วันพุธที่ 23 มีนาคม
โฮสเทลเขย่าขวัญอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้าง
เฉินคังทั่วกับห่าวฉยงอยู่ที่นั่นด้วย ทุกๆ วันนอกจากคอยคุมงานก่อสร้างแล้ว พวกเขาก็คอยหาข้อมูลจากนิยาย คลิป และหนังสยองขวัญเพื่อมาคิดกันว่าจะพัฒนาโปรเจ็กต์ต่างๆ ในโฮสเทลเขย่าขวัญเพิ่มยังไง
พวกเขามีลูกน้องคอยช่วยจัดการงานต่างๆ ในโปรเจ็กต์บ้านผีสิงก็จริง แต่ก็ไม่ได้มีหลายคนนัก
ทั้งสองวางแผนจะจ้างพนักงานเพิ่มจำนวนมากเพื่อมาดูแลเรื่องการขายตั๋ว การแสดง และการทำความสะอาดตอนบ้านผีสิงใกล้สมบูรณ์
แต่ทั้งสามโปรเจ็กต์ของบ้านผีสิงน่าจะใช้เวลาอีกอย่างน้อยสามเดือนถึงจะเสร็จสมบูรณ์
เฉินคังทั่วกำลังจ้องผังออกแบบบนหน้าจอคอมพิวเตอร์พลางคิดเรื่องรายละเอียดต่างๆ เหมือนอย่างที่ทำทุกวัน
ตอนนั้นเองมือถือของเขาก็สั่นแจ้งเตือนข้อความเข้า
เฉินคังทั่วลุกพรวดขึ้นแล้วกวักมือเรียกห่าวฉยง
“รีบเตรียมตัวเร็ว บอสเผยกำลังมา!”
ห่าวฉยงกำลังติดพันอะไรสักอย่างบนมือถือ นั่นก็คือนิยายสยองขวัญเรื่องล่าสุดบนเว็บจงเตี่ยนจงเหวินซึ่งมีกระแสตอบรับดีทีเดียว
แต่พอได้ยินเฉินคังทั่วเรียก เขาก็รีบถาม “ตอนไหน”
เฉินคังทั่วรีบลุกขึ้นจัดเอกสาร “อีกสิบนาทีถึง!”
ทั้งสองรีบเก็บกวาดขยะรอบๆ ทันที
พวกเขาอยู่ในออฟฟิศชั่วคราวที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งของโรงงาน และเพื่อให้สอดคล้องกับจิตวิญญาณของเถิงต๋า ในออฟฟิศจึงมีโต๊ะสำนักงานขนาดใหญ่ โซฟา ตู้เย็น โดยรวมแล้วอยู่สะดวกสบายเลยทีเดียว
แต่ปกติก็มักจะรกอยู่บ่อยๆ
บนโต๊ะกับโซฟามีของอย่างขวดน้ำอัดลม นิยายสยองขวัญ และภาพคอนเซ็ปต์กระจายอยู่ทั่ว เฉินคังทั่วกลัวว่าบอสเผยเห็นแล้วจะมองพวกเขาไม่ดี
เพราะงั้นทั้งสองเลยรีบเก็บกวาดทั้งออฟฟิศให้กลับไปอยู่ในสภาพสะอาดตามเดิม
หลังเก็บกวาดเสร็จได้ไม่นานบอสเผยก็มาถึง
เฉินคังทั่วต้อนรับบอสเผย ในมือถือแฟ้มไว้หนึ่งเล่ม
“สวัสดีครับบอสเผย! เชิญข้างในเลยครับ!”
