📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยาย World’s Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกาออนไลน์ – ตอนที่ 490

บทที่ 490 - เสื้อคลุมดวงดารา
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

“ต้องการเสื้อคลุมดวงดาราอย่างงั้นหรอ .. ”

ซูเซี่ยเอ๋องึมงำ

ทันใดนั้น เธอก็กวาดมือออกไป พร้อมกับเสื้อคลุมสีดำที่เต็มไปด้วยดวงดาราปรากฏขึ้นมาในฉับพลัน

เมื่อได้เห็นถึงเสื้อคลุมนี้ สีหน้าของทั้งแปดจ้าวมณฑลก็แปรเปลี่ยนไป

ซูเซี่ยเอ๋อไม่ทราบเกี่ยวกับมันก็จริง แต่สำหรับแปดจ้าวมณฑลที่เหลือแล้วพวกเขารู้!

ว่ายามใดที่สวมใส่เสื้อคลุม ผู้พิทักษ์แห่งเก้าตระกูลก็จะสามารถเฝ้ามองถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้

เสื้อคลุมนี้จึงเปรียบดั่งเกราะคุ้มภัยอันยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับจ้าวมณฑลทั้งเก้า

ดังนั้น พวกเขาจึงกล้าที่จะจัดการกับพ่อแม่ของซูเซี่ยเอ๋อ ทว่าไม่กล้าที่จะลงมือกับซูเซี่ยเอ๋อโดยตรงตั้งแต่แรก

แม้แต่กับซูเซี่ยเอ๋อพวกเขายังจะต้องลงมือผ่านพ่อแม่ นับประสาอะไรกับยามที่เสื้อคลุมปรากฏขึ้นมา คงไม่ต้องกล่าวถึง พวกเขาจึงยินดีละทิ้งโอกาสนี้ แล้วค่อยไปลงมือเอาคราวหน้าก็ได้

“หยุดมือ!” แปดจ้าวมณฑลเอ่ยเป็นเสียงเดียวกัน

ซูเซี่ยเอ๋อเป็นคนแรกที่ผ่านการสืบทอดความแข็งแกร่งในรอบหลายพันปี เป็นคนที่ได้รับการโปรดปรานจากท่านผู้พิทักษ์

และพวกเขาไม่กล้าที่จะให้ท่านผูิพิทักษ์ค้นพบว่า พวกตนกำลังจะจัดการกับซูเซี่ยเอ๋ออยู่

ผู้ฝึกยุทธทั้งหมดหยุดการโจมตี ปากอ้าหอบหายใจหนักหน่วง

ทุกชนิดของเทคนิคมนตราได้ระเบิดการโจมตีไปเป็นเวลานาน แต่กลับไม่สามารถทำร้ายตระกูลซูทั้งสามคนได้เลย ยิ่งนาน ในหัวใจของผู้ฝึกยุทธอดไม่ได้ที่จะยิ่งท้อมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ

พวกเขาฝึกฝนมาได้ถึงระดับหนึ่ง แถมยังสามารถปลุกการรับรู้ทางพลังวิญญาณให้ตื่นขึ้นมาแล้วอีกด้วย

ทั้งหมดจึงมีลางสังหรณ์อันบางเบา มันเป็นสังหรณ์ร้ายผุดเข้ามาในการรับรู้ทางพลังวิญญาณของเหล่าผู้ฝึกยุทธชั้นยอดเหล่านี้

ดังนั้น เมื่อได้รับฟัง ทั้งหมดจึงฉวยโอกาสนี้หยุดมือทันที

ตลอดทั้งลานเงียบสงัด

ท่ามกลางความเงียบ สายตาทั้งหมดต่างจ้องมองมายังซูเซี่ยเอ๋อ

“นี่มันเรื่องจริงงั้นหรือนี่?”

“นั่นน่ะเหรอเสื้อคลุมดวงดาราที่เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงสถานะของจ้าวมณฑล?”

“ดูเหมือนว่าจะใช่นะ”

“เสื้อคลุมนั้นสวยจัง!”

“ปรากฏว่าตำนานเป็นความจริงสินะ”

….

