📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี บันทึกตำนานราชันอหังการ – ตอนที่ 497

บทที่ 497 - ช่างเป็นดาบที่น่ากลัวจริง ๆ
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

ฝนในฤดูใบไม้ร่วงตกอย่างต่อเนื่อง

ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน ทันใดนั้นร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในอากาศ เหยียบลงบนเรือ ก่อนจะแล่นเหนือผิวทะเลสาบชูอวิ๋นตรงเข้ามาที่นี่

แม้ว่าแสงไฟจะสลัว แต่ในจิตสัมผัสของซูอี้ก็ยังคงเห็นได้อย่างชัดเจนว่านี่คือชายชราในชุดคลุมสีขาว

ชายชราไม่ทราบอายุมีรอยย่นมากมายอยู่บนใบหน้า ทว่าดวงตาของเขากลับใสกระจ่างดุจทารกแรกเกิด แต่ถ้ามองดี ๆ จะรู้สึกว่าดวงตาคู่นั้นลึกล้ำดั่งห้วงมหาสมุทร

มือซ้ายถือกล่องดาบไว้ ขณะเหยียบบนเรือแล่นมาอย่างไร้ซึ่งสำเนียง

เมื่อเขาเห็นคนผู้นี้ ซูอี้ก็ทราบได้ในทันทีว่านี่คือฮั่วเทียนตู!

ผู้อาวุโสใหญ่สายในแห่งวังเทพสวรรค์เมฆา ซึ่งอยู่ในขอบเขตขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณขั้นกลาง ตัวตนที่อยู่ในวิถีวิญญาณมาเป็นเวลากว่าสองร้อยแปดสิบปีแล้ว และมีฉายาอันทรงเกียรติในต้าเซี่ยว่า “ดาบชางหยวนที่แท้จริง”

“เจ้าเฒ่านั่นมาที่นี่จริง ๆ!”

ภายในเพิงน้ำชา เวิงจิ่วขมวดคิ้ว

เขาตระหนักดีถึงพลังของฮั่วเทียนตู ในต้าเซี่ยปัจจุบันนี้ ฮั่วเทียนตูนับเป็นตัวตนวิถีวิญญาณที่ทรงพลังยิ่ง

เขาเชี่ยวชาญ ‘ภาวะดาบชางหยวน’ และครอบครอง ‘คัมภีร์ดาบธาราสวรรค์’ อันเป็นหนึ่งในสามมรดกคัมภีร์ดาบของวังเทพสวรรค์เมฆา ซึ่งมันเป็นวิชาที่ทรงพลังเกินกว่าจะนำตัวตนขอบเขตเดียวกันมาเทียบได้

ในกล่องดาบในมือเขาคือดาบโบราณซึ่งมีต้นกำเนิดที่ยิ่งใหญ่เช่นกัน เรียกว่า ‘ดาบน้ำค้างใต้พิภพ’ ว่ากันว่าเป็นสมบัติของสำนักดาบเก่าแก่เมื่อสามหมื่นปีก่อน พลังสังหารของมันน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก!

“เจ้าหนุ่มซูอี้นั่น หากคิดใช้ตาเฒ่านี่มาเป็นหินลับคม เกรงว่าคมดาบคงถึงคราวหักแน่…”

เวิงจิ่วกังวลเล็กน้อย ก่อนจะมองไปที่ซูอี้โดยไม่รู้ตัว

สิ่งที่ทำให้เขาอึ้งไปก็คือ เขามองไม่เห็นความผันผวนทางอารมณ์จากซูอี้แม้แต่น้อย มันมีเพียงความเฉยเมยต่อผู้คน

ความเฉยเมยนี้ราวกับเทพเซียนที่กำลังมองลงมายังสิ่งมีชีวิตทั้งปวง!

ไร้ยินดีหรือโศกเศร้า ปลีกตัวจากทางโลก

เมื่อเห็นสิ่งนี้ เวิงจิ่วก็หรี่ตาลงเล็กน้อย นี่คือสภาวะของจิตใจที่คนหนุ่มสามารถมีได้รึ!?

“สหายเต๋าเวิง ดึกป่านนี้เจ้ามาทำอะไรที่นี่กัน?”

ทันใดนั้น เสียงแหบแห้งของฮั่วเทียนตูถูกถ่ายทอดมาจากเรือลำน้อย

เวิงจิ่วกล่าวเบา ๆ ว่า “อย่ากังวลไป ชายชราจะไม่เข้าไปแทรกแซงเรื่องนี้ ข้ามาเพียงเพื่อชมดูการต่อสู้เท่านั้น”

ฮั่วเทียนตูบนเรือแค่นเสียงกล่าว “ช่างน่าขอบคุณยิ่งนัก”

เวิงจิ่วนั่งลงช้า ๆ แล้ววางกู่ฉินไม้ลงด้านหน้าแล้วกดนิ้วลงบนสาย

“ท่านผู้อาวุโส!”