ในแฟ้มมีข้อมูลเกี่ยวกับโปรเจ็กต์ต่างๆ ของโฮสเทลเขย่าขวัญ ไม่ว่าจะเป็นแบบแปลน รายละเอียดการออกแบบแต่ละโปรเจ็กต์ แปลนสามมิติ ข้อมูลอ้างอิง ค่าใช้จ่าย สัญญาที่เซ็นกับบริษัทต่างๆ และอื่นๆ
เฉินคังทั่วมั่นใจว่าบอสเผยจะมาถามเรื่องความคืบหน้าและรายละเอียดอื่นๆ ของโฮสเทลเขย่าขวัญ เขาเลยเตรียมพร้อมไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในเวลาอันจำกัด
ถึงเขาจะรู้รายละเอียดต่างๆ ดี แต่การมีเอกสารเตรียมไว้ให้บอสเผยดูตอนไหนก็ได้ก็ไม่เสียหายอะไร
เฉินคังทั่วเชิญบอสเผยให้นั่งบนโซฟา จากนั้นก็เตรียมตัวรายงานความคืบหน้าโปรเจ็กต์โฮสเทลเขย่าขวัญ
“บอสเผยครับ ผมขออนุญาตเริ่มที่ความคืบหน้าเรื่องการก่อสร้างโฮสเทลเขย่าขวัญก่อน” เฉินคังทั่วเริ่มพูดหลังห่าวฉยงยกชามาเสิร์ฟบอสเผย
บอสเผยหยิบชาขึ้นมาจิบ จากนั้นก็ส่ายหน้าเมื่อได้ยินที่อีกฝ่ายพูด “ไม่ต้องหรอก ผมมีเรื่องสำคัญกว่านั้นจะมาคุยกับพวกคุณ”
พอเห็นสีหน้าจริงจังของบอสเผย เฉินคังทั่วก็อดเป็นกังวลขึ้นมาไม่ได้
บอสเผยมีเรื่องสำคัญอะไรจะบอกกันนะ
ดูจากสีหน้าเคร่งเครียดแล้ว ต้องเป็นงานที่ซับซ้อนและยากมากๆ แน่!
เฉินคังทั่วกับห่าวฉยงไม่กล้าทำอะไร ได้แต่รอฟังอย่างตั้งใจแทน
เผยเชียนยกชาขึ้นจิบก่อนจะถาม “ประเมินจากสถานการณ์ตอนนี้ คุณคิดว่าบ้านผีสิงต้องใช้เวลาสร้างอีกนานเท่าไหร่”
เฉินคังทั่วตอบ “เร็วที่สุดก็สามเดือนครับ ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนเดิมที่วางไว้ก็น่าจะใช้เวลาประมาณสี่เดือน”
เผยเชียนพยักหน้า “สี่เดือนก็ถือว่ารับได้”
“ผมจะให้เงินพวกคุณอีกสี่สิบล้านหยวนเอาไปลงกับโฮสเทลเขย่าขวัญให้หมด ถ้าติดปัญหาอะไรให้บอกมาได้เลย”
เฉินคังทั่วรออยู่พักหนึ่งถึงรู้ว่าบอสเผยพูดจบแล้ว เขาเลยถามขึ้น “เอ่อ… บอสเผยมีเรื่องอื่นอีกรึเปล่าครับ”
เผยเชียนตอบ “ไม่มีแล้ว”
เฉินคังทั่ว “…เรื่องสำคัญที่บอสว่าคือเรื่องให้ทุนเพิ่มเหรอครับ”
เผยเชียนพยักหน้า “ใช่”
ใบหน้าเฉินคังทั่วเต็มไปด้วยความงุนงง แต่ไม่กี่วินาทีต่อมาเขาก็เข้าใจ “อ๋อ! เข้าใจแล้วครับ!
“บอสเผยให้ทุนเพิ่มอีกสี่สิบล้านหยวนเพื่อไปสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆ ใช่มั้ยครับ ผมมีคิดๆ ไว้อยู่!”
เฉินคังทั่วคิดเอาไว้แล้วว่างบเดิมนั้นเพียงพอต่อการสร้างโฮสเทลเขย่าขวัญ แต่ไม่เหลือพอสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มแม้แต่อย่างเดียว
จะไม่มีร้านค้า โรงแรม และร้านอาหาร ลูกค้าจะไม่มีที่ให้กิน ให้ซื้อ หรือให้พัก
เรื่องการเดินทางยิ่งหนักกว่า อย่าว่าแต่รถไฟเลย ขนาดรถโดยสารประจำทางยังไม่ผ่านมาแถวนี้
แล้วแบบนี้จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวได้ยังไง!
กะจะให้นักท่องเที่ยวขับมาเองแล้วยืนโง่ๆ รอคิวเข้าเล่นบ้านผีสิงเหรอ
ดูยังไงก็ไม่เหมาะ
แต่บอสเผยเพิ่งให้ทุนเพิ่มอีกสี่สิบล้านหยวน แบบนี้พวกเขาก็สามารถจัดการเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆ ได้สักที
เผยเชียนส่ายหัวอย่างหมดคำพูด “ผิดแล้ว งบสี่สิบล้านหยวนนี่กันไว้ให้โฮสเทลเขย่าขวัญโดยเฉพาะ
“เอาไปลงกับโปรเจ็กต์นี้ให้หมด ห้ามใช้สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆ แม้แต่หยวนเดียว แล้วก็ห้ามให้โปรเจ็กต์เสร็จสมบูรณ์ล่าช้าไปกว่านี้
“ผมขอย้ำอีกครั้งว่าโปรเจ็กต์นี้สำคัญมาก พวกคุณต้องทำออกมาให้ดี เข้าใจมั้ย”
เฉินคังทั่วงง
ฉิบหาย ฉันคิดผิดเหรอเนี่ย…
สมแล้วที่เป็นบอสเผย ไม่มีใครตามความคิดบอสทันเลย…
พวกเขาต้องเอาทุนสี่สิบล้านหยวนไปลงกับโฮสเทลเขย่าขวัญทั้งหมดและห้ามก่อสร้างเสร็จล่าช้า หมายความว่าจะทำอะไรเพิ่มอีกไม่ได้ ต้องไปปรับแก้รายละเอียดโปรเจ็กต์ที่มีอยู่ให้ดีขึ้นแทน
แต่…มันเว่อร์เกินไป!
เอาเงินไปสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆ ยังจะคุ้มกว่าอีก!
หรือบอสเผยจะมีเหตุผลเบื้องหลังซ่อนอยู่
เฉินคังทั่วรู้สึกเสียดายเงินก้อนนี้มาก แต่ก็ไม่กล้าถามอะไรให้มากความ จึงได้แต่ทำตามคำสั่งของบอสเผยอย่างเคร่งครัด “โอเคครับบอสเผย ผมจะดำเนินการตามนี้”
เผยเชียนพยักหน้าอย่างพึงพอใจก่อนจะลุกยืนขึ้น “เชิญกลับไปทำงานกันได้ เดี๋ยวจะมีคนมาสำรวจพื้นที่แถวนี้ ผมจะพาพวกเขาดูรอบๆ พวกคุณไม่ต้องสนใจนะ ถึงจะเห็นอะไรแปลกๆ ก็ห้ามถามอะไรเป็นอันขาด เข้าใจมั้ย”
เฉินคังทั่วกับห่าวฉยงพยักหน้า “ครับ!”
เผยเชียนเดินออกจากออฟฟิศแล้วขึ้นไปรอบนรถ
บอสหลี่บอกว่าจะพาทีมมาลงทุนในละแวกนี้ ซึ่งวันนี้จะแวะมาสำรวจพื้นที่และเผยเชียนจะเป็นคนพาชม
เผยเชียนจะมอบหมายให้เฉินคังทั่วทำแทนก็ได้ แต่เขาก็รู้สึกว่าวางใจไม่ได้
ถ้าเฉินคังทั่วไม่ระวังแล้วเผลอโพล่งอะไรออกไปล่ะ พวกบอสหลี่อาจจะรู้ว่าเผยเชียนทุ่มเงินก้อนโตกับโปรเจ็กต์นี้ พาลให้พวกเขาอยากได้ ‘ส่วนแบ่ง’ เพิ่มขึ้น
พอเป็นแบบนี้เผยเชียนก็จะสลัดพวกเขาทิ้งยากขึ้นกว่าเดิม
เผยเชียนคิดเอาไว้แล้ว พอพวกบอสหลี่มาถึง เขาจะพาอีกฝ่ายเดินชมรอบๆ โซนอุตสาหกรรมเก่า เพื่อให้เห็นว่ามันร้างขนาดไหน!
จะดีมากถ้าพวกเขาเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาตอนนั้นเลย
ไม่อย่างนั้นเผยเชียนก็ต้องคิดหาแผนการอื่น
…
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงต่อมา รถหรูหลายคันก็มาจอดหน้าทางเข้าโซนอุตสาหกรรมเก่า
เผยเชียนรีบเข้าไปต้อนรับบอสหลี่และนักลงทุนคนอื่นๆ อย่างเป็นกันเองโuเวลกูดoทคoม
“ขอโทษที่ให้รอนะครับบอสเผย เราไม่ค่อยคุ้นกับละแวกนี้เท่าไหร่ ก็เลยหลงกันนิดหน่อย ขอโทษด้วยครับ”
หลี่สือลงจากรถแล้วกล่าวขอโทษขอโพยบอสเผย
นักลงทุนคนอื่นๆ ทยอยลงรถตามมา ซึ่งบอสเผยก็กล่าวทักทายพวกเขาด้วยเหมือนกัน บางคนขับรถมาเอง บางคนมีคนขับรถมาด้วย แต่คนขับรถนั่งรออยู่บนรถไม่ได้ตามลงมาด้วย
เห็นได้ชัดว่าที่บอสหลี่พูดไม่ใช่ข้ออ้าง แต่เป็นความจริงล้วนๆ
แหงละ ทุกคนย่อมไม่คุ้นที่ทางแถวนี้อยู่แล้ว!