ผู้คนต่างลดเสียง และเริ่มกระซิบกระซาบ

ซูเซี่ยเอ๋อมองซูเซิงเหวินกับมาดามซูด้วยสายตาที่ราวกับกำลังมองคนแปลกหน้า

เธอถือเสื้อคลุมดวงดาราเดินตรงไปหาพ่อแม่ของตัวเอง

“ท่านพ่อ ท่านแม่ เสื้อคลุมอยู่นี่แล้ว แต่มีสิ่งหนึ่งที่หนูอยากจะบอกกับท่านให้มันชัดเจน”

“เซี่ยเอ๋อ เจ้าพูดมาได้เลย”

“เมื่อท่านเอาเสื้อคลุมนี่ไปแล้ว ตัวหนูจะถือว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลซูอีกต่อไป ถ้าตกลงให้หนูออกจากตระกูลซู พ่อกับแม่ก็เอาเสื้อคลุมนี้ไปได้เลย”

ซูเซี่ยเอ๋อพูดอย่างใจเย็น

ขณะที่ภายในดวงตาของเธอ ประกายสุดท้ายจากหยาดน้ำใสๆได้ผุดออกมา

“พูดอะไรไร้สาระ!” ซูเซิงเหวินตะโกน “ต่อให้เสื้อคลุมอยู่ในมือพ่อ เจ้าก็ยังเป็นลูกสาวของพ่ออยู่ดี”

เขาคว้าเสื้อคลุม และสวมมันทับใส่ตนเอง

บังเกิดความปั่นป่วนขึ้นในฝูงชน

แบบนี้ ก็แสดงว่าเสื้อคลุมดวงดาราของตระกูลซู ได้ถูกเปลี่ยนมือไปแล้วใช่ไหม?

ผู้คนอดไม่ได้ที่จะระงับเสียงของตนเอง

กระทั่งใบหน้าของทั้งแปดจ้าวมณฑล ก็ยังเผยถึงความซับซ้อน

ซูเซี่ยเอ๋อมองดูเสื้อคลุมที่พ่อของเธอสวมใส่ ปากเอ่ยเสียงกระซิบ “ในเมื่อเป็นแบบนี้ … ”

เธอลดหัวลง พร้อมกับประกายระยับในแววตาที่หายไป

ไม่มีใครสามารถมองเห็นสีหน้าของเธอในเวลานี้ได้

มาดามซูเดินมาจะดึงลูกสาวเข้าไปกอด

“ลูกสาวที่ดี-”

แต่ซูเซี่ยเอ๋อกลับก้าวถอยหลัง หลบฉากออกมา

เธอเลี่ยงมือของมาดามซู และหันไปมองอีกแปดจ้าวมณฑล

“อีกเรื่องหนึ่ง”

“พวกคุณต้องล้มเลิกการก่อตั้งสหพันธ์พันธมิตรผู้ฝึกยุทธซะ” เธอกล่าว

คราวนี้ฝูงชนโดยรอบล้วนตกตะลึง

แต่ละคนต่างหันไปสบตากับคนข้างๆ

ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าสถานการณ์มันจะเปลี่ยนแปลงไปในรูปแบบนี้

เพื่อก่อตั้งสหพันธ์พันธมิตรขึ้น ทางเก้าตระกูลใหญ่จำต้องทุ่มออกด้วยความพยายามเป็นอย่างมาก

มันคือองค์กรที่จะใช้เพื่อยึดครองและนำพาผู้คนทั้งโลก แต่ตอนนี้ ซูเซี่ยเอ๋อกลับประกาศออกมาว่าให้ทุกคนล้มเลิกมันไปซะ

ผู้คนจ้องมองเธอด้วยสายตาเย็นชา

“เจ้าไม่ใช่จ้าวมณฑลอีกต่อไปแล้ว!” จ้าวมณฑลคนหนึ่งกล่าว

ขณะที่จ้าวมณฑลคนอื่นๆส่งสัญญาณทางสายตาให้กันและกัน

บัดนี้ ซูเซี่ยเอ๋อมิได้ครอบครองชุดคลุมดวงดาราอีกต่อไป

ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกังวลว่าท่านผู้พิทักษ์จะเห็นถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ตอนนี้ พวกเขาสามารถลงมือจัดการกับซูเซี่ยเอ๋อได้เลยโดยตรง