ที่ทะเลสาบชูอวิ๋น ชายวัยกลางคนสวมชุดคลุมตื่นเต้นมากจนคุกเข่าคำนับ และกล่าวอย่างเศร้า ๆ ว่า “ยอดฝีมือขอบเขตรวบรวมดาราสิบสามคนภายใต้ตระกูลฮั่วของเราล้วนถูกชายผู้นี้ฆ่าตายอย่างไร้ความปรานี ด้วยความสิ้นหวังพวกเราจึงทำได้เพียงเชิญผู้อาวุโสมาที่นี่”

“เจ้าถอยออกไปเถิด”

ฮั่วเทียนตูพูดอย่างใจเย็น

เขาเหลือบมองไปยังพื้นที่ใกล้เคียง สูดกลิ่นอายโลหิตในอากาศ ก่อนความเย็นเยียบจะปรากฏขึ้นในดวงตาลึกล้ำดังมหาสมุทรของเขา

“สายลมฤดูใบไม้ร่วง สายฝนในฤดูใบไม้ร่วง ค่ำคืนในฤดูใบไม้ร่วง นี่คือความงามอันเยือกเย็นของฟ้าดิน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าฤดูกาลเหล่านี้เหมาะสมที่สุดในการสังหารผู้คน”

ขณะพูดฮั่วเทียนตูก็มองไปที่ซูอี้

นักดาบขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณที่มีชื่อเสียงก้องทั่วโลกมีท่าทีที่ไม่แยแสและสงบนิ่ง “ข้าแค่ไม่คิดว่าตัวกระจ้อยวิถีต้นกำเนิดเช่นเจ้าจะกล้ามาจริง ๆ”

เสียงแหบแห้งที่ฟังเสมือนความหนาวเหน็บของสายลมฝนของฤดูใบไม้ร่วงล่องลอยอยู่เหนือทะเลสาบ อากาศในบริเวณใกล้เคียงคล้ายถูกแช่แข็งโดยพลังที่มองไม่เห็นจากตัวเขา

“ตัวเจ้า ฮั่วเทียนตู ในสายตาของข้า นอกจากหินลับดาบแล้วก็ไม่นับเป็นตัวอะไร แล้วเจ้าจะทำให้ข้าหวาดกลัวได้อย่างไร?”

ซูอี้เอามือไพล่หลัง ขณะที่ดวงตาของเขามีร่องรอยของการพินิจ

ทำเหมือนว่ากำลังชื่นชมหินลับดาบอยู่จริง ๆ

การดำรงอยู่ของขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณ มหาปราชญ์สวรรค์วิถีวิญญาณนั้นห่างไกลเกินจะนำไปเปรียบกับขอบเขตทั้งสามของวิถีต้นกำเนิดได้

ทว่าในสายตาของซูอี้ ผู้ฝึกตนอย่างฮั่วเทียนตูนั้นแข็งแกร่งกว่าตัวตนอย่างลี่เมี่ยวหงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ในช่วงต้นของขอบเขตไร้เบญจธัญ ซูอี้ตัดสินจากประสบการณ์ก่อนหน้านี้ว่าด้วยการฝึกฝนของเขาในเวลานั้น เขาเพียงพอที่จะต่อสู้กับตัวตนในขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณ

แต่ตอนนี้เขาอยู่ในขั้นต้นของขอบเขตเปิดทวารแล้ว และในไม่ช้าเขาก็จะสามารถไปถึงขั้นกลางของขอบเขตเปิดทวารได้

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ซูอี้จึงไม่มีความหวาดกลัวใด ๆ

ตรงกันข้าม เขาปรารถนาที่จะหาคู่ต่อสู้ขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณมาเพื่อลับคมดาบของตน

แต่ไม่ว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้พบลี่เมี่ยวหง ณ ขอบผามังกรด้วน หรือเฒ่าปีศาจฮว่าถูในฮ่วนซีชาเมื่อวานนี้ พวกเขาทั้งหมดต่างถูก ‘แย่ง’ กำจัดไปเพื่อจบปัญหา

ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ซูอี้รู้สึกเสียใจอย่างมาก

ดังนั้นเมื่อฮั่วเทียนตูปรากฏตัวในเวลานี้ ซูอี้จึงรู้สึกดีใจเล็กน้อย

นอกจากนี้ฮั่วเทียนตูยังมีรัศมีคลุมเครือปกคลุม ซึ่งดูเหมือนจะเป็นอาวุธวิเศษหรือทักษะลึกลับบางอย่าง แม้ว่ามันจะไม่ได้ทำให้ซูอี้รู้สึกถูกคุกคาม แต่มันก็ได้กระตุ้นความสนใจของเขาขึ้นมา

“หินลับดาบรึ?”