นักลงทุนสองคนขมวดคิ้วทันทีที่ลงจากรถ เพราะบริเวณนี้ร้างกว่าที่คิดเอาไว้อีก
ทุกคนเคยได้ยินเกี่ยวกับโซนอุตสาหกรรมเก่าของจิงโจว แต่ไม่มีใครเคยแวะมาเลยสักครั้ง เพราะยังไงแถวนี้ก็ไม่มีธุรกิจอะไรจึงไม่มีเหตุผลให้ต้องแวะมา
แต่พอได้มาจริงๆ พวกเขาก็รู้สึกผิดหวังมาก สถานการณ์จริงแย่กว่าที่คิดเอาไว้อีก!
หลี่สือบอกพวกเขาแล้วว่าบอสเผยกำลังสร้างบ้านผีสิงในโซนอุตสาหกรรมร้างห่างไกลผู้คน
ตอนนั้นพวกเขาคิดว่าบอสหลี่พูดเว่อร์เกิน
แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าไม่ได้เกินจริงเลย!
ที่บอกว่าร้างและห่างไกลผู้คนน่ะยังน้อยไป!
สั้นๆ คือทุกคนใจสลาย แถมยังแสดงออกชัดเจนผ่านสีหน้า
เผยเชียนสังเกตเห็นสีหน้าพวกเขาก็แอบดีใจอยู่ภายใน
เยี่ยม สีหน้าแบบนี้นี่แหละที่ฉันอยากเห็น!
ฉันบอกไปแล้วไงว่าที่นี่ร้างมาก ไม่มีทางประสบความสำเร็จหรอก แต่พวกแกไม่เชื่อฉันเอง!
ทีนี้เชื่อกันรึยัง
แน่นอนว่ามีแค่สองคนที่ดูไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด เผยเชียนรู้ว่ายังต้องพยายามอีก
เขาจะพากลุ่มนักลงทุนเดินรอบๆ โซนอุตสาหกรรมเพื่อให้สำรวจสภาพการณ์และสภาพแวดล้อมของที่นี่ได้เต็มที่
จากนั้นพวกเขาก็จะได้รู้ว่ามีแค่ตรงทางเข้าเท่านั้นที่ ‘ค่อนข้างร้างและห่างไกลผู้คน’
เพราะยิ่งเข้าไปลึกเท่าไหร่ มันจะยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ!
ในเมื่อบอกความจริงไปแล้วยังไม่ยอมฟัง คราวนี้ฉันจะโชว์ให้เห็นกับตาจะได้รู้ซึ้งกันสักที
“เชิญเลยครับทุกคน เดี๋ยวผมพาชมว่าโซนอุตสาหกรรมและโฮสเทลเขย่าขวัญตอนนี้เป็นยังไง”
จากนั้นเผยเชียนก็พากลุ่มนักลงทุนเข้าไปในโซนอุตสาหกรรม
…
สามสิบนาทีต่อมาทุกคนก็เดินออกมาจากส่วนลึกสุดของโซนอุตสาหกรรม แล้วมาหยุดอยู่ตรงหน้าโรงงานหลังหนึ่งที่กำลังปรับปรุงใหม่ให้เป็นโฮสเทลเขย่าขวัญ
นักลงทุนสองคนที่อายุเยอะหน่อยพากันเหนื่อยหอบจากการเดิน หลี่สือเองก็นวดขาตัวเองขณะที่เหงื่อไหลอาบแก้ม
เผยเชียนเพิ่งจะอายุยี่สิบ การเดินแค่นี้ไม่ได้เหนื่อยอะไรเลยสำหรับเขา แต่พวกนักลงทุนมีคนคอยดูแลอยู่ตลอด การเดินแค่ครึ่งชั่วโมงจึงทำให้พวกเขารู้สึกเหนื่อยอ่อน
ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังรู้สึกแปลกใจที่ทุกคนตามทัน และไม่มีใครยอมแพ้แล้วเดินกลับไปอย่างขุ่นเคือง
แต่ทุกคนก็ยังดูไม่พอใจเหมือนเดิม
หลังจากเดินดูรอบๆ พวกเขาก็ตระหนักแล้วว่าตัวเองนั้นคิดผิดมหันต์ที่คิดว่าตรงทางเข้านั้นรกร้างเกินไป
เพราะพอเห็นด้านในถึงได้เข้าใจแจ่มแจ้งถึงความรกร้างของที่นี่!