ไม่ว่าเธอจะแข็งแกร่งสักเพียงใด แต่ก็น่าจะมีจุดอ่อนอยู่บ้างแหละน่า

จับเธอได้เมื่อไหร่ ก็จะค่อยๆทรมานเธอจนคายความลับออกมา จากนั้นเก้าตระกูลใหญ่ก็จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

นี่นับว่าเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ

หนึ่งในจ้าวมณฑลอดไม่ได้ที่จะบังเกิดความปิติในหัวใจ เขาหัวเราะออกมาและกล่าวว่า “เรื่องใหญ่แบบนี้ มันไม่ใช่สิ่งที่เด็กสาวตัวน้อยๆจะตัดสินใจได้หรอก”

ซูเซี่ยเอ๋อกล่าว “ไม่ หนูมีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจเรื่องนี้ได้”

ว่าแล้ว เธอก็เคาะคทาลงกับพื้นเบาๆ

ปัง!!

พื้นโลกบังเกิดการสั่นสะเทือนเป็นระลอกคลื่น

เงาสีเทาสูงตระหง่านผุดออกมาจากเมฆบนฟ้า ตกลงมาตรงประตูลานกว้าง

มันคือมอนสเตอร์ที่ไม่เคยมีใครพบเห็นมาก่อน

โดยไม่ต้องรีรอให้ฝูงชนตื่นตระหนก เหล่าผู้รักษาความปลอดภัยในสถานที่ดังกล่าวก็เข้าตอบโต้ทันที

ทุกชนิดของอาวุธที่ทันสมัย ผสานไปด้วยเทคนิคมนตราระเบิดเข้าใส่มอนสเตอร์ตัวนั้น

ประกายไฟที่งดงามกระจัดกระจายไปทั่ว

ทว่ามอนสเตอร์กลับดูจะไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย

บรรดาจ้าวมณฑลมองหน้ากัน และเห็นถึงความประหลาดใจในแววตาของอีกฝ่าย

ซูเซี่ยเอ๋อสามารถควบคุมมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ได้หรือนี่?

แถมยังเป็นมอนสเตอร์ที่ต่อให้พวกเขารุมโจมตีด้วยอาวุธและมนตราที่รุนแรงที่สุด ก็ยังไม่ได้รับอันตรายใดๆแม้เพียงน้อย

ซูเซี่ยเอ๋อทำได้อย่างไรกัน?

“นี่ใช่เป็นการทักทายหรือไม่? พวกเขาดูกระตือรือร้นที่จะต้อนรับข้ามากทีเดียว” มอนสเตอร์เอ่ยถามด้วยความภาคภูมิในตนเอง

มีเพียงคำพูดของซูเซี่ยเอ๋อคนเดียวเท่านั้น ที่มันสามารถเข้าใจได้

“เปล่าหรอก พวกเขากำลังใช้พลังของตนเองโจมตีเจ้าอยู่น่ะ” ซูเซี่ยเอ๋อกล่าว

“อ่าว เป็นงั้นหรอกหรือ?” มอนสเตอร์แลดูจะผิดหวังเล็กน้อย

ในเวลานั้นเอง ผู้ฝึกยุทธขอบเขตแก่นทองคำขั้นสูงสุดก็ทะยานตัวขึ้น หมายจะโจมตีเข้าใส่มอนสเตอร์

และเขาคือผู้ที่มีพื้นฐานวรยุทธสูงส่งที่สุดในบรรดาผู้ฝึกยุทธในฉากนี้

“บ๊ะ!”

มอนสเตอร์ถ่มน้ำลายใส่ผู้ฝึกยุทธ

แล้วผู้ฝึกยุทธขั้นแก่นทองคำก็กรีดร้องอย่างน่าเวทยาออกมา บังเกิดกระแสลมอันแข็งกร้าวฉีกกระชากร่างกายของเขา ผสานไปกับน้ำลายที่กัดกร่อนเลือดเนื้ออย่างรวดเร็ว

พริบตาเดียว ทั้งคนทั้งร่างก็หลงเหลือเพียงไม่กี่ส่วน และถูกพัดพาไปกับสายลม

ผู้ฝึกยุทธตลอดทั้งฉากสั่นสะท้าน

ซูเซี่ยเอ๋อลูบไล้คทาของเธอ ย่ำลงบนพื้นดินอย่างแผ่วเบา

เธอลอยตัวขึ้นไปเหนือหัวของมอนสเตอร์ยักษ์ กดสายตาลงมองทุกชีวิตที่อยู่เบื้องล่าง

มอนสเตอร์สัมผัสได้ถึงสภาพจิตใจของเธอ มันจึงเอ่ยเตือนออกมา “ดูเหมือนว่าเกือบทุกคนจะเป็นคนที่ท่านรู้จัก ท่านต้องการที่จะทำแบบนี้จริงๆน่ะหรือ?”