บนเรือที่อยู่ไกลออกไป ฮั่วเทียนตูเลิกคิ้วและหัวเราะอย่างตะลึง “ตัวตนวิถีต้นกำเนิดเล็กจ้อยกลับกล้าถือเอาข้าที่อยู่ในวิถีวิญญาณเป็นหินลับดาบ ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไปจะไม่ทำให้ผู้คนหัวเราะจนฟันหักกันหมดรึ?”

เขายกยิ้ม หากดวงตากลับลุ่มลึกและไม่แยแส “แน่นอน ชายชราคนนี้รู้ว่าสหายน้อยซูเป็นคนที่พิเศษนัก สามารถกดหัวจางอวิ๋นเทา ผู้อาวุโสสายนอกของวังเทพสวรรค์เมฆาด้วยสองดาบ และสังหารศิษย์สายในสามคนของวังเทพสวรรค์เมฆาของข้า โดยเพิกเฉยต่อผลที่จะตามมา ด้วยความแข็งแกร่งและความกล้าหาญเช่นนี้ไม่อาจพบได้ในโลกการบ่มเพาะปัจจุบันนี้”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ แววตาของเขาลุ่มลึกขึ้นอย่างเต็มไปด้วยแรงกดดัน “แล้วยังคืนนี้อีก ถ้าเป็นคนอื่นคงจะไม่มาตามนัดหมายอย่างแน่นอน แต่สหายตัวน้อยก็มา ทั้งยังสังหารตัวตนขอบเขตรวบรวมดาราตระกูลฮั่วของข้าไปหลายสิบคนลงด้วยดาบเดียว พูดตามตรงว่าแม้แต่ชายชราเองก็ยังนึกตกใจ”

ฉับพลัน ฮั่วเทียนตูส่ายหัวและกล่าวว่า “น่าเสียดายที่สหายตัวน้อยยังไม่ได้ก้าวเข้าสู่วิถีวิญญาณ ถึงเจ้าจะแทบไร้เทียมทานเหนือขอบเขตทั้งสามของวิถีต้นกำเนิด แต่คืนนี้ เกรงว่าสหายตัวน้อยจะรอดทะเลสาบชูอวิ๋นนี้ไปได้ยาก”

“ไม่มีสิ่งใดเที่ยงแท้ การฝึกตนก็เช่นเดียวกัน การแบ่งระดับบ่มเพาะออกตามขั้นวิถีก็เป็นข้อพิสูจน์ได้ว่าวิสัยทัศน์ของเจ้าคับแคบและเห็นโลกมาน้อยเกินไป”

ซูอี้พูดเบา ๆ

วิถีต้นกำเนิดกับวิถีวิญญาณนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงและไม่อาจนำมาเทียบได้

แต่ในเก้ามหาแดนดิน ไม่เคยมีใครขาดแคลนคนโหดเหี้ยมที่หาญกล้าบุกทะลวงเข้าสังหารศัตรูข้ามวิถี!

“ฮ่า ๆๆ”

ฮั่วเทียนตูหัวเราะ “ความแตกต่างระหว่างขอบเขตเปิดทวารกับขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณแตกต่างอันใดจากการเทียบเมฆบนฟ้ากับโคลนตมงั้นหรือ? หากเจ้าพึ่งเพียงพลังของตน ชายชราก็สามารถสังหารฆ่าเจ้าได้อย่างง่ายดาย!”

“พูดไร้สาระเสียจริง หรือเจ้ากังวลว่าข้าจะร้องขอความช่วยเหลือรึ?”

ซูอี้ยิ้มเยาะ “ไม่ต้องกังวลไป ในคืนนี้จะไม่มีใครเข้ามาแทรกแซงได้ทั้งนั้น”

“ถึงแม้คืนนี้จะมีใครมาแทรกแซง ชายชราก็จะสังหารเจ้าให้ได้!”

ดวงตาฮั่วเทียนตูฉายความเศร้า ขณะกล่าว “ถ้าข้าไม่สังหารเจ้าเสีย จะมีหน้าไปพบหลานชายของข้า ฮั่วอวิ๋นเซิง ได้อย่างไร? ข้าจะปกป้องความยิ่งใหญ่ของวังเทพสวรรค์เมฆาได้อย่างไร? แล้วข้าจะระบายความโกรธของตระกูลฮั่วของข้าได้อย่างไร?”

ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าและมีแรงกดดันมหาศาลอยู่รอบตัวเขาโน!วลกูดoทคอม

ในขณะนี้ ฮั่วเทียนตู นักดาบของขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณที่สามารถสั่นคลอนโลกได้ ตัดสินใจลงมือสังหาร!

เคร้ง!

ฮั่วเทียนตูเหวี่ยงมือซ้าย ฝักดาบพลันเปิดออก และดาบวิญญาณที่ส่องแสงสีเทาเย็นยะเยือกก็พุ่งออกไป ก่อนถูกเขาคว้าเอาไว้ด้วยมือขวา

“ชื่อของดาบนี้คือดาบน้ำค้างใต้พิภพ มันติดตามข้าไปพิชิตโลกมาเป็นเวลาหนึ่งร้อยเก้าสิบสามปี และสังหารศัตรูมามานับไม่ถ้วน ถ้าคืนนี้สหายตัวน้อยเช่นเจ้าสามารถตกตายด้วยดาบนี้ แม้ไปปรโลกเกรงว่าก็ยังยิ้มได้”

เสื้อคลุมของฮั่วเทียนตูโป่งพองขึ้น ก่อนพลังของขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณขั้นกลางจะแพร่กระจายออกไปในขณะนี้

ตัวเรือที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขาแตกเป็นผง ทะเลสาบส่งเสียงก้องคำรามสนั่น ก่อเป็นคลื่นน้ำพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้าบดขยี้เมฆฝนบนท้องฟ้ายามค่ำคืนให้กระจายหายไป

ที่ริมฝั่งของทะเลสาบชูอวิ๋นมีเสียงเซ็งแซ่ดังขึ้น เห็นได้ว่าในกลางดึกเช่นนี้ ผู้ฝึกตนหลายคนพากันตื่นตระหนกและคอยเฝ้าดูอย่างห่าง ๆ

เมื่อพวกเขามองเห็นพลังของขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณจากระยะไกล พวกเขาก็อดที่จะตกตะลึงไม่ได้

ดวงตาที่ลึกล้ำของซูอี้สว่างขึ้นดุจแสงสะท้อนของหยาดน้ำค้าง

ราวกับถูกกระตุ้น พลังปราณของเขาส่งเสียงคำรามอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และไต่ปีนขึ้นสู่จุดสูงสุดในพริบตา

บนร่างที่สูงเพรียวนั้นได้ก่อคมดาบแหลมขึ้นดุจเทพเซียนแห่งดาบอันไร้เทียมทานถือกำเนิด ก่อนปราณดาบจะทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างสง่างาม ตัดทะลุท้องฟ้ายามค่ำคืนไป

“ในที่สุดก็พบหินลับดาบที่คู่ควรสักที…”

ซูอี้พึมพำ

เคร้ง!

แทบจะในเวลาเดียวกัน ดาบนิลกาฬกลืนฟ้าก็กวาดออกไป ตัวดาบใสกระจ่างดุจท้องฟ้ายามค่ำคืนส่งเสียงร้องอันกระหายเลือดออกมาอย่างชัดเจน

ชั่วขณะนี้ ซูอี้คล้ายจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เขาดูราวกับเป็นเทพเซียนในร่างดาบ ร่างกายดุร้ายและทรงพลังพร้อมทะลวงฟ้าดิน

คมดาบนั้นไร้ขอบเขตและไม่อาจยับยั้งได้!

“เยี่ยม!”

ในเพิงน้ำชาริมทะเลสาบ ดวงตาของเวิงจิ่วเป็นประกาย และนิ้วมือทั้งสองข้างที่กดลงบนสายก่อนแล้วก็เริ่มดีด

ติ๊ง!

เมื่อเสียงแรกของกู่ฉินดุจประกายแสงสีทองเจิดจ้าและอาชาติดเสื้อหุ้มเกาะดังก้องอยู่ในท้องฟ้ายามค่ำคืน ฮั่วเทียนตูก็พลันเริ่มลงมือ

ฟ้าว!

เขาเหวี่ยงดาบฟันข้ามท้องฟ้ามาอย่างรุนแรง

ในอากาศ ปราณดาบตกลงมาเสมือนแม่น้ำสวรรค์ ทรงพลังราวกับพายุ พลังยิ่งใหญ่อันยากจะประเมินนี้ดุจจะบดขยี้ทุกสิ่งลง

ดาบธาราสวรรค์!

วิชาดาบนี้เป็นหนึ่งในสามมรดกหลักของวังเทพสวรรค์เมฆา เมื่อถูกใช้โดยฮั่วเทียนตู ผู้ฝึกตนขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณ พลังดังกล่าวจึงทำให้ทะเลสาบชูอวิ๋นสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ส่งกระแสน้ำเชี่ยวกรากซัดออกไปหลายพันลี้!

มันเป็นเพียงดาบหนึ่ง แต่ปราณดาบได้เข้าครอบงำโลก และพลังดาบก็สะเทือนไปถึงเก้าชั้นฟ้า!

ตูม!

ปราณดาบอันทรงพลังนั้นฟันออกมาด้วยโทสะ

แขนเสื้อที่สง่างามของซูอี้ไม่หลบลี้หรือหลีกเลี่ยง มันพุ่งไปข้างหน้าพร้อมดาบนิลกาฬกลืนฟ้าในมือที่ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า

…ท่วงท่าของเขาไร้การยับยั้ง ดุจการร่ายรำดาบของเทพเซียน ไร้ซึ่งกลิ่นอายของโลกมนุษย์

แต่ถึงอย่างไรอีกฝ่ายหนึ่งก็เป็นตัวตนขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณขั้นกลาง ดังนั้นซูอี้ย่อมไม่ประมาท เขาคิดทุ่มใช้พลังอย่างไม่คิดกักเก็บไว้

ดังนั้นเมื่อดาบเล่มนี้ถูกฟันออกไป เงาร่างของปราณดาบอันชัดแจ้งก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ก่อเกิดคมดาบไร้ขอบเขตแฝงไว้ด้วยจังหวะวิถีเบญจธาตุ

ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิดถูกส่องสว่างด้วยดาบเล่มนี้

มันยิ่งใหญ่ส่องสว่างเจิดจ้าราวกับดวงตะวัน!

ตูม!

เมื่อปราณดาบที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงสองอันปะทะกัน ฉากที่น่าตกใจก็ปรากฏขึ้นเหนือทะเลสาบชูอวิ๋น

ภายใต้สายตาตกใจนับไม่ถ้วนของผู้คน ดาบของซูอี้นั้นพุ่งตรงราวกับพายุ และด้วยพลังของดาบเดียว มันได้ฉีกปราณดาบอันทรงพลังดุจน้ำจากแม่น้ำสวรรค์ของฮั่วเทียนตูออกเป็นแนวตรง!

ขณะที่รอยแตกขยายออกไป ปราณดาบที่พังทลายก็ถูกแหวกกระจายออกเป็นสองฝั่งราวกับกระแสน้ำ ก่อเป็นสายฝนพราวแสงสาดส่องและโปรยปรายลงมา

ในชั่วพริบตา ดาบจากฮั่วเทียนตู มหาปราชญ์สวรรค์ขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณก็ถูกผ่าออกเป็นสองส่วนด้วยปราณดาบของซูอี้ราวกับเศษผ้า!

ดาบนี้เรียกว่าตัดสมุทรผ่าขุนเขา กระบวนท่าของเพลงดาบสุดปรีดี ซึ่งมันยังคงพุ่งต่อไปข้างหน้า!

ในเพิงน้ำชาห่างออกไป นิ้วของเวิงจิ่วที่สัมผัสกู่ฉินสั่นเล็กน้อย ดวงตาของเขาเผยแววประหลาดใจ

ช่างเป็นดาบที่น่ากลัวอะไรเช่นนี้!

Facebook Twitter Telegram Pinterest
บันทึกตำนานราชันอหังการ

บันทึกตำนานราชันอหังการ

First Immortal of The Sword, Fis, Jiandao di yi xian, Supreme sword god (donghua), 剑道第一仙
Score 8.8
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังเลือนลั่นฟ้า การจากไปของผู้ยิ่งใหญ่นำมาซึ่งความโกลาหนทั่วเก้ามหาแดนดิน เหล่าคนละโมบต่างคิดหมายแย่งชิงสิ่งวิเศษที่ผู้เป็นยอดปรมาจารย์เคยปกครองยุคสมัยครอบครอง ทว่านั่นหาใช่จุดจบ แต่มันคือจุดเริ่มต้น! แท้จริงแล้วภายในโลงสัมฤทธิ์ มันว่างเปล่า! ไร้ศพ ไร้คน และไร้ซึ่งดาบเก้าคุมขัง!!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset