ่นจะต้องให้กำเนิดปรมาจารย์กระบี่ในอนาคตได้อย่างแน่นอน!
คุณหนูเสิ่นชูกระบี่ขึ้น กระบี่นับไม่ถ้วนตกลงมาจากท้องนภาในทันที ปกคลุมทั่วทั้งลานประลองภายในหนึ่งอึดใจ!
“เซียวเทียน ข้าจะบอกเจ้าในวันนี้เองว่า คำว่าไม่เจียมตัวมันหมายความว่าอย่างไร!”
ทันทีที่สิ้นเสียง สายลมแรงกล้าพัดโหมกระหน่ำ หินหยกบนลานประลองถูกพัดปลิวไปทีละก้อน
เสิ่นซูเหยียนทะยานขึ้นไปพร้อมกระบี่ ปราณกระบี่ในมือพลันพวยพุ่ง เพียงหนึ่งอึดใจ ร่างของนางก็หายไปจากจุดเดิมมาอยู่บนท้องนภาเหนือเซียวเทียน
ปราณกระบี่พลันฟาดฟันลงมา เสียงปราณระเบิด ‘ชี่ ๆๆ’ ดังขึ้น ปราณกระบี่พลันปะทะลงมาหาใบหน้าของอดีตคู่หมั้นทันที
เซียวเทียนเงยหน้าขึ้น ร่องรอยของคลื่นพลังสีแดงพลันแผ่ซ่านจากดวงตา ปกคลุมรอบฝ่ามือเอาไว้
เขาเงื้ออาวุธยักษ์ด้วยแขนสองข้าง พลังทั้งหมดจมลงสู่กระบี่ จากนั้นพุ่งตัวสวนขึ้นไป
ตูม!
กระบี่ที่แตกต่างสองเล่มปะทะกัน จนเกิดเสียงสะเทือนเลื่อนลั่น!
ไป๋ชิวเอ๋อร์นั่งอยู่ข้างลู่หยวน นางเอื้อมมือไปหยิบองุ่นแล้วป้อนใส่ปากอีกฝ่าย มองเห็นกระบี่ในพื้นที่ทัดเทียมกัน แต่ลานประลองนั่นถูกปกคลุมด้วยเจตจำนงกระบี่อันสงบนิ่งของเสิ่นซูเหยียนอยู่ก่อนแล้ว ยิ่งเวลาผ่านไป มันก็เกิดการรวมตัว ค่อย ๆ หลอมให้ปราณกระบี่ในมือนางกลายเป็นศัสตราวุธที่ไร้เทียมทาน
เมื่อเห็นดังนี้ ไป๋ชิวเอ๋อร์ก็ถอนหายใจออกมา “ดูท่าว่าเสิ่นซูเหยียนกำลังจะชนะ”
เสิ่นโตวผู้อยู่ด้านข้างได้ยินดังนั้น เขาก็รู้สึกภาคภูมิใจขึ้นมา ใครบ้างจะไม่ถูกใจเวลามีคนมาชื่นชมลูกของตัวเอง
ถึงแม้เดิมทีเขาจะตัดสินว่าเคล็ดวิชาของเซียวเทียนไม่ได้ต่ำต้อย จนถึงขั้นอาจจะมีศักยภาพเหนือกว่าเสิ่นซูเหยียน แต่ตอนนี้เมื่อดูจากการต่อสู้จริงแล้ว ดูเหมือนฝ่ายบุตรสาวจะเหนือกว่า…
ลู่หยวนกลืนองุ่นที่ไป๋ชิวเอ๋อร์ป้อน จากนั้นยิ้มออกมา “ไม่ต้องห่วง เซียวเทียนจะชนะแน่นอน! อย่าว่าแต่เสิ่นซูเหยียนเลย ต่อให้มีนางรวมกันสิบคน ก็ยังไม่สามารถเอาชนะเซียวเทียนได้!”
ผู้นำตระกูลเสิ่นชะงักค้าง…
ขณะปลอบใจตัวเอง คาดไม่ถึงว่าลู่หยวนจะยืนยันว่าเสิ่นซูเหยียนจะพ่ายแพ้ เซียวเทียนคนนั้นถึงกับสามารถเอาชนะนางสิบคนได้จริงหรือ?
ช่างเป็นคำพูดที่เหลวไหลนัก!
เมื่อเห็นลู่หยวนกล่าวเช่นนั้น เสิ่นโตวก็อดที่จะถามไม่ได้ “บุตรศักดิ์สิทธิ์กล่าวเช่นนี้ มีอะไรมายืนยันหรือไม่?”
ริมฝีปากของคุณชายลู่สยายเป็นรอยยิ้ม สายตาดูมีเลศนัย ตอบเสียงดังว่า “ข้าขอประกาศ ณ ที่นี้เลยว่า การต่อสู้ในวันนี้ เซียวเทียนจะต้องชนะอย่างแน่นอน! ผู้นำตระกูลเสิ่นดูเหมือนจะไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ข้ากล่าวใช่หรือไม่?”
เสิ่นโตวชำเลืองมองลานประลอง พบว่าปราณกระบี่รอบเซียวเทียนถอยมาอยู่ด้านข้าง กระบี่ยักษ์ในมือกำลังสั่นไหว ราวกับเสียหลักไปชั่วขณะ пᴏᴠᴇʟɢu.ᴄoᴍ
เซียวเทียนแพ้แน่!
ผู้นำตระกูลเสิ่นหัวเราะคิกคัก “ข้าไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่บุตรศักดิ์สิทธิ์ว่ามา ความพ่ายแพ้ของเซียวเทียนผู้นี้เป็นที่แน่ชัดแล้ว ผู้ชนะในวันนี้จะต้องเป็นลูกสาวของข้า!”
ลู่หยวนแสร้งทำเป็นเดือดดาล ตบเก้าอี้ดังฉาด เขาชี้ไปที่ลานประลองอย่างมีน้ำโห ถามเสียงดังว่า “ข้ากล้าเดิมพันด้วยอาวุธระดับจักรพรรดิว่าเซียวเทียนจะต้องชนะในวันนี้อย่างแน่นอน! เจ้ากล้าเดิมพันหรือไม่?”
เมื่อเห็นชายหนุ่มเดือดดาล เสิ่นโตวก็ยกยิ้มออกมา ไม่พยายามเก็บคำพูดของอีกฝ่ายมาคิดจริงจัง แต่หลังจากพินิจดูแล้ว หากเป็นการเดิมพัน เขาก็สามารถเอาอาวุธระดับจักรพรรดิกลับคืนมาได้ไม่ใช่หรือ?
ผู้นำตระกูลเสิ่นคล้ายกับเป็นกังวล ชำเลืองมองลานประลองอีกครั้ง เห็นเซียวเทียนถูกเสิ่นซูเหยียนต้อนจนมุม… นางกำลังจะชนะ
หากไม่เป็นเซียวเทียนพ่ายแพ้ จะกลายเป็นเขาที่แพ้เสียเอง!
เสิ่นโตวไม่ลังเลอีกต่อไป ถามทันทีว่า “บุตรศักดิ์สิทธิ์พูดความจริงอย่างนั้นหรือ?”
ลู่หยวนยกคิ้วกระบี่ขึ้น “คำพูดของข้าเหมือนกับทองคำ สิ่งที่พูดออกมาย่อมเป็นความจริง!”
หลังจากนั้น ชายหนุ่มก็ผายมือไปทางจงซื่อ “เอาอาวุธระดับจักรพรรดิมาให้ข้า!”
คนฟังตัวแข็งทื่อ การเดิมพันดังกล่าวคือการเดิมพันของเจ้า …แล้วทำไมข้าต้องมาเดิมพันด้วย?!
ลู่หยวนหันมองกลับไป ก่อนขมวดคิ้ว “เร็วสิ! จะให้ข้าพูดซ้ำหรือ?!”
จงซื่อเดือดดาลยิ่ง ก่อนจะหยิบกระบี่ระดับจักรพรรดิที่พกมาด้วยส่งให้อย่างไม่เต็มใจ “หากบุตรศักดิ์สิทธิ์แพ้ขึ้นมา ข้าจะฟ้องท่านประมุข!”
ชายหนุ่มรับกระบี่มาแทงลงกับพื้น เสียง ‘ฉึก’ ดังขึ้น กระบี่ยาวระดับจักรพรรดิถูกปักลงปฐพี
“ผู้นำตระกูลเสิ่น แล้วของเจ้าล่ะ?”
เสิ่นโตวยิ้มออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ กระบี่ยาวระดับจักรพรรดิเล่มนี้ดีกว่ากระบี่ระดับจักรพรรดิที่เขามอบให้เสียอีก วันนี้ได้กำไรแล้ว!
“บุตรศักดิ์สิทธิ์ ตระกูลเสิ่นของข้ามีหอกยาวระดับจักรพรรดิอยู่ มีนามว่าหอกพันมังกรเก้าสวรรค์ มันอยู่ในห้องโถงบรรพชน ขอเพียงบุตรศักดิ์สิทธิ์ชนะ ข้าจะขอให้คนไปเอามันมาทันที!”
ลู่หยวนพยักหน้า กล่าวเสียงดังว่า “ได้ ขอให้วิถีแห่งสวรรค์เป็นพยานต่อการเดิมพันในครั้งนี้! ทุกท่านในที่นี้ล้วนเป็นพยานเช่นกัน! ข้าขอให้คำมั่นด้วยการแปะมือ!”
ผู้นำตระกูลเสิ่นยังคงกังวลว่าอีกฝ่ายจะเล่นตุกติก เมื่อเห็นบุตรศักดิ์สิทธิ์พูดเช่นนี้ เขาย่อมตอบตกลง ก่อนแปะมือกับชายหนุ่มทันที การเดิมพันจึงเสร็จสิ้น
ลู่หยวนถอนมือกลับ มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มชั่วร้าย “ผู้นำตระกูลเสิ่น หอกพันมังกรเก้าสวรรค์นั้น บุตรศักดิ์สิทธิ์ขอรับไว้ก็แล้วกัน!”