ถึงทางเข้าจะดูร้างแต่อย่างน้อยพื้นก็สะอาด แต่พอเดินลึกเข้าไปพวกเขาก็เจอกองขยะ ผนังพ่นสีมั่วซั่วและหญ้าขึ้นสูงเป็นหย่อมๆ
ทุกอย่างชี้ให้เห็นว่าทางเข้าอันแสนร้างนั้นดูดีที่สุดในโซนอุตสาหกรรมแล้ว
เผยเชียนยิ้ม เขารู้สึกว่าตัวเองทำตามเป้าหมายได้ครึ่งทางแล้ว
เขาแค่ต้องโชว์ให้ทุกคนเห็นว่าโซนอุตสาหกรรมนั้นดูแย่ขนาดไหน เพื่อที่พวกเขาจะได้รู้ว่าถ้าเอาเงินมาลงทุนในละแวกนี้จะเป็นยังไง…
เผยเชียนมั่นใจว่านักลงทุนบางส่วนต้องเปลี่ยนใจทันควันแน่!
เขากระแอมกระไอ “ทุกคนครับ ผมขอย้ำอีกครั้งนะครับ
“การมาลงทุนที่นี่มีแต่ขาดทุน”
เผยเชียนพยายามพูดให้จริงใจที่สุด
เขาพอจะมองออกว่ามีนักลงทุนสองถึงสามคนเริ่มอยากถอนตัวแล้ว
พวกเขาสนใจอยากลงทุนด้วยเพราะเห็นว่าโปรเจ็กต์ที่ผ่านๆ มาของบอสเผยนั้นประสบความสำเร็จขนาดไหน แต่พอได้เห็นสภาพจริงๆ ของโซนอุตสาหกรรม พวกเขาก็เริ่มคิดว่าต่อให้โปรเจ็กต์ก่อนๆ ของบอสเผยจะประสบความสำเร็จมากแค่ไหนก็ไม่สำคัญ
การทำให้ที่ตรงนี้ดังขึ้นมาได้นั้นยากเท่าๆ กับการเปลี่ยนกรวดให้เป็นทอง!
แต่ทุกคนก็รู้สึกกระดากใจที่จะบอกว่าไม่อยากลงทุนแล้ว จึงได้แต่หันมองกัน รอให้ใครสักคนเปิดประเด็น
เผยเชียนไม่ได้รีบอะไร ขอแค่อดทนคอย เดี๋ยวก็มีคนเปิดประเด็นขึ้นเองหลังจากประเมินเงินทุนที่ตัวเองมี
แต่เหมือนหลี่สือจะสังเกตเห็นเหมือนกัน
เขาก้าวไปข้างหน้าด้วยความแน่วแน่ ก่อนจะไล่สายตามองกลุ่มนักลงทุน “เป็นอะไรกันครับ เราคุยกันแล้วไม่ใช่เหรอ มีใครคิดจะถอนตัวขึ้นมารึไง!”
น้ำเสียงของเขาหนักแน่นและเด็ดเดี่ยว
เผยเชียน “…?”
เขามองหลี่สือด้วยแววตางุนงง
หลี่สือพยักหน้าอย่างหนักแน่นให้เผยเชียน ก่อนจะหันกลับไปมองเหล่านักลงทุน “น่าสมเพช! บอสเผยกำลังทดสอบว่าพวกคุณแน่วแน่ขนาดไหนต่างหาก!
“ก่อนหน้านี้พวกคุณทุกคนบอกว่าจะไม่ลงทุนในโปรเจ็กต์ไหนอีกนอกจากโปรเจ็กต์ของบอสเผย แต่ตอนนี้ได้เดินดูอะไรแค่ผิวเผินก็เปลี่ยนใจแล้ว หญ้าแถวนี้ยังไม่โอนเอนง่ายเท่าพวกคุณเลย!
“คิดถึงพวกคนที่ไม่เชื่อมั่นในตัวบอสเผยตอนลงทุนในแอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ สิ ดูสิตอนนี้เป็นยังไงกัน!
“อยากพลาดโอกาสลงทุนในโปรเจ็กต์ปังๆ แบบพวกเขาเหรอ”
พอได้ยินที่หลี่สือพูด พวกที่ทำสีหน้าเหมือนอยากถอนตัวก็กลับมามีสายตาแน่วแน่อีกครั้ง
พวกเขาเหลือบมองกันพลางครุ่นคิด
หลี่สือหันกลับมายิ้มให้เผยเชียน เหมือนกับจะบอกว่า ‘ไม่ต้องห่วงนะครับ ถ้ามีผมอยู่ ไม่มีใครคิดถอนตัวแน่!’
เผยเชียน “…”
เหนื่อยใจเหลือเกิน