“ไม่จำเป็นต้องพูด ฉันไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขาอีกแล้ว”

ซูเซี่ยเอ่อกล่าวสิ่งที่ตนคิด

เธอยื่นคทาออกมา และโบกมันไปทางเบื้องล่าง

บังเกิดแสงสีขาวพิสุทธิ์พวยพุ่งจากคทา

แสงสีขาวนี้กวาดลงไปตลอดทั้งลานกว้าง โดยที่ไร้ซึ่งสรรพเสียงใดๆ

จ้าวมณฑลทั้งแปดและหลายร้อยผู้ฝึกยุทธ หรือแม้กระทั่งผู้คนทั้งหมดในงานล้วนมิอาจต้านทานได้

เมื่ออยู่ต่อหน้าแสงพิสุทธิ์นี้ พวกเขาไม่มีเวลาแม้จะกรีดร้องด้วยความอนาถ แขนขาถูกแยกออก อวัยวะกระจัดกระจายเป็นชิ้นๆ

ลานกว้างที่เมื่อครู่พลุกพล่านและคึกคักไปด้วยเจ้าของงานและแขกเหรื่อ ได้กลายเป็นทะเลเลือดในพริบตา

หลงเหลือเพียงซูเซิงเหวินกับมาดามซูเท่านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่

ทั้งสองสั่นสะท้านท่ามกลางซากศพ

ซูเซี่ยเอ๋อหลับตาลงแล้วสูดหายใจลึก

ดูเหมือนว่าเธอกำลังรับรู้ถึงความรู้สึกบางอย่าง

“นายหญิง ขอแสดงความยินดีด้วยสำหรับการรับรู้ถึงความตื่นเต้นในการสังหาร” มอนสเตอร์คำราม

“นี่น่ะหรือคือความตื่นเต้นในการสังหาร?”

“ถูกต้องแล้ว” มอนสเตอร์โบกไม้โบกมือของมันด้วยความปิติ

“ … ไม่ใช่หรอก”

ซูเซี่ยเอ๋อลืมตาและกล่าว “นี่มันเป็นแค่วิธีการแก้ปัญหาง่ายๆ และฉันเองก็ไม่รู้สึกอะไรกับมันเลย” เธอกล่าว

“ไม่รู้สึกงั้นหรือ?” มอนสเตอร์เผยถึงความประหลาดใจ

“แน่นอน เพราะพวกเขาพึ่งจะตายเท่านั้น และมันยังไม่จบลงแค่นี้”

ซูเซี่ยเอ๋ออธิบายและยกคทาในมือขึ้น

พร้อมกับร่างลวงตานับไม่ถ้วนถูกยกสูงขึ้นด้วยพลังที่มองไม่เห็นลอยขึ้นมาเหนือลานกว้าง

วิญญาณเหล่านี้ได้ตระหนักถึงสายตาของซูเซี่ยเอ๋อ

วิญญาณทั้งหมดพยายาที่จะหลบหนีออกไป แต่ก็ถูกกักขังอยู่ในบริเวณดังกล่าว และไม่สามารถออกไปไหนได้เลย

ซูเซี่ยเอ๋อจ้องมองไปยังจิตวิญญาณเหล่านั้น

เธอยกคทาขึ้นและชี้ไปที่วิญญาณทั้งหลายที่พึ่งจะสูญเสียร่างกายของตัวเองไป

“จงหลอมรวม” เธอเอ่ยสั่ง

คทาในมือวูบไหว

หลายร้อยวิญญาณต่างพากันเปล่งเสียงสลดขึ้นในเวลาเดียวกัน

วิญญาณเหล่านั้นแตกกระจายโดยสิ้นเชิง กลายเป็นจุดแสงสีดำ

จุดแสงเหล่านั้นหลอมรวมกันเป็นก้อนทรงสี่เหลี่ยมและถูกดูดซึมเข้าไปในคทา

ขณะที่สีของคทาแลดูจะเข้มขึ้น

ซูเซี่ยเอ๋อใช้นิ้วมืออีกข้างเคาะเบาๆลงบนหัวคทา

และใบหน้าของมนุษย์นับไม่ถ้วนก็ผุดออกมาจากคทา จ้องมองเธอด้วยความหวาดกลัว

พวกเขาอ้าขยับปาก พยายามร้องตะโกนขอความเมตตาแต่ก็ไม่สามาถส่งเสียงใดๆได้เลย

ซูเซี่ยเอ๋อจ้องมองคนเหล่านั้นที่กำลังเจ็บปวดและหวาดกลัว

คิ้วที่ขมวดมุ่นของเธอค่อยๆคลายลง

ใช่แล้วล่ะ การแบ่งหรือหลอมรวมวิญญาณน่ะ มันเป็นอะไรที่เจ็บปวดยิ่ง

ความตายจะนับว่าเป็นสิ่งใดกัน เมื่อเทียบกับความเจ็บปวดนี้?

“เจ้าลองมองดูสิ จับพวกเขาเอาไว้แบบนี้ แล้วทรมานจิตวิญญาณของพวกเขา … มันทำให้รู้สึกตื่นเต้นยิ่งกว่าซะอีก … ”

ซูเซี่ยเอ๋อหันไปกล่าวกับมอนสเตอร์

มอนสเตอร์มองไปยังวิญญาณที่กำลังถูกหลอมรวมเข้าด้วยเจ็บปวด ขณะที่ได้ยินเสียงกระซิบเย็นชาของซูเซี่ยเอ๋อ มันก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน

“มีอะไรงั้นหรอ?” ซูเซี่ยเอ๋อเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“ไม่มีสิ่งใด นายหญิงที่เคารพของข้า ข้าพร้อมและยินดีที่จะรับใช้ท่านเสมอ” มอนสเตอร์กล่าวด้วยความเคารพ

มันพยายามที่จะสงบสติอารมณ์

แต่ทันใดนั้นการแสดงออกทางสีหน้าของซูเซี่ยเอ๋อก็เปลี่ยนไปทันใด

เธอเก็บวิญญาณที่กำลังเจ็บปวดทุกข์ทรมานเหล่านั้น และเคาะคทาลงบนหัวของมอนสเตอร์เบาๆ

มอนสเตอร์รู้ถึงสิ่งที่เธอกำลังจะสื่อได้ทันที

มันพาซูเซี่ยเอ๋อทะยานสู่ฟากฟ้า และจากไป

มีเพียงซูเซิงเหวินกับมาดามซูเท่านั้นที่ถูกทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง

ซูเซี่ยเอ๋อไม่ได้เหลือบมองทั้งสองอีกเลยตั้งแต่ต้นจนจบ

แต่หลังจากที่ซูเซี่ยเอ๋อจากไปแล้ว ซูเซิงเหวินกับมาดามซูก็เผยสีหน้าปิติยินดีออกมาทันใด

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ลูกสาวของฉันแข็งแกร่งจริงๆ! คราวนี้ล่ะ ยังจะมีใครอีกที่กล้าขัดขืนฉัน!” ซูเซิงเหวินกล่าว

“แต่ดูเหมือนว่าเธอจะโกรธพวกเรานิดหน่อยนะ” มาดามซูกังวล

“ไม่เป็นไรหรอก!” ซูเซิงเหวินลูบไล้เสื้อคลุมดวงดาราบนตัวเขา “ยังไงเธอก็เป็นลูกสาวของพวกเรา เอาไว้ค่อยหาโอกาสกล่อมเธอทีหลังก็ได้”

ซูเซี่ยเอ๋อทรงพลังเช่นนี้ มันมากพอแล้วที่จะกำจัดปัญหาทั้งหมดในคราเดียว

-ตัวเขายังมีอีกหลายสิ่งที่จำเป็นต้องพึ่งพาเธอในอนาคต!

มาดามซูตบหลังซูเซิงเหวิน “ตอนนี้พวกคนสำคัญๆของอีกทั้งแปดตระกูลก็ได้ตายลงไปแล้ว พวกเราจะต้องรีบกลับไปยังตระกูลซู เพื่อเตรียมการบางอย่างทันที แล้วเร่งลงมือให้ได้รับผลประโยชน์สูงสุด!”

“เธอพูดถูก! พูดถูกแล้ว!”

ซูเซิงเหวินตระหนักได้ทันที เขาพยักหน้าครั้งแล้ว ครั้งเล่า

ในขณะนั้นเอง พวกเขาก็ทำเป็นตามืดบอด ไม่สนใจซากแขนขาและเลือดบนพื้น รีบออกจากลานกว้างไปทันที

ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องเร่งลงมือทำ

ตระกูลซูจะต้องกลายเป็นตระกูลที่มีอำนาจมากที่สุดในสหพันธรัฐรัฐบาลกลาง!

รอยเท้าเลือดสองคู่ย่ำเป็นทาง ไม่นานก็วิ่งหายไปไกล

มอนสเตอร์บินอยู่บนท้องฟ้ายามค่ำคืนอันไร้ที่สิ้นสุด

ซูเซี่ยเอ่อยืนอยู่เหนือหัวของมัน สีหน้าปรากฏถึงความสับสน

“นายหญิง ข้าคิดว่าท่านต้องการจะหลอมรวมจิตวิญญาณให้ดีเสียก่อน แล้วเหตุใดจึงเร่งข้าให้ออกมากัน?” มอนสเตอร์ถามด้วยความงงงวย

“เพราะมีเรื่องฉุกเฉินที่ฉันจะต้องจัดการน่ะสิ” ซูเซี่ยเอ๋อเอ่ยตอบ

ในสายตาของเธอ ปรากฏหนึ่งบรรทัดเส้นแสงขึ้น

“อาจารย์ฝึกสอนของคุณกำลังจะกลับมายังเกาะหมอก กรุณากลับไปทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกค้นพบ”

ซูเซี่ยเอ๋อถอนหายใจ

เธอจะต้องเร่งกลับไปยังเกาะหมอกทันที

แต่ยังไงก็ตาม ผู้ปกครองและตัวตนทรงพลังของเก้าตระกูลใหญ่เกือบทั้งหมดก็ได้ถูกสังหารลงแล้ว ดังนั้นส่วนที่เหลือของเรื่องนี้ก็มอบหมายให้ประธานาธิบดีกับสมเด็จพระจักรพรรดินีเป็นคนจัดการก็แล้วกัน

หากไม่ไหวจริงๆ ก็ฝากให้เย่เฟย์หยู

เพราะคนๆนี้คือกำลังรบที่ยอดเยี่ยมที่สุด

ฉิงซาน …

เมื่อถึงเวลาที่เขากลับมา ทุกสิ่งอย่างจะต้องเป็นระบบระเบียบ

ในหัวใจของซูเซี่ยเอ๋อปรากฏภาพของกู่ฉิงซานขึ้นมา มุมปากของเธออดไม่ได้ที่จะยกสูงขึ้น

ตราบใดที่นึกถึงเขา ความทุกข์ตรมทั้งหมดก็ดูเหมือนว่าจะไม่สำคัญอะไร

วินาทีต่อมา ม่านรังสีแสงก็ปรากฏขึ้น เข้าปกคลุมร่างของซูเซี่ยเอ๋อ

แล้วเธอก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยพร้อมๆกับมอนสเตอร์ยักษ์

Facebook Twitter Telegram Pinterest
World’s Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์

World’s Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์

All-Heaven Armageddon Online, Chư Giới Tận Thế Online, WAO, 诸界末日在线
Score 8.8
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , ต้นฉบับ: 2212 Chapters (จบแล้ว)
อาณาจักรทั้งมวลถึงคราวล่มสลาย จอมมารหมายจะเก็บเกี่ยวชีวิตมนุษย์ทุกชีวิต ท่ามกลางความสิ้นหวังอันมืดมน ชายคนหนึ่งได้ฉีกเส้นแบ่งของเวลาและมิติ หวนคืนสู่โลกในช่วงเวลาก่อนที่มันจะถูกทำลายลงโดยสมบูรณ์.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset